milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
trending
04 เมษายน 2567
ภาษาไทย

เบื้องหลังการทำงานของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model)

โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model: LLM) คือ อัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึกและเป็น AI ประเภทหนึ่งที่เรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งกำลังปฏิวัติวิธีที่เราโต้ตอบกับเครื่องจักร โดยความมหัศจรรย์ของ AI เหล่านี้สามารถเข้าใจและสร้างภาษาของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ AI กลายเป็นผู้พลิกโฉมแอปพลิเคชันต่างๆ ขึ้นมากมาย แต่โมเดลที่ซับซ้อนเหล่านี้มีการสร้างและเรียนรู้ได้อย่างไร? มาเจาะลึกโลกของการฝึก LLM กันในบทความนี้


Article6MART_1200X800.jpg



เหตุใดโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) จึงมีความสำคัญ


LLM มีศักยภาพมหาศาลด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น:

  • การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP): LLM นำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย โดยเฉพาะสามารถทำงานประมวลผลภาษาธรรมชาติที่ซับซ้อน เช่น การแปล การสรุปข้อความ และการตอบคำถามด้วยความแม่นยำสูง

  • การสร้างเนื้อหา:  LLM สามารถสร้างรูปแบบข้อความสร้างสรรค์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่บทกวีไปจนถึงการเขียนโค้ด ซึ่งเป็นการส่งเสริมช่องทางใหม่สำหรับการสร้างเนื้อหา

  • การโต้ตอบส่วนบุคคล: LLM สามารถปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ในแชทบอท ผู้ช่วยเสมือน และแอปพลิเคชันเชิงโต้ตอบอื่นๆ ให้เป็นแบบส่วนตัวได้


โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มีกี่ประเภท?


โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มีการใช้งานหลายประเภท ความแตกต่างส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับวิธีการฝึกและการนำไปใช้งาน สามารถแบ่งเป็นประเภทหลักได้ดังนี้

  • โมเดลแบบ Zero-Shot: เป็นโมเดลการเรียนรู้ภาษาขนาดใหญ่ทั่วไปที่ฝึกโดยใช้ข้อมูลจำนวนมากเพื่อสร้างคำตอบสำหรับคำถามที่ป้อนเข้าไปโดยผู้ใช้ โดยทั่วไปโมเดลเหล่านี้ไม่มีการฝึกพิเศษเพิ่มเติมใดๆ

  • โมเดลที่ปรับแต่งแล้ว (Fine-Tuned Model) หรือโมเดลเฉพาะโดเมน: เมื่อโมเดลแบบ Zero-Shot ได้รับการฝึกเพิ่มเติม ผลลัพธ์ที่ได้อาจเป็นโมเดลที่ปรับแต่งแล้ว (Fine-Tuned Model) ซึ่งมักจะมีขนาดเล็กกว่าโมเดลแบบ Zero-Shot เนื่องจากออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะทางมากขึ้น ตัวอย่างเช่นโมเดลสำหรับสร้างโค้ดอย่าง Codex ของ OpenAI ก็เป็นโมเดลที่ปรับแต่งแล้วซึ่งได้รับการปรับเพิ่มเติมจาก GPT-3 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าและเป็นแบบ Zero-Shot หรืออย่าง BloombergGPT เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทำงานด้านการเงินโดยเฉพาะ

  • โมเดลแบบ Edge หรือ On-device: โมเดลแบบ Edge สามารถทำงานได้เหมือนโมเดลที่ปรับแต่งแล้ว แต่โดยทั่วไปจะมีขอบเขตที่เล็กกว่าอีก โมเดลประเภทนี้มักออกแบบมาเพื่อสร้างผลลัพธ์เบื้องต้นตามข้อมูลอินพุตของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น Google Translate เป็นตัวอย่างของโมเดลแบบ Edge ที่ใช้งานได้จริง


การใช้งานทั่วไปของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)


แอปพลิเคชันหรือการใช้งานของ LLM มีหลากหลายและมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่โดดเด่น:

  • การแปลด้วยคอมพิวเตอร์: LLM กำลังขยายขอบเขตความสามารถของการแปลด้วยคอมพิวเตอร์ และทำให้สามารถสื่อสารข้ามภาษาได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

  • แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน: LLM สามารถขับเคลื่อนแชทบอทอัจฉริยะที่สามารถเข้าใจและตอบสนองต่อคำถามของผู้ใช้ด้วยวิธีที่เป็นธรรมชาติและน่าดึงดูด

  • การสรุปข้อความ: LLM สามารถสร้างสรุปโดยย่อของเอกสารที่มีความยาวได้ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาของผู้ใช้

  • การตลาดคอนเทนต์: สามารถช่วยในการสร้างคอนเทนต์โดยการสร้างแนวคิด ช่วยเขียนแบบร่าง และเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาที่เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา


โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ได้รับการฝึกอย่างไร?


กระบวนการฝึกสำหรับ LLM เกี่ยวข้องกับสองขั้นตอนสำคัญ:

  • การฝึก Pre-Training: LLM ฝึกด้วยข้อมูลข้อความจำนวนมหาศาล เช่น หนังสือ บทความ และโค้ด จากหลายแหล่งที่มา และด้วยการวิเคราะห์ชุดข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้ LLM จะเรียนรู้ความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างคำต่างๆ และวิธีการทำงานของภาษาโดยทั่วไป อธิบายง่ายๆ ลองนึกภาพ LLM กำลังอ่านหนังสือในห้องสมุดขนาดยักษ์ และซึมซับความซับซ้อนของภาษามนุษย์ไปพร้อมกัน

  • การปรับแต่งแบบละเอียด (Fine-Tuning): หลังจากการฝึก Pre-Training เสร็จสิ้น โมเดล LLM นั้นๆ จะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมสำหรับงานเฉพาะ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการฝึกโมเดลบนชุดข้อมูลขนาดเล็กที่ปรับให้เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น LLM สำหรับการเขียนบทความข่าวอาจมีการปรับแต่งชุดข้อมูลของบทความเกี่ยวกับข่าวอย่างละเอียด


เบื้องหลังการเรียนรู้ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)

  • การทำนายคำถัดไปคือหัวใจสำคัญ: หากมองข้อความเป็นลำดับของคำ เช่น ประโยคหรือย่อหน้า LLM จะมีความโดดเด่นในเรื่องการทำนายคำถัดไปของลำดับคำเหล่านั้น ซึ่งคล้ายกับการจำแนกความรู้สึก (Sentiment Classification) แต่แทนที่จะมีเพียงไม่กี่ประเภท LLM ต้องจัดการกับจำนวนประเภทที่มหาศาล และอาจมากถึงหลายล้านคำ! ซึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ก็คือการทำนายคำถัดไป

  • พลังของโครงข่ายประสาทเทียม: แม้การทำนายคำจะมีความซับซ้อนอย่างมาก แต่ด้วยระบบโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) ทำให้ LLM บรรลุเป้าหมายนี้ได้ด้วยการลดทอนความซับซ้อนลง จึงทำให้สามารถสร้างข้อมูลการฝึกจำนวนมหาศาลจากแหล่งข้อมูลออนไลน์และแหล่งต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย และสิ่งที่น่าทึ่งคือเราไม่จำเป็นต้องติดฉลากข้อมูล (จัดประเภทข้อมูลดิบ) เหล่านี้ด้วยตนเอง เนื่องจากคำถัดไปจะทำหน้าที่เป็นฉลากหรือจัดประเภทข้อมูลเอง ซึ่งเรียกว่า การเรียนรู้แบบไม่ต้องมีการดูแล (Self-Supervised Learning)

  • กระบวนการฝึก: กระบวนการฝึก LLM เกี่ยวข้องกับการนำลำดับ (Sequence) แบบเดี่ยวมาแปลงเป็นลำดับแบบหลายชุดในการฝึก ซึ่งจะดำเนินการในความยาวและสั้นของลำดับที่หลากหลาย เพื่อให้แน่ใจว่า LLM สามารถเรียนรู้คำถัดไปที่เหมาะสมในบริบทใดก็ตาม

ตัวอย่าง: ลองนึกภาพว่าเรามีประโยคต่อไปนี้: "แมวตัวสีส้มกำลังนั่งอยู่บน" และการฝึก LLM จะต้องทำนายคำถัดไปอย่างเป็นลำดับ ซึ่งอาจเป็น: "โซฟา", "เก้าอี้", "พื้น", "โต๊ะ" และจะต้องเลือกคำที่มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดตามบริบทของประโยค



จากการทำนายคำนำไปสู่การสร้างข้อความ


เมื่อ LLM สามารถทำนายคำถัดไปได้แล้ว ก็สามารถนำไปใช้สร้างข้อความได้โดยการป้อนลำดับคำที่ถูกขยายออกไปกลับคืนสู่โมเดลและทำนายคำถัดไปต่อซ้ำๆ กระบวนการนี้ช่วยให้ LLM ทำหน้าที่เป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากข้อมูลที่มี (Generative AI) ที่เหมือนกับถูก "สอนให้พูด" ทีละคำ

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ LLM ไม่จำเป็นต้องเลือกคำที่มีแนวโน้มสูงสุดเสมอไป เนื่องจากสามารถสุ่มตัวอย่างจากกลุ่มของคำที่อาจเป็นไปได้ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์มากขึ้น และเป็นเหตุผลที่ LLM บางตัวให้คุณสามารถควบคุมระดับความแม่นยำหรือความคิดสร้างสรรค์ในข้อความที่สร้างขึ้นได้


โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) สามารถนำมาใช้ในธุรกิจได้อย่างไร


ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก LLM ได้หลายวิธีเพื่อสร้างความได้เปรียบ เช่น:

  • ปรับปรุงการบริการลูกค้า: LLM สามารถขับเคลื่อนแชทบอทที่สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าให้เป็นแบบส่วนตัวได้

  • การตลาดและการสร้างเนื้อหา: LLM สามารถปรับปรุงการสร้างเนื้อหาโดยการสร้างแนวคิด สร้างเนื้อหาฉบับร่าง และสร้างคำโฆษณา ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร

  • การวิจัยและการวิเคราะห์ตลาด: สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและการสนทนาบนโซเชียลมีเดียที่มีอยู่นับไม่ถ้วน เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกไปประเมินค่าเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและความต้องการของลูกค้า


สรุป 


LLM เรียนรู้ผ่านกระบวนการฝึกที่ซับซ้อนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลและอาศัยพลังประมวลผลของโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) เพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการฝึก ผลลัพธ์ที่ได้คือโมเดลที่สามารถเข้าใจและสร้างภาษาได้เหมือนภาษามนุษย์

อย่างไรก็ตาม LLM ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และอาจสร้างข้อความที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงหรือมีอคติของ AI ได้เช่นกัน

เทคโนโลยี LLM มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงสามารถคาดหวังได้ว่าจะมีแอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกมากมายในอนาคต ซึ่งมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราสร้างและโต้ตอบกับเนื้อหา ข้อมูล และความรู้ได้อีกมากมาย


—----------------------------------------

 

Sources

https://aws.amazon.com/blogs/aws/generative-ai-with-large-language-models-new-hands-on-course-by-deeplearning-ai-and-aws/ 

https://medium.com/data-science-at-microsoft/how-large-language-models-work-91c362f5b78f

https://www.investopedia.com/large-language-model-7563532 

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept