ไขกลไก ‘Distributed Validator Technology’ ของ Obol Labs ยกระดับความปลอดภัยใน DeFi

เรียนรู้แนวคิดการนำโครงสร้างพื้นฐาน “Distributed Validator Technology” (DVT) ไปปรับใช้บน Ethereum กับ “Obol Labs” ที่มาร่วมสนทนาในงาน REDeFiNE TOMORROW 2023 โดยมี Collin Myers, CEO & Co-founder จาก Obol Labs และ Unnawut Leepaisalsuwanna, Head of Venture Builder จาก SCB 10X

เบื้องต้น Colin Myers ได้แนะนำถึง Obol Labs แพลตฟอร์มที่มีทีมพัฒนาหลักมุ่งเน้นการสร้างเครือข่าย Obol ซึ่งประสบความสำเร็จในการนำตัวตรวจสอบความถูกต้องแบบกระจายศูนย์ (Distributed Validator Technology: DVT) ไปปรับใช้เป็นตัวแรกบน Ethereum Mainnet ผ่าน Middleware (ซอฟต์แวร์ที่คอยสนับสนุนระบบหลัก) ที่เรียกว่า Charon เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2022 และเดินหน้าพัฒนา DVT ให้ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ตามแผน Roadmap ที่วางไว้

Distributed Validator Technology คืออะไร 

การทำงานของตัวตรวจสอบหรือ Validator ในปัจจุบันเป็นกลไกที่ทำงานลำพัง และรหัส Key ที่ใช้เป็นแบบ Single Public และ Private Key ซึ่งผ่านการอนุมัติจากหน่วยเดียวจึงมีความเสี่ยงสูง แต่สำหรับ DVT ที่เป็นแบบ Key Share ซึ่งจะมีการแจกจ่าย Key ไปยังหลายแห่ง จึงช่วยตรวจสอบความถูกต้องได้หลายคนและเป็นการกระจายความเสี่ยงออกไป ส่งผลให้ปลอดภัยมากขึ้นและเป็นการสนับสนุนแนวคิดการกระจายศูนย์เช่นเดียวกัน

ดังนั้น เทคโนโลยีตัวตรวจสอบความถูกต้องแบบกระจายศูนย์ จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการช่วยรักษาความปลอดภัยของตัวตรวจสอบความถูกต้องด้วยการกระจายความรับผิดชอบในการจัดการสิ่งสำคัญ และต้องมีการลงนามจากหลายฝ่ายเพื่อลดช่องโหว่หากเกิดความเสียหายเพียงจุดเดียว รวมถึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับตัวตรวจสอบความถูกต้อง

นอกจากนี้ Myers สังเกตเห็นลักษณะที่เสริมกันโดยธรรมชาติของการนำ DVT ใช้ร่วมกับ Liquid Staking ซึ่ง DVT ช่วยลดความเสี่ยงจากการตรวจสอบความถูกต้องแบบเดี่ยวใน Liquid Staking Pool ได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงช่วยยับยั้งพฤติกรรมอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและส่งเสริมการกระจายศูนย์

จุดเด่นและความท้าทายของ Obol ในการพัฒนา DVT 

Myers ได้เน้นย้ำแนวทาง DVT ของ Obol Labs ว่าเป็นการสร้าง Middleware ให้เป็นโมเดลที่ไม่ได้มาเพื่อแทนที่แต่เป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จาก DVT ในขณะที่ใช้บริการ Ethereum ใดๆ หรืออธิบายโดยง่ายจะเสมือนเป็นโซลูชันที่เสริมขึ้นมาในบริการที่มีอยู่ ที่สำคัญเป็นการลดความเสี่ยงที่เกิดจากการทำงานเพียงลำพังของการใช้ Middleware หรือ Client (เครื่องลูกข่าย) แบบเดี่ยว 

ปัจจุบัน Obol กำลังก้าวสู่เวอร์ชัน Beta ที่มีการใช้งานในมุมมองที่กว้างมากขึ้นนอกเหนือจากการใช้งานแบบรายบุคคล และมีการพัฒนาในลักษณ์ที่เป็นสะพานเชื่อมสู่ Pool ต่างๆ ของแพลตฟอร์ม Liquid Staking และหน่วยงาน สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในการยอมรับไปใช้ในวงกว้างมากขึ้น และการก้าวต่อไปต้องผ่านอุปสรรคในการประสานงานกับหลายฝ่าย รวมถึงการโน้มน้าวให้ผู้คนเข้าใจถึงเทคโนโลยี อย่างเช่น การที่ต้องเปลี่ยนจากตัวตรวจสอบความถูกต้องแบบทั่วไป (Home Validator) ไปเป็นระบบ B2B ซึ่งทาง Obol กำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงมีอุปสรรคใหญ่ที่แท้จริงนั่นคือการประสานงานกับคนในชุมชนระบบกระจายศูนย์

ภาพรวมของกฎและการกำกับดูแล รวมถึงผลกระทบต่อ DVT 

Myers ได้ให้ความเห็นและเน้นย้ำถึงความซับซ้อนของการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับในสหรัฐอเมริกาที่ทราบกันดีว่าขณะนี้ยังไม่สนับสนุนและไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับกฎต่างๆ มากนัก และเนื่องด้วย Obol ก็เป็นองค์กรในสหรัฐฯ รวมถึงมีผู้ลงทุนและผู้ใช้ในสหรัฐฯ เช่นกัน เขาจึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับจัดการกับข้อกังวลต่างๆ เพื่อผลักดัน DVT ให้พัฒนาต่อไป เนื่องจากมีศักยภาพมากมายที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้ เช่น ช่วยให้ใช้งาน Validator Node ข้ามประเทศได้หลายประเทศ ด้าน Unnawut ก็เห็นด้วยกับประโยชน์ของ DVT ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้นักลงทุน Staking และลงทุนในสินทรัพย์ชนิดอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย 

ล่าสุด Obol ได้รับความสนใจจากบริษัทประกันภัยเป็นอย่างมากไปจนถึงบริษัท Staking ที่ต้องการบริหารความเสี่ยง ซึ่งเป็นกรณีการใช้งานสำคัญในการยอมรับ DVT ไปปรับใช้

เนื่องด้วยความสามารถของในการรับมือกับความเสี่ยงของผู้ตรวจสอบให้ลดเหลือน้อยที่สุดของ DVT จึงสามารถดึงดูดความสนใจจากบริษัทรับประกันภัยและผู้ให้บริการประกันภัยหลากหลายประเภท ไปจนถึงบริษัทที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น

DVT ส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการในตลาดหรือไม่?

Myers กล่าวว่า ปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม Staking หลายประเภทซึ่งเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรม และมีกลุ่มที่ได้นำ DVT ไปปรับใช้และสร้างประโยชน์แบบเฉพาะที่มีความแตกต่างกันไป ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องของการส่งเสริมกันมากกว่าเป็นการแข่งขันในตลาด พร้อมชี้ให้เห็นว่า DVT สามารถใช้ร่วมกับบริการ Staking ที่หลากหลาย ตั้งแต่ Liquid Stake Pool, Centralized Validator, At-Home Validator แม้แต่กรณีการใช้งาน DeFi ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่ง DVT เป็นส่วนเสริมของบริการที่มีอยู่และช่วยลดต้นทุนพร้อมกับเพิ่มความปลอดภัยให้กับบริการเหล่านี้ 

ยกตัวอย่างเช่น Centralized Validator ก็จะมีลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไปรวมถึงฐานผู้ใช้จะมีความคุ้นชินกับระบบที่ต้องมีตัวกลางที่น่าเชื่อถือหรือเป็นที่รู้จัก ซึ่งบริการกลุ่มนี้กำลังพยายามนำ DVT ไปปรับใช้ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัย 

Obol กับการนำ DVT ไปยังระบบนิเวศอื่นๆ

Obol Labs ได้วิจัยและทดลองภายในระบบนิเวศของ Cosmos เพื่อดูความเหมาะสมและภาพรวมของอุตสาหกรรม นอกเหนือจากการใช้เวลาในระบบนิเวศ Ethereum มานาน โดยได้มีการสำรวจความเข้ากันได้ของ DVT กับรูปแบบการเข้ารหัส (Cryptographic) ที่แตกต่างกัน รวมถึงค้นหากรณีการใช้งานที่เป็นไปได้ภายในเครือข่าย Cosmos

รับชมทั้งหมดที่ Youtube: Obol Labs & Bringing Distributed Validator Infrastructure to Ethereum

บทความนี้สรุปจาก Virtual conference ที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2023