milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
trending
28 มีนาคม 2567
ภาษาไทย

วิเคราะห์โอกาสและความท้าทายกับกลไกค่าธรรมเนียม Fee Switch ใหม่ของ ‘Uniswap’

ข้อเสนอจากนักพัฒนาในระบบนิเวศบนฟอรัมการกำกับดูแลของ Uniswap ได้จุดประกายประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการปรับปรุงกลไกระบบค่าธรรมเนียม ‘Fee Switch’ ใหม่ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงสถานะระบบการจัดการของ Uniswap ที่หลากฝ่ายกำลังกังวลอยู่ได้อย่างมาก รวมถึงเป็นแนวทางที่น่าสนใจในการแก้ไขปัญหาสำคัญของ Uniswap นั่นคือ การนำระบบ Fee Switch มาใช้โดยไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากทางกฎหมายและภาษี 


Article4MART_1200X800.jpg


กระบวนการตรวจสอบข้อเสนอของ Uniswap มีดังนี้:

 

  1. ยื่นข้อเสนอ โดยผู้ถือเหรียญ UNI สามารถยื่นข้อเสนอเพื่อปรับปรุง Uniswap ซึ่งข้อเสนอควรมีรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการเสนอ เหตุผล และผลกระทบที่คาด
  2. อภิปราย โดยข้อเสนอจะถูกนำเสนอต่อชุมชน Uniswap เพื่อการอภิปราย และผู้ถือ UNI สามารถแสดงความคิดเห็น ถามคำถาม และเสนอแนะเกี่ยวกับข้อเสนอ
  3. ลงคะแนนเสียง หลังจากการอภิปราย ผู้ถือ UNI จะลงคะแนนเสียงเพื่อยอมรับหรือปฏิเสธข้อเสนอ โดยข้อเสนอต้องได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 50% จึงจะผ่าน
  4. ดำเนินการ หากข้อเสนอผ่านก็จะดำเนินการตามแผนงานของข้อเสนอ และผู้ถือ UNI สามารถติดตามความคืบหน้าและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการได้อย่างต่อเนื่อง


ทำไมจึงเกิดข้อเสนอนี้ขึ้น?


Uniswap เป็นหนึ่งในโปรโตคอลการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจทำงานบน Ethereum Blockchain ที่เป็นนวัตกรรมและประสบความสำเร็จมากที่สุดในพื้นที่ DeFi ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อ-ขายเหรียญที่เป็นมาตรฐาน ERC-20 ใดๆ ก็ได้ได้อย่างสะดวก และ Uniswap บริหารงานโดยองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Autonomous Organization: DAO) ซึ่งหมายถึงผู้ที่ถือโทเค็น UNI (โทเค็นของ Uniswap) สามารถใช้โทเค็นออกเสียงตัดสินใจและสามารถเสนอโครงการใหม่เกี่ยวกับการพัฒนาแพลตฟอร์ม เช่น เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียม 

ในชุมชน Uniswap ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนของโปรโตคอลมาอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงแนวทางที่เสนอขึ้นมาล่าสุด คือการเพิ่ม 'Fee Switch' ในคู่โทเค็น เพื่อให้ค่าธรรมเนียมถูกกระจายไปยังทั้งผู้ให้ Liquidity Provider (LP) และภาคการกำกับดูแล (Governance) ของ Uniswap

อย่างไรก็ตาม จากข้อเสนอล่าสุดเกี่ยวกับการใช้กลไก Fee Switch สำหรับคู่โทเคน ETH-Stablecoin บางคู่ได้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ และความไม่ชัดเจนด้านภาษี จึงเป็นโอกาสให้เกิดการประเมินแผนงานนี้อีกครั้ง โดยที่จะมีการพัฒนารูปแบบค่าธรรมเนียมที่จะให้ทุกๆ ฝ่ายได้รับประโยชน์

ข้อเสนอนี้เป็นอีกความพยายามที่จะจัดการกับความเสี่ยงที่มีจากแผนการในปัจจุบันและปรับแรงจูงใจระหว่างผู้เข้าร่วมระบบนิเวศทั้งหมดให้ดีขึ้น 


ความท้าทายในการปรับปรุงกลไกค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า Fee Switch 


Fee Switch ของ Uniswap หมายถึงผู้ที่ถือเหรียญ UNI ของ Uniswap จะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากโปรโตคอล จากเดิมที่ 0.3% ถูกแจกจ่ายให้กับผู้ให้สภาพคล่อง (LP) โดยที่เปลี่ยนมาเป็น 0.25% ให้กับผู้ให้สภาพคล่อง และอีก 0.05% ให้กับคนที่ถือเหรียญ UNI นอกจากนี้ ผู้ถือเหรียญ UNI ยังสามารถมีสิทธิออกเสียงเพื่อเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมได้

แต่ข้อเสนอล่าสุดที่กำลังพิจารณา คือการปรับมาใช้กลไก "Fee Switch" กับบางโทเคนเท่านั้น ถึงแม้ว่า Uniswap จะยังคงส่งเสริมความยั่งยืนของโปรโตคอล แต่แผนการปัจจุบันก็ยังมีข้อกังวลต่างๆ ที่กล่าวในข้างต้น เช่น:

  • ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและภาษี: การคิดค่าธรรมเนียมแบบ Fee Switch สำหรับคู่สกุลเงินหลัก เช่น ETH กับ Stablecoin ทำให้เกิดความคลุมเครือด้านกฎระเบียบและภาษี

  • การจัดสรรความเสี่ยง: แผนการในปัจจุบันวางภาระทางกฎหมายและภาษีที่อาจเกิดขึ้นไว้กับ Uniswap DAO และ Stakeholder

  • มีขอบเขตที่จำกัด: การกำหนดเป้าหมายคู่โทเคนที่มีปริมาณสูง เช่น ETH-Stablecoin อาจมีความเสี่ยงสูงและรองรับกับข้อเสนอการเปลี่ยนค่าธรรมเนียมในอนาคต


แนวทางใหม่ที่ถูกนำเสนอ


ข้อเสนอปรับปรุงนี้แนะนำให้เปลี่ยนความรับผิดชอบในการเก็บค่าธรรมเนียมให้กับทีมโทเคนแต่ละทีม โดยมีแนวคิดหลัก คือ:

  • ข้อเสนอจากแต่ละทีมผู้สร้างโทเคน: ทีมที่เปิดตัวโทเคนสามารถส่งข้อเสนอไปยัง Uniswap DAO เพื่อเก็บค่าธรรมเนียมจากโทเคนของพวกเขา ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถควบคุมการสร้างตลาดโทเคนได้มากขึ้น ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ LP และลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการขาดทุนชั่วคราวหรือ Impermanent Loss

  • แต่ละทีมควบคุมการสร้างตลาดเองได้: ทำให้ทีมของแต่ละโทเคนสามารถควบคุมการสร้างตลาดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มสภาพคล่องและกิจกรรมการซื้อขายได้มากขึ้น

  • การออกแบบเพื่อดึงดูดนักลงทุนหรือผู้ให้สภาพคล่อง: ทีมสามารถออกแบบโปรแกรมที่ทำให้ผู้ให้สภาพคล่องในแบบเฉพาะตนได้โดยใช้ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บ ช่วยส่งเสริมให้พฤติกรรมผู้ให้สภาพคล่องปลอดภัยยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงในการขาดทุนชั่วคราว



ข้อดีของข้อเสนอนี้ จะเพิ่มประโยชน์สำหรับทุกฝ่ายได้อย่างไร?

  • โปรโตคอล
    • เพิ่มการควบคุมการสร้างตลาดหรือจับคู่ราคาสำหรับโทเคนของพวกเขา
    • เพิ่มความสามารถในการจูงใจนักลงทุนและผู้ให้สภาพคล่องผ่านโปรแกรมที่ปรับแต่งโดยเฉพาะ
    • เพิ่มแหล่งรายได้อื่นที่เป็นไปได้หากไม่มีการแจกจ่ายค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บทั้งหมด
  • ผู้ให้สภาพคล่อง (Liquidity Provider) :
    • มีศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นผ่านสิ่งจูงใจที่ออกแบบโดยโปรโตคอล
    • เพิ่มความยืดหยุ่นในการเข้าร่วมโอกาสกับ DeFi อื่นๆ
    • การมีส่วนร่วมในชุมชนที่มีเป้าหมายคล้ายกันเพื่อตลาดที่ยั่งยืน
  • ผู้ใช้งาน Swapper: 
    • เกิดการกระจายสภาพคล่องที่ดีขึ้นทั่วทั้งกลุ่ม นำไปสู่ราคาที่ดีขึ้นและค่า Slippage ที่ลดลง
  • Uniswap:
    • เพิ่มความน่าดึงดูดใจของแพลตฟอร์มสำหรับผู้ให้สภาพคล่อง (LP) เนื่องจากการสร้างตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยการให้ทีมของแต่ละโทเคนสามารถควบคุมและสร้างตลาดของตนเองได้มากขึ้น
    • มีแหล่งรายได้ที่เป็นไปได้จากค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากส่วนย่อย (ภายหลังการจัดตั้งโครงสร้างกฎหมาย) 
    • ส่งเสริมนวัตกรรมและการแข่งขันภายในพื้นที่ DeFi

อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกที่เห็นแย้งกับข้อเสนอดังกล่าวเช่นกัน อย่างเช่น “การเปลี่ยนระบบค่าธรรมเนียมตามที่เสนอนั้นไม่มีประโยชน์ใด ๆ ต่อผู้ถือ UNI” และ “การหักค่าธรรมเนียมของผู้ถือเหรียญก็ยังก่อให้เกิดข้อกังวลด้านกฎหมายได้เช่นเดิม” หรือสมาชิกบางคนก็ให้ความเห็นว่าข้อเสนอยังไม่ชัดเจดมากพอและไม่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทีมหรือโปรโตคอลมากนักหรืออาจไม่มีผลเลย 

การรับมือกับข้อกังวล 

  • การตรวจสอบและประเมินข้อเสนอของทีม โดย Uniswap DAO จะใช้กระบวนการตรวจสอบสถานะสำหรับแต่ละข้อเสนอเพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องตามกฎและน่าเชื่อถือ
  • กลยุทธ์การกระจายสภาพคล่อง จากข้อเสนอนี้จะให้ทีมของโปรโตคอลเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การกระจายสภาพคล่องที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกลุ่มของตน 
  • กลไกการจ่ายค่าธรรมเนียม โปรโตคอลสามารถเลือกวิธีการต่างๆ เพื่อกระจายค่าธรรมเนียมได้อย่างยืดหยุ่น เช่น Merkle Distributor หรือใช้โซลูชันที่กำหนดเอง


สรุปภาพรวมและขั้นตอนต่อไป


โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าการเสนอแนวคิดทางเลือกนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนทั้งเรื่องของภาษี กฎหมายและวิธีการดำเนินการค่าธรรมเนียม ด้วยการแบ่งหน้าที่ให้กับทีมของโทเคนต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์จากระบบ Fee Switch ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับ Uniswap DAO เองอีกด้วย และขั้นตอนต่อไปเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนขึ้น คือ:

  • มีการหารือภายในชุมชน: เนื่องจากข้อเสนอนี้จะได้รับประโยชน์จากการหารือเพิ่มเติมภายในชุมชน Uniswap เพื่อประเมินความเป็นไปได้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด
  • การวิเคราะห์ทางกฎหมายและภาษี: การมีส่วนร่วมของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและภาษีในการวิเคราะห์ผลกระทบของแนวทางของข้อเสนอนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งก่อนการนำไปใช้จริง


—-------------------------------



Source:

https://gov.uniswap.org/t/uniswap-proposal-an-alternative-use-case-for-the-fee-switch/20779 

https://uniswap.org/governance

https://gov.uniswap.org/t/a-deep-dive-of-uniswaps-governance/19792

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept