อ่านเกมโลกคริปโตกับ TradingView

ผ่านมาไม่นานกับ REDeFiNE TOMORROW2023 ความร่วมมือระหว่าง SCB 10X และ Bloomberg งานสัมมนาออนไลน์ที่รวบรวมผู้นำทางด้านนวัตกรรม DeFi, Blockchain และ Web 3.0 จากทั่วโลก มาพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล เล่าถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของตลาด พร้อมส่งต่อคำแนะนำถึงผู้ชมทั่วโลก 

ในบทความนี้ ได้เดินทางมาถึงประเด็น “Tracking Crypto Market with TradingView” พูดคุยกับ Pierce Crosby, General Manager ของ TradingView และ Rebecca Sin, Head of Asia ETF ของ Bloomberg Intelligence กับการเจาะลึกประสบการณ์ในตลาดคริปโตที่กำลังเป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วโลก บทบาทของ TradingView และสิ่งที่ TradingView จะทำต่อเพื่อช่วยยกระดับวงการคริปโต

จุดเริ่มต้นการลงทุนในตลาดคริปโต

Crosby เล่าว่า เขาได้เข้าวงการคริปโตเมื่อราว 6 ปีก่อนในระหว่างที่กำลังทำงานอยู่กับ StockTwits โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ ซึ่งเขาได้มีโอกาสเข้าฟัง Brad Feld นักธุรกิจและนักลงทุนมาพูดในประเด็นนี้ และเกิดสนใจการลงทุนในตลาดคริปโต ส่วน Sin ได้เล่าว่าเธอเริ่มสนใจในการลงทุนคริปโตเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ในวันที่เธอไปร่วมงานของเพื่อนคนหนึ่ง และเธอเห็นเพื่อนได้รับของขวัญเป็น Metal plate สำหรับเก็บรหัสคริปโต เธอสงสัยและสนใจในสิ่งนี้มาก และทำให้เกิดเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้เริ่มศึกษาตลาดคริปโต

ประสบการณ์ที่ผ่านมา มองว่าการลงทุนในคริปโต อะไรดี อะไรแย่ อะไรน่าสนใจ?

สำหรับ Crosby เขามองว่า ตลาดคริปโต มีความน่าสนใจคือ นักลงทุนจะไม่ใส่เงินลงไปเยอะ ๆ ในครั้งเดียว เพราะมูลค่าในตลาดจะมีขึ้นมีลงต่อเนื่อง โดยเขามองว่านักลงทุนที่มองภาพระยะยาวของความผันผวนในตลาดคริปโตออกจะนับว่ามีข้อได้เปรียบในตลาดนี้ ส่วนเรื่องที่ Crosby มองว่าเป็นการลงทุนที่แย่สำหรับเขา คือ ในช่วงโควิด-19 เขาได้ลงทุนใน Meme coins และ Altcoins ไป แต่ผลที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เขามองว่า เหรียญกลุ่มนี้จะมีความผันผวนมาก ๆ ซึ่งในระยะเวลาอันสั้นมูลค่าอาจจะพุ่งสูง และกลับมาต่ำมากได้ในชั่วข้ามคืน และอาจจะหายไปเลย ซึ่งเขาแนะนำต่อว่า การจะลงทุนใน Liquid Market โดยเฉพาะตลาดที่เป็น Early stage market อย่างตลาดคริปโตมีความไม่แน่นอนสูงมาก นักลงทุนซื้อ-ขายกันอย่างรวดเร็ว 

และเมื่อพูดถึงประเด็น Tokens ที่สนใจ Crosby เผยว่า เขาให้ความสนใจกับ Solana มาเป็นเวลานาน และทาง TradingView ก็เป็นส่วนหนึ่งใน Ecosystem ของ Solana นอกจากนี้ Crosby ยังให้ความสำคัญกับ NFTs โดยเขาและเพื่อนได้มีโปรเจกต์เกี่ยวกับ NFTs ด้วยเช่นกัน

ทำความรู้จัก TradingView

TradingView ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ในชิคาโก้ โดยมุ่งไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการลงทุน โดยเฉพาะใน Futures Market และหลังจากที่ประสบความสำเร็จก็ได้ขยายไปสู่โซนยุโรป อย่างตลาด Forex และตลาดการลงทุนอื่น ๆ 

ต่อมาในปี 2016 ข้อมูลด้านคริปโต ก็ได้ถูกเพิ่มลงในฐานข้อมูลของ TradingView ซึ่งไม่ได้มีเพียงข้อมูลด้านราคาและมูลค่าของสินทรัพย์ แต่ยังมีข้อมูลด้านอื่น ๆ ของสินทรัพย์นั้น ๆ เช่น ข่าวสาร ข้อมูลด้านปริมาณ และในปัจจุบันบนแพลตฟอร์มยังมีข้อมูล On-chain data และข้อมูล Token อีกด้วย

สรุปได้ว่า TradingView เป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักลงทุน ที่ได้รวบรวมข้อมูลด้านการลงทุนจากทั่วโลกมาแสดงไว้ในรูปแบบของกราฟ ครอบคลุมทั้งข้อมูลราคาหุ้น Futures และดัชนี อื่น ๆ ทั้งอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา คริปโต และ CFDs นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนสังคมออนไลน์ของนักลงทุนที่สามารถมาแลกเปลี่ยนข้อมูล

Crosby เผยว่า TradingView จะมีการรวบรวม Data จาก 2 ทาง คือ จากแหล่งรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ และจากเว็บเทรดโดยตรง ปัจจุบันมีเว็บเทรดกว่า 30 เว็บที่ทำงานกับ TradingView ซึ่งก็ใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มเหล่านี้มาตรวจสอบ และทำให้มั่นใจว่าข้อมูลถูกกฎหมาย เพื่อให้นักลงทุนได้เข้าใจข้อมูลที่พวกเขาสนใจอย่างครบถ้วน และถูกต้อง

จับมือ Token Unlocks ขยายฐานข้อมูลเกี่ยวกับ Tokens

Crosby เผยว่า TradingView กำลังมีโปรเจกต์ในการพัฒนา Level-2 Data และมีแผนร่วมงานกับ Token Unlocks แพลตฟอร์มผู้ให้ข้อมูลด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับ Tokens ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูล Tokens พร้อมกับแจ้งเตือนผู้ใช้งานเมื่อ Token ถูก Unlock เป็นต้น Crosby อธิบายว่า บริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ 

“Token Unlocks มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกลไกของ Tokens และรู้ว่า Tokens จะนำมาใช้งานได้อย่างไรในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่ TradingView ยังไม่เคยมีมาก่อน”

– Pierce Crosby

เขามองว่า การได้จับมือกับ Token Unlocks จะช่วยให้ TradingView มีข้อมูลที่ครอบคลุมและครบถ้วนมากขึ้น ซึ่งเขาตั้งเป้าว่าจะเพิ่มฐานข้อมูลจาก 700,000 ชุดเป็น 1 ล้านชุดภายในปี 2023 นี้

Innovations ที่ TradingView กำลังพัฒนา

Crosby เล่าให้เห็นภาพกว้างว่า TradingView มีการพัฒนานวัตกรรมอยู่ตลอดเวลา และตอนนี้กำลังเดินหน้าในการพัฒนา Community Tools ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า TradingView ยังเป็นเหมือนสังคมออนไลน์ของนักลงทุนด้วยเช่นกัน โดยจะพัฒนาให้มีลักษณะคล้าย Discords ที่ให้นักลงทุนพูดคุยกันได้ 

TradingView ยังสนใจในการพัฒนา AI และ NLP ที่จะช่วยในการจัดการกับ Data มหาศาล และคาดว่าในปีหน้าอาจจะได้เห็นรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนมากขึ้น

จับตาประเด็นด้านกฎหมายและวงการคริปโต

Crosby กล่าวว่า ถึงแม้ TradingView จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง 100% กับเรื่องกฎหมายด้านการเทรดคริปโต เพราะไม่ใช่เว็บเทรด แต่ TradingView พร้อมที่จะเป็นแหล่งข้อมูลด้านนี้สำหรับนักลงทุนด้วย และหวังว่าการออกกฎระเบียบต่าง ๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ในการจำแนกเรื่องความปลอดภัย (Security) จะมีความชัดเจนมากขึ้น โดยอยากให้มีระบบที่ชัดเจนในการจัดการจำแนกว่า Innovation นี้สามารถอยู่ในพื้นที่นี้ได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่นกรณีของ Coinbase ที่ไม่ได้จด Lincense กับทางสหรัฐฯ 

คำแนะนำถึงนักลงทุน

TradingView มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในตลาดคริปโต ด้วยการเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลในการลงทุน โดย Crosby แนะว่า หากให้พูดถึงการลงทุนในโลกคริปโต อยากให้มองภาพระยะยาว เพราะเชื่อว่ามีหลายคนที่เข้าวงการนี้มาเพียงช่วงสั้น ๆ เพื่อคว้าโอกาสการลงทุนในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแต่ในวงการคริปโต การลงทุนในวงการอื่น ๆ Crosby ก็มองว่า ผู้ชนะไม่ได้สร้างได้ในระยะเวลาแค่ไม่กี่วัน หรือไม่กี่สัปดาห์ แต่ให้มองในระยะยาว ให้มองการลงทุนแบบระยะยาว และอย่าลืมตัว Overtrade

และ Crosby ยังได้ย้ำถึงมุมมองเรื่องคนและเรื่องทีมว่ามีความสำคัญต่อโปรเจกต์การลงทุนอย่างมาก เขามองว่า “โปรเจกต์สร้างได้เพราะคน” ที่ผ่านมาในวงการคริปโต ไม่ใช่เพียงแต่เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่การมองว่า Chain นี้ดีกว่า Chain นี้ แต่ที่สำคัญคือ คนที่อยู่เบื้องหลัง เพราะหากทีมไม่สามารถขับเคลื่อนโปรเจกต์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็นับว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับการลงทุน โดยเขามักจะย้ำเตือนเสมอว่า อย่ามองแค่เรื่องของ Token Address แต่ให้มองหาทีมที่ดีด้วย

รับชมทั้งหมดได้ที่ YouTube: Tracking Crypto Market with TradingView

#REDeFiNETOMORROW2023 #TradingView #PierceCrosby #SCB10X