milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
25 ธันวาคม 2566
ภาษาไทย

การลงทุนในคริปโตในยุคตลาดหมี: ภาพรวม โอกาส และความท้าทาย

เมื่อเข้าสู่ยุคตลาดหมี (Bear Market) การลงทุนในโลกคริปโตจะกลายเป็นขาลงหรือไม่? ตลาดจะมีโอกาสกลับมาคึกคักอีกไหม? และแนวโน้มในตลาดต่อไปจะเป็นอย่างไร?

Redefine_Article4SEP_1200X800.jpg

เปิดภาพรวมการลงทุนในตลาดคริปโตและ Blockchain จาก 2 นักลงทุน Paul Veradittakit, Managing Partner จาก Pantera Capital และ Min Teo, Managing Partner & Co-founder จาก Ethereal Ventures ผ่านบทสรุปจากงาน REDeFiNE TOMORROW 2023 หัวข้อ “Navigating Crypto Investing in the Bear Market: Landscape, Opportunities and Challenges” โดยทั้ง 2 ได้พูดถึงภาพรวม ความท้าทาย และโอกาสของการลงทุนในตลาดคริปโตที่เกิดขึ้นในช่วงกระแสตลาดหมี

 

ทำความรู้จัก Ethereal Ventures

 

Min Teo ได้เล่าถึงภาพรวมการดำเนินงานของ Ethereal Ventures ว่า เป็นบริษัทจัดการลงทุนระดับโลก (Global Investment Firm) ที่มุ่งลงทุนในตลาดคริปโต นอกจากจะลงทุนบนแพลตฟอร์ม หรือโปรโตคอลคริปโตแล้ว ยังมีการลงทุนใน Technical Founders เช่นกัน โดยสนับสนุนเงินทุนให้กับ Founders ตั้งแต่เริ่มต้น

 

ส่วนในเรื่องของการลงทุนล่าสุด Ethereal Ventures ได้ร่วมกับ Pantera Capital ลงทุนในแพลตฟอร์ม Trust-minimized staking ซึ่งเป็นการปลดล็อคในระบบนิเวศคริปโต และก้าวเข้าสู่โลกคริปโตที่ปราศจากความเสี่ยงอีกหนึ่งก้าว 

 

Min Teo อธิบายต่อว่า การที่ Ethereal Ventures เริ่มลงทุนในแพลตฟอร์มด้านการ Staking เพราะมองว่าจะสามารถต่อยอดเป็นบริการทางการเงินอื่น ๆ ได้อีกมากมาย อย่างล่าสุดที่ได้ลงทุนใน ผู้ให้บริการสภาพคล่อง Staking ให้กับสถาบัน นับว่าเป็นเรื่องใหม่ ที่เริ่มมีการให้ความสนใจลูกค้าระดับสถาบันมากขึ้น

 

ทำความรู้จัก Pantera Capital

 

Paul Veradittakit เล่าว่า Pantera Capital นับว่าเป็นนักลงทุนรายแรก ๆ ในตลาดคริปโตและ Blockchain เลยก็ว่าได้ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2013 โดย Pantera Capital ก่อตั้งโดย Dan Morehead ผู้มีประสบการณ์ในด้านการลงทุน ทั้งหุ้นสามัญ Hedge Fund รวมไปถึงมีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน ทำให้เขามองเห็นว่าตลาดการเงินแบบดั้งเดิมมีโอกาสถูก Disrupt ในปี 2011 จึงได้หันมาศึกษาและโฟกัสตลาดคริปโต และก่อตั้ง Pantera Capital ในอีก 2 ปีถัดมา

 

ปัจจุบันนี้ Paul ชี้แจงต่อว่า Pantera Capital กำลังก้าวเข้าสู่ 4 พันล้านในการบริการจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) ซึ่งมีการระดมทุนทั้ง Venture Fund และ Hedge Fund โดยจะมุ่งเน้นไปที่ระดับ Early Stage

 

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ การร่วมลงทุนในด้าน Staking ที่ร่วมกับ Ethereal Ventures ในการลงทุนใน Obol Labs และล่าสุดได้ลงทุนในบริษัท M^ZERO แพลตฟอร์มที่เป็น Money Middleware บนระบบแบบ Decentralized โดยจะให้ผลตอบแทนเป็น Treasury 

 

มุมมองต่อตลาดหมีในปัจจุบัน

 

เริ่มต้นที่ Min Teo อธิบายว่า ในช่วงของตลาดหมีไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุน ทำให้คนหันไปลงทุนในตลาดอย่าง ทองคำ Web3 และตลาดคริปโต เพราะเป็นแหล่งที่นักลงทุนมองว่ามีความคงที่กว่าตลาดอื่น ๆ และด้วยเทคโนโลยี เครื่องมือ และการพัฒนาที่ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มมีความแข็งแรงขึ้น

 

นอกจากนี้ เธอยังมองว่า คนต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นตลาดคริปโตจึงตอบโจทย์ด้านนี้ได้เป็นอย่างดี

 

ในด้านของ Paul Veradittakit เผยมุมมองว่า ในตลาดหมี นักลงทุนจะเริ่มลงทุนเร็วใน Early Stage ด้วยการลงทุนจำนวนน้อย ๆ เพื่อบริหารความเสี่ยง 

 

เรามีแนวคิดว่า ถ้าในตลาดยิ่งมีการแข่งขันน้อยเท่าไหร่ ยิ่งดีต่อการลงทุน เพราะจะทำให้เราได้เป็นหุ้นส่วนที่ใหญ่กว่า ได้ส่วนแบ่งที่เยอะกว่า นอกจากนี้ ในตลาดหมี มูลค่าต่าง ๆ จะลดลง นับว่าเป็นข้อดีและโอกาสต่อนักลงทุน โดยเฉพาะในการลงทุนธุรกิจ Serie A และ B หรือ Early Stage

 

ความท้าทายของตลาดคริปโตในยุคตลาดหมี

 

Min Teo มองว่า การลงทุนในตลาดคริปโต ยังคงมีดีลต่าง ๆ ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่ามีธุรกิจที่น่าสนใจ มี Founder ที่แข็งแกร่ง มี Developer ที่มีฝีมือเข้ามาร่วมในโลกคริปโตและบล็อกเชน ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรม

 

อย่างไรก็ตามด้วยมูลค่าในตลาดที่ลดลง ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุน ให้เข้ามาร่วมลงทุนในตลาด ส่วนด้านของ Founder หรือฝั่งธุรกิจที่ยังมองภาพเดิมของตลาดกระทิงเมื่อต้นปี 2022 ทำให้ระยะเวลาการปิดดีลการลงทุนยาวนานขึ้น

 

Paul Veradittakit มองว่าตลาด AI ไม่ได้มาแย่งพื้นที่ตลาดคริปโตในช่วงที่เป็นยุคตลาดหมี เขาอธิบายว่า AI คือ หนึ่งใน Category ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาของตลาดคริปโต ดังนั้น การที่นักลงทุนสนใจลงทุนใน AI แนะนำให้ลงทุนใน AI ที่ช่วยสนันสนุนระบบนิเวศน์ของคริปโต

 

Paul ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า ในตลาดหมีนักลงทุนรายเล็กที่เลือกลงทุนในธุรกิจระดับ Early Stage มีโอกาสมากกว่าที่จะประสบความสำเร็จ เพราะจะมีโอกาสในการพิจารณาธุรกิจ มีโอกาสคิดคำนวณการลงเงินทุน และมีโอกาสมองหาแนวทางในการยกระดับให้ธุรกิจนั้น ๆ สำเร็จ แต่ในทางกลับกันนักลงทุนรายใหญ่ที่ไม่ได้ลงทุนใน Early Stage ผู้ลงทุนในธุรกิจที่มี Category ชัดเจน ในกลุ่มที่กำลังจะก้าวเป็น Winner จะต้องมาจัดการกับการดำเนินไปของตลาดที่อาจจะไม่แน่นอน ต้องรับมือกับการพัฒนา และปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงของตลาด โดย Paul ได้ยกตัวอย่าง NFTs ขึ้นมาว่า ธุรกิจประเภทนี้ในปัจจุบันไม่ได้โฟกัสที่คอนเทนต์หรือคอลเลกชันแล้ว แต่กำลังโฟกัสที่โครงสร้างพื้นฐาน จากในอดีตที่ผู้คนตื่นเต้นกับคอนเทนต์ของ NFTs อย่างมาก

 

สิ่งที่ Ethereal Ventures และ Pantera Capital มองหา

 

Ethereal Ventures

 

Min Teo กล่าวว่า สำหรับ Ethereal Ventures จะโฟกัสไปที่ธุรกิจ Pre-seed ถึง Series A ซึ่งเป็น Early Stage โดยเข้าไปช่วย Founders ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น (Zero to One) ซึ่งลักษณะเด่นที่มองหาใน Founders คือ จะต้องมีความเชื่อว่าจะสามารถ Execute ธุรกิจได้ทันที ซึ่งจะแตกต่างจากในอดีตที่ทั้งนักลงทุนและ Founders จะร่วมกันทดสอบ ทดลองทั้งผลิตภัณฑ์ ธุรกิจ และตลาดของตัวเอง 

 

Min กล่าวต่อว่า จะเห็นว่าในตลาดคริปโตปัจจุบันนี้แตกต่างออกไปจากเดิม เราต้องการธุรกิจที่หา Product-Market Fit ได้เร็ว เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานให้มากขึ้นในตลาดคริปโต

 

Ethereal Ventures มีความสนใจลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมาโดยตลอด และช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ ได้มีโอกาสลงไปเล่นในส่วนของแอปพลิเคชัน จึงพบว่าสามารถสร้าง ต่อยอด และบูรณาการณ์ได้หลากหลาย นอกจากนี้ ยังสนใจเรื่องของ Cryptography ที่ทาง VC Fund ได้มีการศึกษาวิจัยมาตลอดช่วงที่ผ่านมา พร้อมเห็นว่าความน่าสนใจที่ศาสตร์ด้านนี้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ได้

 

Pantera Capital

 

Paul Veradittakit ให้มุมมองที่น่าสนใจไว้ว่า ขณะนี้นักลงทุนกำลังโฟกัสไปที่โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปคือ ในโลก DeFi ไม่ใช่แค่คนที่เริ่มหันมาสนใจมากขึ้น แต่ยังมีสถาบัน องค์กรต่าง ๆ สนใจเข้ามาเล่นด้วยเช่นกัน แล้วเราจะทำอย่างไรให้สถาบันและคนเชื่อมกันได้?

 

เขากล่าวต่อว่า จริง ๆ แล้วเรากำลังลงทุนในบริษัทที่คิดว่าสามารถเพิ่มคุณค่าให้พวกเขาได้ ที่ผ่านมา Pantera Capital มีความสัมพันธ์อันดีกับ Developer และ Enterprise ต่าง ๆ มาโดยตลอด ดังนั้น สิ่งที่เรามองต่อไปจากนี้ คือ การลงทุนในสิ่งที่จะพัฒนา Ecosystem ในวงกว้าง อย่างเช่น เรื่องของความปลอดภัย กฎระเบียบและข้อบังคับ Tokenomics เป็นต้น

 

โอกาสในตลาดหมี

 

Min Teo ได้กล่าวถึงมุมมองด้านโอกาสการลงทุนในตลาดหมีว่า ในเอเชียนับว่าเป็นตลาดคริปโตที่น่าสนใจ สิ่งที่จะทำต่อไปคือการส่งเสริมให้ Founder ในเอเชียมองภาพตลาดระดับโลก สนับสนุนให้พวกเขาสร้างสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่ตลาดในเอเชียต้องการเพียงที่เดียว 

 

สำหรับ Paul Veradittakit มองว่า ในตลาดหมี ทำให้นักลงทุนเห็นว่าการจัดลำดับความสำคัญนั้นเป็นเรื่องมองข้ามไม่ได้ เพราะในตลาดหมีการมีเงินทุนสำรองไว้ในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเป็นเรื่องจำเป็น และการจะนำเงินมาทุ่มกับทุกขั้นตอนในการลงทุนย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น การดึงเรื่องที่สำคัญที่สุดมาจัดการก่อนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งการจัดลำดับความสำคัญจะทำให้นักลงทุนได้เห็นภาพกว้างว่า ลงทุนแบบนี้ดีหรือไม่ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร นักลงทุนจะได้พิจารณาความเป็นไปได้มากขึ้นนั่นเอง

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ กฎระเบียบและข้อบังคับ ที่ Paul มองว่า เป็นอีกความท้าทายและโอกาสหนึ่งที่เกิดขึ้นมาในตลาดหมี เพราะทั่วโลกกำลังจับตามองและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

 

รับชมทั้งหมดได้ที่ YouTube: Navigating Crypto Investing in the Bear Market: Landscape, Opportunities and Challenges

 

บทความนี้สรุปจาก Virtual conference ที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2023

 

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept