The next crypto figures to watch in 2024: บุคคลน่าจับตามองของโลกคริปโตในปี 2024

ตลาดคริปโตยังคงมีความคึกคักอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ทั้งเรื่องของราคาเหรียญในตลาด เรื่องของกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ที่เริ่มปรับเปลี่ยน รวมไปถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น และอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ Figures หรือบุคคลและองค์กรทั้งเก่าและใหม่ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อตลาด 

และในบทความนี้เราจะพาไปส่องแนวโน้มของบุคคลสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในปี 2024 จาก Crypto Theses for 2024 ของ Messari

10 บุคคล-องค์กรที่น่าจับตามองในโลกคริปโตปี 2024

Spot ETF: Larry Fink จาก BlackRock และ Cathie Wood จาก ARK Invest

• BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนระดับโลก กับการเดินในตลาด Crypto ETF ซึ่ง BlackRock ได้เปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF ไปเมื่อปลายปี 2023 และกำลังรอการอนุมัติเปิด Spot Ethereum ETF จาก SEC สหรัฐฯ 
• ข่าวสำคัญอย่างการที่ SEC สหรัฐฯ อนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF ของ BlackRock ถูกมองว่าเป็นอีกก้าวของโลกคริปโต ภายใต้การบริหารของ Larry Fink ที่มองว่า หากสามารถเปิดกองทุน Bitcoin ETF และ Ethereum ETF จะเป็นตัวปฏิวัติโลกการเงินในอนาคต
• หากกล่าวถึง Larry Fink ก็ต้องนึกถึง Cathie Wood แห่ง ARK Invest ซึ่งนับได้ว่าเป็นเจ้าแรกของตลาดในการยื่นขอเปิดกองทุน Spot ETF กับ SEC สหรัฐฯ
• ล่าสุดหลังจากมีการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ไปเมื่อต้นเดือนมกราคม 2024 การแข่งขันของ 2 เจ้าใหญ่จะเป็นที่น่าจับตามองยิ่งขึ้น

Stablecoin: Jeremy Allaire และ Dante Disparte จาก Circle

• Circle หนึ่งในบริษัทที่ถูกจับจ้องในตลาดคริปโตมาโดยตลอด โดยเฉพาะ USDC ที่ถึงแม้ว่าจะถือส่วนแบ่งทางตลาดเป็นลำดับ 2 รองจาก Tether แต่กลับมีบทบาทต่อตลาดเป็นอย่างมาก
• จากรายงานของ Messari ชี้ว่า Circle มีแนวโน้มจะได้รับผลกำไรอีกมหาศาล หากข้อกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin ได้รับอนุมัติจากสหรัฐฯ และบุคคลที่ต้องจับตามมอง คือ Jeremy Allaire และ Dante Disparte เพราะมีทั้งเข้าใจในข้อกฎหมายและประสบการณ์ในโลกการเงิน จะเป็นตัวช่วยให้ Stablecoin ก้าวไปสู่จุดใหม่ได้
• ล่าสุด Circle ได้เล็งที่จะ IPO ในปี 2024 นี้ พร้อมกับประกาศความก้าวหน้าในโครงการต่าง ๆ อย่างการจับมือเป็น Long-term Partner กับ Coinbase และการจับมือกับพันธมิตรในหลายประเทศทั่วโลก ทั้ง ญี่ปุ่น (เอเชีย), ชิลี (ละตินอเมริกา), ฟิลิปปินส์ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) เป็นต้น

Crypto Ecosystem Support: Kristin Smith จาก Blockchain Association และ Michael Carcaise จาก Fairshake PAC

• Blockchain Association ภายใต้การบริหารของ Kristin Smith เป็น องค์กรไม่แสวงผลกำไร เป็นศูนย์รวมของบุคคลสำคัญ นักลงทุน องค์กร และสถาบันทั้งรัฐและเอกชน ที่มีบทบาทในโลกคริปโต และต้องการที่จะเดินหน้าพัฒนาระบบนิเวศคริปโตในสหรัฐฯ ออกแบบและสนับสนุนนโยบายที่จะช่วยให้เศรษฐกิจคริปโตประสบความสำเร็จ
• ช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา มีการจัด Policy Summit สำหรับสมาชิกของ BA เท่านั้น โดยในงานได้มีการพูดคุย ถกประเด็นด้านนโยบาย กฎหมาย และอนาคตของ Digital Asset ผ่านกลุ่มผู้นำในสหรัฐฯ ผู้ออกกฎหมาย กลุ่มนักกฎหมาย และตัวแทนสมาชิกใน BA นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการนำระบบนิเวศคริปโตไปสู่ความก้าวหน้า
• เช่นเดียวกับ Fairshake PAC ที่นำโดย Michael Carcaise โดย Fairshake จะทำการส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโต ผ่านการสนับสนุนบุคคลเข้าไปช่วยแก้กฎหมาย และนโยบาย ในรัฐสภาสหรัฐฯ และขอบเขตที่เกี่ยวข้อง
• ความสำเร็จที่เป็นที่จดจำจากการสนับสนุนของ Fairshake คือ การคว้า 17 จาก 18 เก้าอี้ที่นั่ง Senate ที่สนับสนุนวงการคริปโต

Anti: Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ

• เมื่อพูดถึงบุคคลที่น่าจับตามองในวงการคริปโตแล้วจะไม่เอ่ยถึงชื่อนี้ไม่ได้เลย กับ Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ได้สนับสนุนตลาดคริปโตมาโดยตลอด 
• Elizabeth Warren ได้ยื่นเสนอร่างกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Anti-Money Laundering Act) ซึ่งเป็นการกดดันให้ธุรกิจหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ต้องมีการรวมรวบและยื่นข้อมูลผู้ใช้งาน ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะทำให้ข้อมูลรั่วไหล ซึ่งเป็นการกดดันให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องถอนตัวออกจากสหรัฐฯ และกลับไปสู่บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม
• อย่างไรก็ตาม มีข่าวออกมาว่า จริงๆ แล้ว Elizabeth Warren นั้นต้องการที่จะสนับสนุน CBDC หรือ Central Bank Digital Currencies ด้วยการสกัดขาคริปโต และนำ CBDC เข้ามาแทนที่ในตลาดสหรัฐฯ 

 Positive for Crypto: Elon Musk, Tucker Carlson, และ Vivek Ramaswamy

• 3 บุคคลที่นับว่าเป็นดาวเด่นในการถกประเด็นคริปโต Elon Musk, Tucker Carlson, และ Vivek Ramaswamy ที่ได้มีการเคลื่อนไหวออกมาบ่อย ๆ ทั้งในข่าว และ Social Media ซึ่งผลที่ตามมาคือ สามารถสร้าง Impact ให้กับผู้ที่สนใจคริปโตได้มากทีเดียว
• Elon Musk นอกจากธุรกิจในอุตสหกรรมอวกาศ และอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว Musk ได้มีบทบาทนักวิจารณ์บน X แพลตฟอร์มของเขาเอง อย่างไรก็ตาม Musk ถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อโลกคริปโต นับตั้งแต่ข่าวเหรียญ Dogecoin รวมไปถึงการเปิดพื้นที่ให้ถกประเด็นคริปโตบน X ได้
• Tucker Carlson ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ที่ได้โบกมือลา Fox News เมื่อกลางปี 2023 ซึ่ง Carlson ก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ออกมาสนับสนุนคริปโต อย่างเช่นประเด็นข่าวที่เขาแสดงความเห็นต่อการจัดการเรื่องคริปโตของรัฐบาล Biden
• Vivek Ramaswamy อีกหนึ่งบุคคลที่น่าสนใจ ผู้คอยสนับสนุนคริปโตมาอย่างต่อเนื่อง Ramaswamy ได้ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ และแสดงความเห็นต่อการพัฒนาระบบนิเวศคริปโต โดยได้เสนอ Three Freedoms of Crypto Policy และเขาเองก็เป็นหนึ่งใน Candidate ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จาก Republican ในปี 2024 อีกด้วย 

Investor Partner: Michael Sonnenshein และ Craig Salm แห่ง Grayscale

• Grayscale บริษัทจัดการสินทรัพย์คริปโตรายใหญ่ของโลก ที่ช่วยบริหารจัดการการลงทุนในคริปโต และ ETF โดยมี Michael Sonnenshein เป็น CEO และ Craig Salm เป็น CLO
• หลังจากที่ DCG เกิดปัญหาเพราะเหตุการณ์ของ Gemini และ Genesis ทำให้ Grayscale ขยับขยายไปมากขึ้น ในขณะเดียวกันหลังจาก SEC สหรัฐฯ อนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF ทาง Grayscale ก็กลายเป็นผู้ที่ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้ออก Spot Bitcoin ETF
• Grayscale เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พบว่า มีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดที่จัดการโดยบริษัทฯ อยู่มากกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ฯ 

Impactful and Entertaining Investors: Nic Carter และ Matt Walsh จาก Castle Island Ventures

• เรียกได้ว่า เป็นบุคคลที่เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อวงการคริปโตในช่วงปีที่ผ่านมา Nic Carter และ Matt Walsh ที่ได้ออกมาวิจารณ์และแสดงความเห็นต่อนโยบาย และโครงการต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วออกมาจากส่วนกลาง หรือรัฐบาลสหรัฐฯ
• Carter เป็น General Partner ของ Castle Island Ventures โดย Carter ได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ผ่านงานเขียน อย่างเช่น มุมองต่อ Bitcoin และ Bitcoin mining รวมไปถึงรายงานการเปลี่ยนแปลงของ Stablecoin ในมุมด้านการกำกับดูแล พร้อมได้วิจารณ์ถึงโครงการ Choke Point 2.0 ของรัฐบาล Biden ที่มองว่าจะเป็นการระงับคริปโตแบบอ้อม ๆ 
• เช่นเดียวกับ Walsh เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ออกมาแสดงความเห็นต่อ Prometheus ที่ได้รับการรองรับจาก SEC ซึ่งเขามีความสงสัยในขั้นตอนความเป็นมาเป็นไปที่ Prometheus ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก SEC นอกจากนี้เขายังมีความกังวลและสงสัยใน SAB 121 กฎที่ออกโดย SEC ซึ่งมีเบื้องหลังเป็น Gary Gensler และ Elizabeth Warren ในการกดดันไม่ให้บริษัทใน Wall Street สนับสนุนคริปโต 

Real-World Assets: Lucas Vogelsang จาก Centrifuge, Denelle Dixon จาก Stellar และ Christine Moy จาก Apollo

• ประเด็นของ Real-World Asset (RWA) ก็มีอยู่ 3 เจ้าที่กำลังน่าสนใจ คือ Centrifuge, Stellarและ Apollo 
• Centrifuge เป็นแพลตฟอร์มแรก ๆ ที่เลือกลงตลาด RWA และนับว่าเป็นเจ้าใหญ่ โดยมีบริการ Borrow-Lend-Vote รองรับสินทรัพย์จากโลกจริง ซึ่งปัจจุบันนี้ Centrifuge มีมูลค่าเหรียญตามตลาดสูงที่สุด (Highest token market cap) และมีส่วนแบ่งทางการตลาดของบริการสินเชื่อ Private Loans
• Stellar เป็นองค์กรที่สนับสนุนการสร้าง Ecosystem ทางการเงินที่ดีมากขึ้น ด้วยการเชื่อม Decentralized Network เข้ากับโลกจริง ซึ่ง Stellar ได้รับความสนใจและการสนับสนุนจากสถาบันทางการเงินหลายแห่ง อย่างเช่น Franklin Templeton Investment ที่เล็งเห็นว่า Stellar มีความน่าสนใจและควรจะนำมาใช้เป็นสนามทดลอง Tokenized Treasury
• Apollo ผู้ช่วยในการจัดการด้านการลงทุนโดย Christine Moy ที่ในอดีตเคยเป็นหัวหน้าทีม Blockchain ของ J.P.Morgan ซึ่ง Apollo เองมีโปรเจกต์ร่วมกับ Onyx by J.P.Morgan ชื่อว่า Project Guardian ในการออก Proof of Concept สำหรับ Tokenized สินทรัพย์และช่วยในการจัดการการลงทุน โดยมี Monetary Authority of Singapore หรือ องค์การเงินตราแห่งประเทศสิงคโปร์สนับสนุน 

Social Apps: Dan Romero จาก Farcaster และ 0x Racer จาก friend.tech

• จะเป็นอย่างไร หาก X ไม่ให้มีการโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวกับคริปโต? โดย Ryan Selkis ผู้เขียน Crypto Theses for 2024 มองว่า Farcaster จะเป็นพื้นที่ใหม่ให้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็น 
• Farcaster คือ Decentralized Social Network บน Ethereum ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ที่ Dan Romero ออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับ Twitter และ Reddit แต่เนื่องจาก Farcaster เป็นพื้นที่สาธารณะ ผู้ใช้งานจึงสามารถสร้างแอปฯ​ เพื่ออ่านและเขียน Data และสามารถโยกย้ายจากแอปฯ หนึ่งไปแอปฯ หนึ่งได้อย่างอิสระ
• และความก้าวล้ำของ SocialFi ก็ต้องตกเป็นของ friend.tech เพราะโมเดลของแพลตฟอร์มนี้มีความน่าสนใจมาก ตรงที่ผู้ใช้แต่ละรายสามารถเชื่อมบัญชีตัวเองกับบัญชี X ได้ และจะต้องมีการลงทุนเพื่อได้พูดคุยกับคนที่เราสนใจ ซึ่งบน friend.tech ก็จะมีคนดังจากโลกคริปโต คนดังจาก X รวมไปถึงคนจาก OnlyFan ที่สนใจเข้ามาเล่น โดยเจ้าของบัญชีบน friend.tech สามารถเก็งกำไรจากการเปิดให้คนเข้ามาพูดคุยได้ เพราะยิ่งมีคนเข้ามาคุยด้วยมากเท่าไหร่ ราคาหุ้นของบัญชีก็จะแพงขึ้นตาม

The DeFi Gang(s)

• ในกลุ่มสุดท้าย จากรายงาน Crypto Theses for 2024 ชี้ว่า กลุ่มที่น่าสนใจคือ กลุ่ม Founders จาก DeFi Summer เมื่อปี 2022 ที่หลายคนกำลังรอผลงานให้ออกมาสู่ตลาดอย่างเต็มรูปแบบ

จะเห็นว่ายังคงมีรายชื่อที่เราคาดว่าจะเห็นจากรายงานฉบับนี้ อย่างเช่น Circle, Grayscale, BlackRock, Musk แต่ความน่าสนใจคือ มีอีกหลายกลุ่มที่มาจากมุมมองที่ต่างกันต่อคริปโต ทั้งมาจากฝั่งกฎหมายการกำกับดูแล ฝั่งการจัดการการลงทุน รวมไปถึง RWA และผลิตภัณฑ์แนวใหม่ที่เราจะได้เห็นในโลกคริปโตต่อไป

ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ในปี 2024 นี้จะมีดาวเด่นที่ไม่ได้อยู่ในงานวิจัยนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการนี้เพิ่มหรือไม่