สำรวจวิวัฒนาการของ Staking ผ่านระบบนิเวศบน Ethereum
“Lido” แพลตฟอร์ม Liquid Staking ที่สร้างขึ้นเพื่อ Staking ETH
- Konstantin Lomashuk เริ่มด้วยการอธิบายถึง Staking ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระบบฉันทมติ (Consensus Algorithm) บนเทคโนโลยี Blockchain โดยใน Ethereum ทุกโหนดจะต้องการ 32 ETH เพื่อสร้าง Blocks และรักษาความปลอดภัยให้เครือข่าย
- Lido เป็นแพลตฟอร์ม Liquid Staking ที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อต่อสู้กับการกระจายอำนาจของ Ethereum ในปี 2020 เนื่องจาก Lomashuk และผู้ร่วมก่อตั้ง Lido มองว่าหากไม่มี Validator หรือผู้ตรวจสอบโหนดมืออาชีพ ตลาดอาจถูกควบคุมโดย Centralized Actors อย่างเช่น Exchange ได้
- Lido ทำหน้าเป็น Middleware หรือซอฟต์แวร์ตัวกลางที่เชื่อมต่อผู้ที่มีเงินลงทุน และผู้ที่อยากตรวจสอบโหนด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงผ่าน Smart Contracts และการดำเนินงานแบบ Decentralized Autonomous Organization (DAO)
- Lido ได้เปิดตัว Liquid Staking ซึ่งเป็น Staking Solution ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำ Staking ETH ของตนเอง และได้รับ Liquid Staking Token (stETH) ตอบแทน โดย Token นี้สามารถใช้ในแอปพลิเคชัน DeFi ต่าง ๆ ในขณะที่ ETH ดั้งเดิมยังคงถูกเดิมพัน (Staking) ไว้อยู่
ภารกิจหลักของ Lido คือการทำให้ Ethereum กระจายอำนาจ
- ปัจจุบัน Lido มี Staked ETH มากกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ และมีผู้ตรวจสอบหรือ Validator ประมาณ 28% ที่ใช้ Middleware นี้ ซึ่งภารกิจหลักของ Lido คือการทำให้ Ethereum คงระบบกระจายศูนย์ และต่อต้านการแทรกแซงธุรกรรม (Censorship-Resistant)
- Lomashuk เชื่อว่า Restaking Market สามารถนำมาใช้ประโยชน์ร่วมกับระบบ DeFi ต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ Lido ในการรักษาความเสี่ยงให้น้อยที่สุด และมอบรางวัลสูงสุดสำหรับ Staking ให้แก่ผู้ใช้งาน
- Lido เป็น DAO ที่มี Code ทั้งหมดจะถูกอัปเดตผ่านการลงคะแนน (Voting) ด้วย Smart Contract จากผู้ถือ LDO Token เขากล่าวถึงความสำคัญในการสร้างศักยภาพด้านการวิจัยของ Lido เพื่อให้มั่นใจว่าตัดสินใจได้ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง
- Lomashuk แสดงความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพของการรวมศูนย์อำนาจ ที่อาจเกิดขึ้นใน Ethereum ในกรณีที่มีการ Staked ETH ปริมาณมาก จากองค์กรแบบรวมศูนย์อย่าง Coinbase เขาเชื่อว่าการลดรางวัลเพื่อกำหนดอัตราส่วน Staking ที่เฉพาะเจาะจง จะส่งผลเสียต่อตลาดแบบกระจายอำนาจได้
“Cybernetic Economy” ระบบเศรษฐกิจที่ช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
- Roadmap ของ Lido ตามที่ระบุไว้ในข้อเสนอของ “Gus” มุ่งเน้นไปที่ 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเพิ่มการนำ stETH มาใช้, การสนับสนุนชุดผู้ตรวจสอบแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Validator) และการปรับปรุงการกำกับดูแล (Governance) เพื่อลดความเสี่ยง
- Lomashuk เน้นถึงความสำคัญของการเพิ่มความปลอดภัยและ Decentralization เขามองว่า Ethereum เป็นสินค้าสาธารณะ (Public goods) ที่สร้างคุณค่าสำหรับทุกคนในโลกนี้ ผ่าน "Cybernetic Economy" ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีที่ใช้ AI, Blockchain และนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อปรับปรุงชีวิตของผู้คน และเร่งความก้าวหน้า
- นอกจากนี้ Lomashuk ยังพูดคุยเกี่ยวกับบริษัทลงทุนของเขาที่ชื่อว่า “Cyber Fund” เปิดตัวเมื่อปี 2023 เพื่อจัดสรรเงินลงทุนให้แก่บริษัทและโครงการต่าง ๆ ที่มีส่วนในการสนับสนุนการพัฒนา Decentralized Cybernetic Economy ให้แข็งแกร่งมากขึ้น
สรุป
Lido มุ่งเน้นในการกระจายอำนาจและความปลอดภัย สอดคล้องกับเป้าหมายโดยรวมในการพัฒนาและจัดการกับเทคโนโลยีที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกอย่าง Ethereum และ AI ในรูปแบบที่เปิดเผย โปร่งใส และเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ
Lido ยังคงมุ่งมั่นต่อภารกิจหลักในการดูแล Ethereum ให้เป็นระบบกระจายอำนาจ ปลอดภัย และ Censorship-Resistant เพื่อประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน แม้ว่า Ethereum ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องและระบบการทำ Staking จะมีความซับซ้อนมากขึ้น
สำหรับใครที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lido สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ Lido หรือรับชมคลิปวิดีโอบน Youtube: Exploring the Evolution: The Future of Staking in Ethereum’s Ecosystem