milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
trending
01 ธันวาคม 2565
ภาษาไทย

ความเคลื่อนไหวของ DeFi และ Web 3.0 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตลาดหมีหรือช่วงตลาดขาลงช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันส่งผลกับพื้นที่ Crypto ทั่วโลก วันนี้ SCB 10X พาไปอัปเดตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กันบ้าง กับผลกระทบและโอกาสต่างๆ ที่เกิดขึ้นช่วงตลาดหมีรวมถึงแง่มุมต่างๆ ในหัวข้อ “DeFi & Web3.0 In Southeast Asia” จากงาน REDeFiNE TOMORROW 2022 ที่ผ่านมา กับการแชร์มุมมองและประสบการณ์ของผู้นำแนวหน้า ได้แก่:

  • Tascha Punyaneramitdee, Co-founder & CEO, Alpha Venture DAO 
  • Loi Luu, Co-founder & CEO, Kyber Network 
  • Beryl Chavez Li, Co-founder, Yield Guild Games 
  • Dovey Wan, Founding Partner, Primitive Ventures (Moderator) 

1200 x 800 Article 4 Panel Discussion DeFi & Web3.0 in Southeast Asia Note (1).png

จุดเด่นของ Southeast Asia กับกระแสของการยอมรับและนำมาใช้ Crypto


เมื่อพูดถึงกระแสของการยอมรับหรือนำมาใช้ Crypto ความคิดเห็นของ Beryl Chavez Li ในด้านข้อมูลประชากรโดยยกตัวอย่างของประเทศฟิลิปปินส์ที่มีประชากรอายุน้อยและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มีรายได้ที่ค่อนข้างน้อยและได้มองเห็นโอกาสใหม่ๆ มากมายที่มาจากการเล่นเกม Play To Earn โดยเฉพาะในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 พบว่ามีการดาวน์โหลดและเข้าถึงเกมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่นมีการยืมสินทรัพย์จาก YGG หรือการรับรายได้จากการเล่นเกม โดยเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของฟิลิปปินส์ มีคนตกงานจำนวนมากและมองหาหนทางสร้างรายได้ใหม่ๆ เขาจึงมองว่าฟิลิปปินส์เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่โดดเด่นที่มีคนจำนวนมากเลือกเข้าถึง Crypto 


ประเด็นธนาคารต้องการเข้าถึงคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร "Banking The Unbanked" เป็นไปอย่างไรกับ Crypto ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้?

ในแง่ของการเข้าถึงการใช้บริการทางการเงินของธนาคาร Loi Luu ได้ให้ความเห็นว่าหลายๆ ประเทศ อย่างเช่น เวียดนามหรือสิงคโปร์สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารค่อนข้างง่าย อย่างไรก็ตามผู้คนยังต้องการใช้งานบริการทางการเงินรูปแบบอื่นๆ เช่นกัน อย่างการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือลงทุนในหุ้นต่างๆ และเมื่อมี DeFi เกิดขึ้น ผู้คนหนุ่มสาวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เห็นถึงโอกาสในการสร้างสิ่งใหม่หรือการสร้างรายได้ ซึ่ง DeFi เป็นที่ดึงดูดและสามารถเข้าถึงง่ายสำหรับคนกลุ่มนี้ เนื่องจากมีเวลาและสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นตัวเร่งกระแสนิยม DeFi ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ Tascha ได้เสริมว่าเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกขับเคลื่อนโดยธุรกิจ SMEs ซึ่งต่างได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของ COVID-19 และหลายคนต่างมองหาทางเลือกในการหารายได้ใหม่ๆ โดยการเข้าถึงบริการทางเงินจากธนาคารทั่วไปค่อนข้างมีข้อจัดกัดในแง่ของการสร้างรายได้ และ Crypto จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของพวกเขา หากมีการศึกษาวิจัยและสามารถซื้อขายและสร้างรายได้ได้สูง

การขาด Centralized Exchanges ท้องถิ่นใน SEA ที่ใช้งานได้อย่างแท้จริง เป็นเหตุผลให้ผู้คนใน SEA มุ่งสู่ DeFi?

Tascha ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับกรณีนี้ ในข้อที่เป็นเหตุผลให้คนไปยัง DeFi เนื่องจากส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และ SMEs ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมีความเสี่ยงจากผลกระทบอยู่ก่อน ซึ่งการเข้าไปใน DeFi มีความเสี่ยงเช่นกันแต่คนกลุ่มนี้ยินดีที่จะรับกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ส่วนในแง่ที่ไม่เห็นด้วย ยกตัวอย่างในประเทศไทยที่มีจำนวนประชากรน้อยกว่าแน่นอนเมื่อเทียบกับจีนหรือสหรัฐฯ ดังนั้นจึงคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้เกิด Exchages ท้องถิ่นใน SEA และสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกับ Exchanges ท้องถิ่นของจีนหรือสหรัฐฯ เป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทการเงินแบบรวมศูนย์ในประเทศไทยจำนวนมากจึงพยายามเน้นการปรับขยายไปสู่สากลมากขึ้น 

ส่วนด้าน Loi Luu ให้ความคิดเห็นในมุมของประเทศเวียดนาม ในเรื่องของ Regulation เป็นปัจจัยที่สำคัญโดยในเวียดนามไม่มี Regulation เกี่ยวกับ Crypto ดังนั้นจึงไม่มี Exchanges ท้องถิ่นที่ใช้งานได้ตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนแบบ Crypto-Crypto ได้ แต่ก็เป็นไปได้ยากที่จะแข่งขันกับ Exchages รายใหญ่ระดับโลกที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งผู้ใช้ DeFi ที่มีทักษะความรู้ก็ย่อมต้องเลือกใช้งาน Exchanges รายใหญ่ชื่อดังเหล่านี้แทนที่จะใช้ Exchanges ท้องถิ่นใน SEA

และความคิดเห็นของ Beryl Chavez Li ยกตัวอย่างในฟิลิปปินส์กับกลุ่มผู้ใช้ Unbanked ที่เล่นเกม Play-To-Earn และเลือกที่เรียนรู้การใช้ Decentralized Exchanges ที่ได้รับการควบคุมเพื่อแลกเปลี่ยนหรือถอนสินทรัพย์ที่ได้เป็นรางวัลจากการเล่นเกมเป็นเงิน Fiat มากกว่าการเลือกใช้ Exchanges ท้องถิ่นใน SEA


มุมมองเกี่ยวกับนักพัฒนาหรือ Talent ใน SEA

Loi Luu ให้ความคิดเห็นโดยยกตัวอย่างในประเทศเวียดนามที่มี Talent จาก Studio หรือบริษัทสร้างเกมแบบดั้งเดิมจำนวนมากและได้ผันตัวต่อยอดสู่การสร้างโปรเจกต์ GameFi หรือ DeFi ส่วนของการกระจายตัวของ Telent มีวิศวกรออกแบบสร้างเกมจำนวนมากแต่ขาดแคลนบางตำแหน่งงาน โดยเฉพาะ Product Manager ที่ดีในเวียดนาม 

ส่วนทาง Beryl Chavez ที่มีประสบการณ์ทำงานจาก YGG ที่ได้เริ่มต้นสร้างโปรเจกต์ในช่วงปลายปี 2020 ถึงช่วงต้นปี 2021ที่มีการล็อกดาวน์ ทุกคนจึงทำงานจากระยะไกล การจ้างงานจึงเป็นการค้นพบจากทางชุมชนหรือทาง Discord และได้เห็น Talent จำนวนมากตั้งแต่วิศวกรไปจนถึง Product Manager ได้เข้ามาใน YGG โดยเสริมประเด็น Product Manager นับว่ามีบทบาทที่สำคัญมาก ซึ่ง Talent ส่วนใหญ่มีทักษะและคุ้นเคยกับเกมมาก่อน 

ด้าน Tascha ให้ความเห็นว่าโครงการเกี่ยวข้องและโครงการที่บ่มเพาะของทาง Alpha มี Talent มาจากทั่วโลก โดยในการสร้างโปรเจกต์ DeFi ที่ดีต้องใช้มุมมองแบบองค์รวมของการพัฒนาและเข้าใจถึงเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมไปถึงความต้องการของคนในพื้นที่นี้ ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องอาศัยเวลาเพื่อพัฒนามากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนมุมมองของ Product Manager เขาคิดว่าเป็นบทบาทที่มองหาได้ยากในทุกพื้นที่นอกเหนือจากใน SEA เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรม Crypto ค่อนข้างใหม่มาก

โอกาสดีๆ ที่ปรากฏขึ้นในช่วงของตลาดขาลง

Loi Luu ให้ความเห็นว่าในตลาดขาลงหรือตลาดหมีครั้งนี้ไม่ได้ต่างจากครั้งก่อน ทั้งจากประสบการณ์และที่หลายท่านทราบกันดีว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างหรือลงทุน โดยผู้สร้างส่วนใหญ่ได้มุ่งเน้นไปกับการสร้างและมีความระมัดระวังมากขึ้น รวมถึงการประเมินมูลค่ามีความสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลานี้

ด้าน Tascha ให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่นักพัฒนาและนักสร้างได้แสดงฝีมือ และเป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้การตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการมีความชัดเจนมากขึ้นว่าควรจัดการต่อไปอย่างไร รวมถึงเป็นการทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าโครงการใดที่ต้องการทำต่อไปอย่างแท้จริงในระยะยาว

ด้าน Beryl Chavez ให้ความคิดเห็นว่าเป็นช่วงที่กลุ่มนักสร้างสามารถเริ่มต้นคิดวางแผนโมเดลธุรกิจที่ดีกว่าเดิม และเมื่อมุ่งมั่นตั้งใจสร้างอย่างแท้จริงก็เป็นช่วงเวลาที่มักมีนวัตกรรมเกิดขึ้นจริง รวมไปถึงทำให้เห็นถึงนักสร้างที่มีความตั้งใจจริงในการสร้างและขยายทีมเพื่ออยู่ในพื้นนี้ต่อไปในระยะยาว ซึ่ง Dovey Wan ก็ได้เสริมไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นช่วงเวลาดีที่สำหรับการสร้าง โดยเฉพาะกับผู้สร้างที่มีวิธีการจัดการอย่างเหมาะสม ไม่ขยายหรือใช้จ่ายมากจนเกินไปเหมือนในช่วงตลาดกระทิง เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาหากทำเช่นเดียวกันในช่วงตลาดหมี


คำแนะนำสำหรับผู้สร้างหรือท่านที่ถือโทเคนอยู่ในตลาดขณะนี้


Tascha ให้คำแนะนำว่าอย่าทิ้งโทเคนที่กำลังถืออยู่และให้ตั้งรับวางแผนกลยุทธ์ใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีที่แตกต่างกันกับช่วงตลาดกระทิงเนื่องจากมีสภาพคล่องที่แตกต่างกัน โดยช่วงตลาดหมีเป็นเวลาที่ดีที่จะวิเคราะห์ปัญหาอย่างถี่ถ้วนในหลากหลายมุมมองเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด 

Beryl Chavez ให้คำแนะนำว่าด้วยความผันผวนที่เกิดไม่สามารถคาดเดาหรือควบคุมได้ ดังนั้นควรมุ่งเน้นไปที่ส่วนรากฐานของการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริษัท เช่น ทัศนคติและคุณภาพของทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้

ส่วนด้าน Loi Luu ได้เสริมประเด็นนี้ว่าขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของผู้ก่อตั้ง ทีมและสิ่งที่กำลังสร้าง เมื่อมีความเชื่อมั่นก็ย่าหยุดทำต่อ และถึงแม้พบปัญหาก็มีวิธีรัดเข็มขัด รับมือกับปัญหาและสามารถเอาตัวรอดได้

รับชมย้อนหลังได้ทาง Youtube: https://youtu.be/mFjEiYj82pk 

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept