milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
trending
28 มีนาคม 2567
ภาษาไทย

เกาหลีใต้เตรียมหารือกับประธาน SEC เกี่ยวกับการกำกับดูแล NFT และ Bitcoin ETF

หลังการอนุมัติ Bitcoin ETF ล่าสุดในสหรัฐอเมริกา Lee Bok-hyun หัวหน้าฝ่ายบริการกำกับดูแลทางการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) ได้เตรียมเข้าพบกับ Gary Gensler ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพื่อหารือในระดับสูงเกี่ยวกับแนวทางการกับดูแล Bitcoin ETF และ NFT ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2024 นี้


Article3MARTH_1200X800.jpg


ทำไมต้องขอคำแนะนำจาก SEC และประเด็นสำคัญที่คาดว่าจะเกิดการหารือมีอะไรบ้าง? 



การนัดพบกันในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้เกิดวิกฤติทางกฎระเบียบ โดยต้องการจะเข้ามากำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในปีนี้ ซึ่งการนัดพบปะหารือครั้งนี้จะเป็นการปรึกษาขอแนวทางด้านกฎหมายสำหรับการจัดประเภทสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนี้


  • กฎระเบียบสำหรับกองทุน Spot Bitcoin  ETF: ปัจจุบันเกาหลีใต้ห้ามการซื้อขายกองทุนเหล่านี้ ในขณะที่สหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติ ซึ่งการหารือครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่กรอบการกำกับดูแลที่อาจเกิดขึ้นสำหรับกองทุน Spot Bitcoin  ETF ในเกาหลีใต้

  • การจัดประเภท NFT: ปัจจุบัน NFT ยังไม่ถือเป็น "สินทรัพย์ดิจิทัล" ในเกาหลีใต้ การหารือครั้งนี้จะหาความเป็นไปได้ในการรวม NFT ไว้ในขอบเขตของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือของสะสมดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแล

การประชุมที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้อยู่ท่ามกลางตลาด NFT ที่เริ่มกลับมาเป็นกระแส และถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตแตะ 3.2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 ตามข้อมูลของ Statista


ด้วยความสนใจที่ในเทคโนโลยี Blockchain ที่มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอุตสาหกรรมศิลปะ บันเทิง และเกมของเกาหลีใต้กำลังมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน Blockchain กันอย่างแข็งขัน



ความท้าทายด้านกฎระเบียบกับสินทรัพย์ดิจิทัล


สถานะทางกฎหมายของการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain หรือ Web3 ยังคงไม่ชัดเจน สร้างการถกเถียงว่าควรได้รับการยกเว้นจากกฎระเบียบที่จะออกมาในอนาคตหรือไม่ เนื่องจากลักษณะการเก็งกำไรและความคลุมเครือในการจัดประเภทสินทรัพย์ดิจิทัล หรืออย่างเช่นในเกาหลีที่มีการควบคุมการแลกเปลี่ยนคริปโตอย่างเข้มงวดและจำกัดการเข้าถึงสำหรับนักลงทุน


ผู้สนับสนุนคริปโตต่างมีความคิดเห็นว่าการสร้างกฎระเบียบสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลอาจขัดขวางการสร้างสรรค์ นวัตกรรมหรือถูกจำกัดเสรีภาพ เนื่องจากคริปโตควรเป็นระบบที่ไร้การควบคุมจากบุคคลที่สาม รวมถึงสามารถส่งผลทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าถึงตลาดยากขึ้น นอกจากนี้ ปัญหาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวก็เป็นที่น่ากังวลอย่างมาก เนื่องด้วยการติดตามธุรกรรม NFT อย่างใกล้ชิดมากขึ้นอาจส่งผลให้ข้อมูลสำคัญตกอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี


อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกยังคงศึกษาเกี่ยวกับการเงินดิจิทัล และชุมชนที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัลต่างรอผลการประชุมที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกฎหมายสินทรัพย์เสมือนจริงของเกาหลีใต้ (Virtual Asset Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อกำจัดการกระทำที่ผิดกฎหมายของตลาด เช่น การใช้ข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยสำหรับการลงทุนคริปโต และการทำธุรกรรมที่ฉ้อโกง เป็นต้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังและสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจดิจิทัลโลกได้



สรุปความท้าทาย:

  • การรักษาสมดุลระหว่างนวัตกรรมและกฎระเบียบ: การสร้างกฎระเบียบใหม่อาจขัดขวางนวัตกรรมและทำให้การเข้าสู่ตลาดเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และข้อบังคับที่เข้มงวดเกินไปอาจขัดขวางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ NFT และ Bitcoin ETF ใหม่ๆ ได้ ซึ่งอาจไปจำกัดการเติบโตและวิวัฒนาการของตลาด หรือหมายถึงผิดจากคอนเซปต์ที่แท้จริงของระบบการจายศูนย์ของโลกคริปโต

  • ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว: การติดตามธุรกรรม NFT อย่างใกล้ชิดก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยทั่วไปเจ้าของ NFT สามารถเก็บที่อยู่ของกระเป๋าเงินไว้เป็นความลับเพื่อป้องกันแฮกเกอร์และผู้หลอกลวง แต่หากถูกเข้ามาควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้นก็ย่อมมีความเสี่ยงที่ข้อมูลรั่วไหลได้เช่นกัน

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น


ผลลัพธ์ของการหารือครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลของเกาหลีใต้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก โดยจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่างๆ เช่น:

  • มีความชัดเจนและเสถียรภาพที่เพิ่มขึ้น : เมื่อมีข้อบังคับที่ชัดเจนสำหรับ NFT และ Bitcoin Spot ETF ก็จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและคาดการณ์ได้ง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุน ซึ่งสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมใหม่สู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก

  • การคุ้มครองนักลงทุนที่ดีขึ้น : เมื่อมีข้อบังคับที่เป็นมาตรฐานย่อมนำไปสู่การคุ้มครองนักลงทุนที่ดีขึ้น อย่างการผ่านข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูล มาตรการป้องกันการฉ้อโกง และการปฏิบัติตามมาตรการที่ช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นในตลาด

 

  • ลดความแตกแยกของตลาด : หากมีแนวทางการกำกับดูแลที่กลมกลืนกันในหลายประเทศสามารถช่วยลดความแตกแยกของตลาด ซึ่งช่วยให้การซื้อขายข้ามพรมแดนราบรื่นขึ้นและช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดโดยรวม

  • การรับรองตลาด : การรับรองและการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น จีงช่วยดึงดูดนักลงทุนสถาบันและเปิดช่องทางการลงทุนใหม่ๆ


โดยทั่วไปผลของการประชุมระหว่างตัวแทนจากเกาหลีใต้กับ SEC อาจสร้างผลกระทบสำคัญต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกได้ เนื่องจากเกาหลีใต้ก็เป็นหนึ่งในผู้นำหน่วยงานกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและมักปรับระเบียบการกำกับดูแลคริปโตตามสหรัฐฯ อย่างเช่นการห้ามใช้บริการปกปิดธุรกรรม หรือห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต 

รวมถึงประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นอื่นๆ ทั้งด้านความชัดเจน เสถียรภาพ และการคุ้มครองนักลงทุน รวมถึงการรับมือกับความท้าทายในการส่งเสริมนวัตกรรมควบคู่ไปกับการใช้กฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพจะเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

ดังนั้น การติดตามความคืบหน้าของการประชุมเหล่านี้อย่างใกล้ชิดรวมถึงการตัดสินใจด้านนโยบายที่ตามมาจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจแนวโน้มในอนาคตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก

—-------------------

Source:

https://nftplazas.com/south-korea-sec/ 

https://beincrypto.com/south-korea-wants-spot-bitcoin-etf/ 

​​https://www.financemagnates.com/cryptocurrency/south-korean-financial-watchdog-turns-to-sec-for-bitcoin-etf-guidance/  

https://www.coindesk.com/videos/ 

https://cointelegraph.com/news/s-korea-regulator-spot-bitcoin-etf-sec-chief-gary-gensler 

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Accept