ERC-404 คืออะไร? ทำความรู้จักนวัตกรรมใหม่ ผสานฟังก์ชันโทเคน Fungible และ Non-Fungible
บน Ethereum จะมีมาตรฐานในการสร้างโทเคนอยู่หลายรูปแบบ จะมีชื่อที่หลายคนเคยเห็นหรือเคยได้ยินมา อย่างเช่น ERC-20 สำหรับ Fungible Tokens และ ERC-721 สำหรับ Non-Fungible Tokens หรือ NFTs
ก่อนจะไปทำความเข้าใจกับโปรโตคอล ERC เราจะขออธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง Fungible Tokens และ Non-Fungible Tokens หรือ NFTs กันก่อน
- Fungible Tokens คือ สินทรัพย์ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติเฉพาะตัว หนึ่งโทเคนจะมีค่าเท่ากับอีกหนึ่งโทเคน และยังสามารถแบ่งส่วนได้ ตัวอย่างเช่น 1 ETH จะมีมูลค่าเท่ากับอีก 1 ETH และเราสามารถแลกเปลี่ยนได้โดยที่ไม่ต้องใช้ทั้ง 1 ETH
- Non-Fungible Tokens ในทางกลับกันคือ สินทรัพย์ที่มีความเฉพาะตัว มีมูลค่าเฉพาะตัว และไม่สามารถแบ่งแยกส่วนได้ ซึ่งแต่ละโทเคนจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างที่เราเห็นได้จากงานศิลปะต่าง ๆ ในรูปแบบดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม โทเคนทั้ง 2 แบบนี้มีข้อจำกัดและความท้าทายในตัวเองอยู่ อย่างใน ERC-20 ที่ขาดความเฉพาะตัว อีกทั้งยังไม่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ในขณะที่ ERC-721 สามารถทำได้ แต่กลับขาดสภาพคล่อง เนื่องจากมีมูลค่าการแลกเปลี่ยนสูง นอกจากนี้ การจะเชื่อมเอา Fungible Tokens และ Non-Fungible Tokens เข้ามาด้วยกัน หรือสร้างเป็นโทเคนแบบ Hybrid หลายฝ่ายยังมองว่าเกิดขึ้นได้ยาก
แต่เมื่อไม่นานมานี้ เราจะเห็นข่าวของโทเคน “ERC-404” อีกหนึ่งความเป็นไปได้ของการเชื่อมเอา Fungible Tokens และ Non-Fungible Tokens เข้าไว้ด้วยกัน มาตรฐานใหม่ที่น่าจับตาในการสร้างโทเคน ซึ่งหลังจากเปิดตัวได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ERC-404 ก็มีมูลค่าการแลกเปลี่ยนพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องกว่า 76 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีซัพพลายอยู่เพียง 8,000 โทเคน
ERC-404 คืออะไร? มีความน่าสนใจอย่างไร? และจะเข้ามามีบทบาทอย่างไรบนระบบนิเวศ Ethereum บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับรูปแบบโทเคนที่หลังจากเปิดตัวได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก็มีมูลค่าการแลกเปลี่ยนพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องกว่า 76 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีซัพพลายอยู่เพียง 8,000 โทเคน อย่าง “ERC-404” กัน
ERC-404 คืออะไร?
ERC-404 คือ มาตรฐานการสร้างโทเคนที่ยังอยู่ในช่วงของการทดสอบ ซึ่ง ERC-404 ถูกคิดค้นและพัฒนาโดย “ctrl” และ “Acme”
แนวทางการพัฒนา ERC-404 คือการรวมเอาฟีเจอร์ของ ERC-20 ซึ่งเป็นโทเคน Fungible ที่สามารถแบ่งแยกสัดส่วนได้ เข้ากับฟีเจอร์ของ ERC-721 ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผู้ถือสามารถใส่อัตลักษณ์ของตัวเองลงไปได้
ERC-404 ยังเป็นคอนเซ็ปต์ของ “Semi-Fungible Tokens” อีกด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของโทเคนจะสามารถเป็นเจ้าของเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของโทเคนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งโทเคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และเพิ่มความยืดหยุ่นในสินทรัพย์ดิจิทัล
การทำงานของ ERC-404
หัวใจสำคัญของ ERC-404 คือ ความสามารถในการ Mint (สร้างเหรียญ) และ Burn (ทำลายเหรียญ) ซึ่งโทเคน ERC-404 จะสามารถแบ่งแยกสัดส่วน และยังสามารถแลกเปลี่ยนออกไปในรูปแบบ NFTs ได้ ซึ่งกลไกนี้จะทำให้ผู้ถือโทเคนสามารถแยกส่วนของโทเคนให้เล็กลงได้ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงได้ บวกกับเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาด
โทเคน ERC-404 จะแสดงถึงลักษณะพิเศษสำคัญในแต่ละส่วนของ NFT ผู้ถือโทเคนสามารถเป็นเจ้าของได้ทั้งโทเคน หรือจะสะสมแต่ละสัดส่วนจนเพียงพอที่จะ Burn และรับโทเคน NFT เหรียญใหม่แทน
และเพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นในกลไกการทำงานของ ERC-404 เราจะพาไปดูเป็นข้อ ๆ ดังนี้
- รวมฟีเจอร์ของ ERC-20 และ ERC-721 ไว้ด้วยกัน: ตามที่อธิบายมาข้างต้น โทเคน ERC-404 ถูกออกแบบมาเพื่อปิดช่องว่างระหว่าง Fungible และ Non-Fungible Tokens ลง ซึ่งเหรียญ ERC-404 จะมีฟังก์ชันที่รวมเอาความพิเศษของโทเคนทั้ง 2 รูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน
- แบ่งสัดส่วนและเป็นเจ้าของ NFTs ได้ง่าย ๆ : หนึ่งในฟีเจอร์สำคัญของโทเคน ERC-404 คือ สามารถเป็นเจ้าของแบบแบ่งสัดส่วนได้ โดยที่ผู้ถือโทเคนไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งโทเคน ซึ่งเป็นการรวมความสามารถของ Fungible Tokens ที่สามารถแยกสัดส่วนได้ เข้ากับ NFTs ที่มีมูลค่าสูง และมีความเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง
- มีกลไก Minting และ Burning: โดยเมื่อเราทำการแลกเปลี่ยนโทเคน ERC-404 ซึ่งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของ NFT ตัว NFT ส่วนที่เหลือนั้นจะสามารถถูก Burn ไป แต่ถ้าเราสะสมส่วนที่เหลือเข้ามาไว้จนครบทั้งโทเคน ตัว NFT นั้นจะถูก Mint เป็นโทเคนใหม่ได้ ซึ่งกลไกนี้จะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนโทเคนแบบไร้รอยต่อ ด้วยการเป็นเจ้าของ NFT ได้ง่ายขึ้นผ่านขั้นตอนแบบเดียวกับการแลกเปลี่ยน Fungible Tokens
ความแตกต่างของ ERC-404 และการนำไปใช้งาน
ด้วยความสามารถในการเป็นเจ้าของ NFT แบบที่แบ่งแยกสัดส่วนได้นั้น ERC-404 จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเป็นเจ้าของและเพิ่มสภาพคล่องในตลาดได้ ทำให้การแลกเปลี่ยน NFTs ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นเจ้าของโทเคนทั้งโทเคน ซึ่งการรวมเอาความพิเศษของทั้ง Fungible และ Non-Fungible Tokens เข้าด้วยกัน ช่วยเปิดทางให้เกิดโปรเจกต์ NFT ใหม่ ๆ หรือแอปพลิเคชันที่น่าสนใจมากขึ้นบนระบบนิเวศ Ethereum ตัวอย่างเช่น
- งานศิลปะและของสะสม: ด้วยความสามารถในการเป็นเจ้าของ NFT เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งได้นั้น ผู้ที่มีความสนใจจะสามารถเข้าถึงงานศิลปะหรือของสะสมที่มีมูลค่าสูงที่ตัวเองสนใจได้ ทำให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่มีคุณค่าได้อย่างเท่าเทียม
- อสังหาริมทรัพย์: ที่ผ่านมาอสังหาริมทรัพย์ถูกแปลงมาเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล และได้รับความนิยม ซึ่งการเกิดขึ้นของ ERC-404 จะช่วยผลักดันให้นักลงทุนได้รับประโยชน์จากการเป็นเจ้าของแบบแบ่งสัดส่วนได้ ทุกคนจะสามารถเข้าถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น
- Gaming และ Metaverse: สำหรับโลก Gaming และ Metaverse การเป็นเจ้าของโทเคนแบบเป็นสัดส่วนนั้นจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์และ Virtual Land ภายในเกม อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเศรษฐกิจบนโลก Virtual ได้อีกด้วย
- ระบบการเงินแบบ Decentralized: การเป็นเจ้าของสัดส่วนของสินทรัพย์หรือแชร์ของสตาร์ทอัพหรือโปรเจกต์ จะช่วยเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพหรือโปรเจกต์ต่าง ๆ ได้
ตัวอย่างโปรเจกต์ ERC-404 ที่น่าสนใจ
ถึงแม้ว่า ERC-404 จะเปิดตัวได้เพียงไม่นาน แต่หลายฝ่ายให้ความสนใจกับสินทรัพย์ตัวนี้ โดยที่ผ่านมามีโปรเจกต์ที่ได้ทดลองเอาโปรโตคอล ERC-404 เข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับภูมิทัศน์ของสินทรัพย์ดิจิทัลบน Ethereum และด้วยการนำเอา ERC-404 ไปใช้งานมากขึ้น ในอนาคตเราอาจจะมีโอกาสได้เห็นโปรเจกต์ของ Semi-Fingible Tokens มากขึ้น
โดยตัวอย่างของโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ ERC-404 ที่น่าสนใจ อย่างเช่น
- Pandora: โปรเจกต์แรกที่เป็นแนวทางของ ERC-404 คือ โปรเจกต์ของ Pandora ที่เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นเจ้าของ NFTs ของ Pandora แบบแยกสัดส่วนได้
- DeFrogs: โปรเจกต์ของ DeFrogs เกิดขึ้นหลังจากที่ Pandora ประสบความสำเร็จในการใช้งาน ERC-404 โดยโปรเจกต์ของ DeFrogs จะเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นเจ้าของ 10,000 frog PFPs หรือ Profile Picture NFTs โดยการซื้อ 1 โทเคนของ DeFrogs จะเท่ากับ Minting 1 NFT
- Monkees: Monkees คือผู้เล่นรายล่าสุดในการรับเอา ERC-404 ไปใช้ โดยโปรเจกต์จะมีความคล้ายคลึงกับ DeFrogs คือเปิดให้เป็นเจ้าของคอลเล็กชันของ Monkey PFPs ซึ่งทาง Monkees ยืนยันว่าการใช้ ERC-404 นี้ทำให้พวกเขาเห็นการเติบโตแบบเป็นรูปธรรมมากกว่าแบบเดิม
นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์อย่างเช่น Punks404 และ EtherRock404 ที่จะดำเนินงานด้วย ERC-404 ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างด้านมูลค่าทางตลาดและปริมาณการซื้อ-ขายกับโปรเจกต์ของผู้เล่นที่กล่าวมาข้างต้น
ข้อจำกัดและความท้าทาย
ERC หรือ Ethereum Request for Comments คือ มาตรฐานสำหรับการเขียนโปรแกรมบน Ethereum ที่นักพัฒนาจะต้องมีการยื่นเสนอ และมีการเปิดให้คอมมูนิตี้ทดลองใช้งาน เพื่อตรวจสอบว่ามีความเป็นไปได้ ปลอดภัย และมีประโยชน์
อย่าไงก็ตาม ERC-404 ยังไม่ได้รับการการตรวจสอบ (Unaudited) และยังไม่ผ่านขั้นตอนของการยื่น Proposal ทั้ง ERC และ EIP (Ethereum Improvement Proposal) ซึ่งการที่ ERC-404 ยังไม่ได้รับการตรวจสอบนี้ทำให้เกิดความกังวลเรื่องของความเปราะบางและความไร้ประสิทธิภาพ รวมไปถึงความเสี่ยงในการดำเนินงานบนระบบนิเวศ Ethereum
นอกจากนี้ การเชื่อมเอาความสามารถของ Fungible และ Non-Fungible Tokens เข้าไว้ด้วยกันในโทเคนเดียวยังมีความท้าทายในอีกหลายด้าน บวกกับยังต้องมีการทดสอบในเรื่องของการทำงานและความปลอดภัย โดยความท้าทายของ ERC-404 ที่ยังต้องให้ความสนใจ อย่างเช่น
- ความกังวลด้านสภาพคล่อง: ในขณะที่ ERC-404 ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถด้านสภาพคล่องด้วยการเป็นเจ้าของโทเคนเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ แต่ยังคงต้องอาศัยอีกหลายปัจจัยเพื่อให้เกิดสภาพคล่อง ทั้งด้านจำนวนผู้ใช้งาน แพลตฟอร์มที่จะใช้งาน รวมถึงความสามารถของตลาด ซึ่งโปรเจกต์แรก ๆ ที่เกิดขึ้นอาจจะยังมีปัญหาและมีอุปสรรค จนกว่าจะมีการใช้งานมากขึ้น
- จำนวนผู้ใช้งานน้อย: เนื่องจาก ERC-404 ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และมีเพียงไม่กี่โปรเจกต์ที่ดำเนินงานภายใต้ ERC-404 ทำให้มีจำนวนผู้ใช้งานน้อยเมื่อเทียบกับ ERC-20 และ ERC-721
- ความท้าทายด้านเทคนิค: ด้วย ERC-404 คือการรวมเอาฟีเจอร์ของทั้ง Fungible และ Non-Fungible Tokens เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้มีความซับซ้อนในด้านเทคนิค อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในด้านของความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์และวอลเล็ตในปัจจุบันที่จะต้องรองรับโทเคนแบบ Hybrid นี้
- การลงทุนแบบเก็งกำไร: การลงทุนในโปรเจกต์ ERC-404 มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการลงทุนแบบเก็งกำไร ซึ่งอาจจะส่งผลถึงตลาดที่ทุกฝ่ายจะมุ่งไปสู่การลงทุนแบบนี้ และอาจจะถึงขั้นฟองสบู่แตกตามมา
- ความไม่แน่นอนด้านการกำกับดูแล: ความพิเศษของ ERC-404 อาจจะเป็นตัวดึงดูดที่ดีให้ฝั่งของผู้กำกับดูแลเข้ามาสนับสนุนโลกคริปโตและ NFTs มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีการถกเถียงกันในด้านนี้ ซึ่งหากมีการกำกับดูแลที่เหมาะสมเข้ามา การรับเอา ERC-404 ไปใช้งานก็อาจจะมีมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางทีมผู้พัฒนา ERC-404 ได้ออกมายืนยันว่ากำลังดำเนินการทำ EIP เพื่อนำเสนอมาตรฐานการใช้งาน ซึ่งอาจจะใช้เวลาในการตรวจสอบค่อนข้างนาน และหากได้รับการอนุมัติ จะได้รับการยอมรับโดย Ethereum Foundation และจะสามารถใช้งานได้บน Ethereum
สรุป
การเกิดขึ้นของ ERC-404 คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาบนระบบนิเวศ Ethereum ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่จะนำไปสู่การสร้างโทเคนที่มีความยืดหยุ่น ด้วยการเชื่อมฟังก์ชันสำคัญของ Fungible และ Non-Fungible Tokens เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเป็นเจ้าของโทเคนได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการพัฒนาที่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ทำให้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบภายใต้ระบบของ Ethereum และยังมีความกังวลในเรื่องของความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และการใช้งานโทเคนแบบ Hybrid ยังมีข้อจำกัด
อ้างอิง: Cyberscope, Anndy Lian’s LinkedIn, Nasdaq, CoinDesk, Transak