milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
business
08 มีนาคม 2566
ภาษาไทย

บทเรียนจากเหตุการณ์ล้มละลายของ Exchange รายใหญ่ สู่การป้องกันเหตุซ้ำรอยด้วยวิธี ‘Proof of Reserves’ (PoR)

ในช่วงตลาดขาลงหรือ Crypto Winter ที่ผ่านมามีความผันผวนมากและมีระยะเวลานาน ได้เกิดเหตุการณ์ล่มสลายของ Crypto Exchanges ซึ่งมีการสูญเสียเป็นจำนวนมหาศาลและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมัน นำมาสู่การหาวิธีป้องกันและปรับปรุงเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยแพลตฟอร์มสำหรับการแลกเปลี่ยนหรือ Crypto Exchange หลายแห่งได้หาแนวทางใหม่เพื่อรับมือด้วยการใช้เทคนิคการตรวจสอบเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า นั่นคือ Proof of Reserves (PoR) ที่ SCB 10X ขอมานำเสนอในบทความนี้


Article3SEP_1200X800.jpg

Proof of Reserves (PoR) คืออะไร?


Proof of Reserves (PoR) เป็นกระบวนการเพื่อแสดงการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลโดยใช้การตรวจสอบเชิง Cryptographic หรือการเข้ารหัสลับ ซึ่งเป็นวิธีการที่ Centralized Exchanges ใช้เพื่อแสดงความสามารถในการชำระหนี้ (Solvency) และสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าแพลตฟอร์มของตนสามารถจ่ายเงินที่ลูกค้า Deposits ได้ในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน ยกตัวอย่างในทางทฤษฎีของ Proof of Reserves (PoR) คือการช่วยป้องกันไม่ให้สินทรัพย์ของลูกค้าถูกโอนย้ายไปยังที่ที่ไม่ควรเหมือนกับที่ได้เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ของ Exchange ยักษ์ใหญ่ที่ผ่านมา


นอกจากนี้ Proof of Reserves (PoR) จะอ้างอิงถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านวิธีการในเครือข่ายหรือ On-Chain อย่างเช่น การติดตาม Wallets และโดยส่วนใหญ่จะไม่รวมถึงสินทรัพย์นอกเครือข่ายหรือ Off-Chain อย่างเช่น เงินสดสำรอง (Cash Reserve) หรือสินทรัพย์ต่างๆ ที่เป็นเงิน Fiat 




ทำไม Proof of Reserves (PoR) จึงมีความสำคัญ?


Proof of Reserves (PoR) ได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากกรณีการล่มสลายของ FTX ซึ่งล้มละลายโดยการใช้เงินของลูกค้าปิดช่องโหว่งบดุลของบริษัทในเครือข่าย (Alameda Research) และจากนั้นจึงมีการตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวจาก Centralzed Exchange ต่างๆ ด้วยการเปิดเผยหรือให้คำสัญญาว่าจะเปิดเผยจำนวนสินทรัพย์หรือเงินทุนสำรองที่ถือครองด้วยวิธี Proof of Reserves (PoR) ในอนาคต


โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนและผู้ให้กู้หลายรายเริ่มมีการใช้ PoR โดยสมัครใจ ยกตัวอย่างเช่น Binance ซึ่งเป็น Crypto Exchange ที่ใหญ่ที่สุดก็ออกมาเปิดเผยจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลถือครองอยู่ต่อสาธารณะ รวมถึงมีแผนงานที่ใช้งาน Proof of Reserves ต่อไป


หากมองในทางทฤษฎี Proof of Reserves สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ดูแลทรัพย์สินและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับธุรกิจ แต่ทางปฏิบัติ Proof of Reserves สามารถถูกปลอมแปลงหรือไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น PoR สามารถถูกแก้ไขได้โดยการยืมสินทรัพย์ในระยะสั้นเพื่อเก็บหลักฐานงบดุล (Balance Sheet) โดยถ่าย Snapshot ในช่วงเวลานั้นๆ ดั้งนั้น PoR ควรมีที่อยู่ ​Wallet รวมไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกองทุนหรือสินทรัพย์


อย่างไรก็ตาม PoR ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รวมถึงสินทรัพย์หรือหนี้สินนอกเครือข่าย (Off-Chain) ซึ่งสินทรัพย์นอกเครือข่ายหรือ Wallet ที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยเหล่านี้อาจถูกถือครองโดยผู้ดูแลสินทรัพย์ ดังนั้น มีความจำเป็นที่ต้องมีการตรวจสอบแบบเต็มรูปแบบเพื่อยืนยันข้อมูลทั้งหมดและพิสูจน์หลักฐานที่ชัดเจนของ PoR ซึ่งเปรียบได้ว่าเป็นการกำกับดูแลตนเอง (Self-Regulation) และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ในการเผชิญกับความสงต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทผู้ดูแลสินทรัพย์คริปโต




สรุปข้อดีของ Proof of Reserves (PoR)


ข้อดีของ Proof of Reserves (PoR) สามารถสรุปได้ดังนี้


  • อันดับแรกการใช้ PoR ช่วยให้ลูกค้าและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเกิดความไว้วางใจ หรือเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโปรเจกต์

  • PoR สร้างบรรทัดฐานใหม่เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับความโปร่งใสทางการเงิน และช่วยลดแรงจูงใจไม่ให้ผู้ใช้เข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ไม่แสดงการรับรองใดๆ เพื่อหลีกการถูกฉ้อโกง

  • PoR เป็นด่านแรกที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการชำระหนี้และช่วยในการติดตามสินทรัพย์ดิจิทัลที่บริษัทเป็นผู้ถือครอง

  • PoR สามารถช่วยลดความเสี่ยงของคู่สัญญา หรือลดการเกิด Bank Run หรือเหตุการณ์ที่ผู้ใช้จำนวนมากต่างถอนเงินออกจากบัญชีในเวลาพร้อมๆ โดยมีสาเหตุจากผู้ใช้ขาดความเชื่อมั่นถึงความสามารถในการชำระหนี้ (Solvency) ของผู้รับฝากดูแลสินทรัพย์

  • PoR วิธีการคุ้มครองลูกค้าโดยการแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะปกป้องสินทรัพย์ของลูกค้าและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นอันดับแรก 

อย่างไรก็ตาม การนำ PoR มาใช้จะขึ้นอยู่กับความสมัครใจเนื่องจากยังไม่ได้รับความไว้วางใจมากนัก และไม่ได้รับประกันความโปร่งใสของสถานะทางการเงินของผู้ดูแลสินทรัพย์ได้โดยสมบูรณ์ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีในอุตสาหกรรมซึ่งทำให้เกิดความกังวลในความโปร่งใสเกี่ยวกับสินทรัพย์ของลูกค้า และหลายฝ่ายจึงเห็นว่าการนำ PoR มาใช้นับว่าเป็นการเริ่มสร้างมาตรฐานขั้นต่ำในการกำกับดูแลด้วยตนเอง 


นอกจากนี้ ทั้งผู้ให้บริการ Exchange และ Lender ได้รับการกระตุ้นและได้รับอิสระในการค้นหาแนวทางกำกับดูแลหรือสร้างกฎระเบียบเพิ่มเติมเพื่อสร้างชื่อเสียงในตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความไว้วางใจ

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Accept