Technology
27 ตุลาคม 2565
ภาษาไทย
องค์กรอัตโนมัติ ‘DAO’ สำคัญอย่างไรใน WEB 3.0
Web 3.0 เป็นอินเทอร์เน็ตยุคใหม่แบบกระจายศูนย์และสร้างขึ้นบน Blockchain และ Crypto ซึ่งยังมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องพัฒนา ยกตัวอย่างเช่น ระบบการจัดการเพื่อรับมือด้านการกำกับดูแล และ ‘DAOs’ (Decentralized Autonomous Organisations) ได้ปรากฏขึ้นเพื่อจัดการกับเรื่องนี้บน Web 3.0
DAO คืออะไร และทำงานอย่างไรในเบื้องต้น
Decentralized Autonomous Organization (DAO) หรือองค์กรอัตโนมัติรูปแบบกระจายศูนย์ มีการออกกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างโปร่งใสโดยการเขียนชุดคำสั่ง Code และถูกกำหนดโดย Smart Contract ที่ทำงานอยู่บน Blockchain รวมถึงถูกควบคุมโดยสมาชิกและมีความเป็นอิสระจากตัวกลางหรือบุคคลที่สาม
DAO ถูกพิจารณาว่าเป็นรูปแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) เมื่อไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับรัฐใดรัฐหนึ่งหรือธนาคารกลาง และนักพัฒนาได้พัฒนาขึ้นมาในรูปแบบอัตโนมัติและมีการกระจายศูนย์ ไร้ข้อจำกัดจากระบบงานแบบเก่าที่ซับซ้อน
โดยส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เสมือนเป็น Venture Capital Fund หรือกองทุนรวมที่อยู่บนพื้นฐานของ Open-Source Code โดยที่ไม่มีโครงสร้างของการลงทุนหรือการซื้อหุ้นนอกตลาด (Private Equity) และคณะกรรมการบริษัท จากนั้นรูปแบบของการระดมทุนแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Crowd-Funding) นี้ก็จะถูกนำไปประยุกต์ใช้กับด้านอื่นๆ ขององค์กร อย่างเช่น ตั้งแต่การแลกเปลี่ยนมูลค่า การกู้และการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized finance: DeFi)
องค์ประกอบสำคัญและวัตถุประสงค์หลักของ DAO
กุญแจสำคัญของ DAO คือ Smart Contracts ที่ระบุกฎขององค์กรและการถือครองคลังสินทรัพย์ของกลุ่ม ซึ่งสมาชิกในกลุ่มชุมชนจะทำหน้าที่เป็นผู้เสนอเพื่อการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงโปรโตคอล เช่น การปรับปรุงทางเทคนิคและการจัดสรรคลัง หรือการโหวต
โดยผู้ที่มีส่วนร่วมจะได้รับโทเคนเฉพาะของแต่ละ DAO เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับใช้สิทธิ์ในการโหวตและเป็นเจ้าของส่วนได้เสียเพื่อกำหนดกรอบอนาคตของ DAO ที่ตนมีส่วนร่วม และยิ่งสมาชิกเป็นเจ้าของโทเคนมากเท่าใด น้ำหนักในการตัดสินใจและอำนาจการลงคะแนนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
DAO คือการให้อำนาจแก่สมาชิกในชุมชนมีสิทธิ์ในการออกเสียง และให้นักลงทุนสามารถรับ ส่ง และจัดเก็บมูลค่าทั่วโลกโดยอัตโนมัติและไม่ต้องระบุตัวตน
หลายปีที่ผ่านมา DAO ถูกมองว่าเป็นวิธีการที่ช่วยลดอุปสรรคที่ซับซ้อน เช่น การจัดการกับระบบราชการแบบดั้งเดิมที่ใช้เวลานาน ซึ่งวัตถุประสงค์ของ DAOs คือการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นหลักและสนับสนุนให้ทุกคนมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นและแง่มุมอื่นๆ ที่คุ้มค่ามากกว่า และที่สำคัญระบบอัตโนมัติของ DAO ไม่ต้องการการจัดการจากส่วนกลางแบบดั้งเดิมที่รับมือกับความเสี่ยงได้น้อย มีความผิดพลาดของมนุษย์และมีโอกาสโกงได้มากกว่า
DAO มีบทบาทและสำคัญอย่างไรใน Web 3.0
การออกแบบเครือข่ายของ DAO สามารถผสมผสานกับรากฐานของ Web 3.0 ได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดเศรษฐกิจใหม่สำหรับครีเอเตอร์และอนาคตของการทำงาน
DAO ถือได้ว่าเป็น Web 3.0 ได้เช่นกันเมื่อพิจารณาถึงหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ Web 3.0 ก็คือการกระจายศูนย์ (Decentralization) ยกตัวอย่างเช่นแพลตฟอร์ม DeFi ที่ใช้ DAO เพื่อให้เกิดการกระจายศูนย์อย่างสมบูรณ์ภายในแพลตฟอร์ม หรือ Decentralized Exchanges (DEXs) เช่น SushiSwap และ Uniswap เป็นอีกตัวอย่างสำคัญกับบทบาทของ DAOs ใน Web 3.0
Web 3.0 มีส่วนสร้าง Decentralized Autonomous Organisation (DAOs), NFTs และ Metaverse ซึ่งสามารถจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ โดยมีความคล้ายคลึงกันตั้งแต่เรื่องบทบาทของผู้ใช้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้นและเรื่องความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ผ่านการใช้ Cryptocurrencies รวมถึงเรื่อง การกำกับดูแลของชุมชนและการระดมทุนรูปแบบใหม่ซึ่งไม่ต้องการการแทรกแซงของ VCs แบบเดิม
อีกตัวอย่างที่น่าสนใจอย่างเช่น “JennyDAO” เป็น Metaverse DAO ที่ช่วยให้สามารถแบ่งส่วนการเป็นเจ้า (Ownership) ของ NFTs ซึ่งสมาชิกสามารถดูแลการซื้อและจัดเก็บ NFTs ผ่าน Smart Contracts ที่ถูกระบุไว้ในโปรโตคอล DAO
ความท้าทายของ DAO ใน Web 3.0
การจัดการแพลตฟอร์มและระบบในโลก Web 3.0 ทำให้ผู้ใช้มีอำนาจการตัดสินใจมากขึ้น รวมถึงมีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของและความสามารถในการควบคุมข้อมูลของตนมากขึ้น หลายคนเชื่อว่า DAO มีศักยภาพเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการทำงานใหม่ เช่น ด้านความร่วมมือกันและการทำงานร่วมกัน หรือด้านทรัพยากร นอกจากนี้ DAO สร้างโอกาสเพื่อชุมชนและองค์กรต่างๆ ได้หันมาทบทวนถึงวิธีการทำงานร่วมกันใหม่ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและสิ่งจูงใจหรือผลตอบแทนที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายถึงโมเดลฉันทามติหรือรูปแบบของการออกเสียงใน DAO ว่าเป็นอุปสรรคต่อการเกิดนวัตกรรม ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนมีชื่อเสียงและมีความสามารถสร้างนวัตกรรมแต่มีบทบาทเป็นเพียงแค่คนออกเสียงคนหนึ่งใน DAO ก็อาจทำให้เสียโอกาสที่จะเกิดนวัตกรรมจากบุคคลที่มีความสามารถที่น่าทึ่งเหล่านี้ได้
อีกความท้าทายหนึ่งคือ Web 3.0 ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นซึ่งเทคโนโลยีพื้นฐานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ยังต้องการเวลาพัฒนาและต้องมีการทำงานอีกมาก และยังมีแฮกเกอร์ที่พุ่งเป้าโจมตีไปที่ DAO เนื่องจากเป็นระบบที่มีมูลค่าทางการเงินสูงและมีแนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ
และเนื่องจาก DAO ที่เป็นระบบการกระจายศูนย์ ก็อาจทำให้มีความเสี่ยงที่เกิดจากการขาดความสัมพันธ์ทางธุรกิจแบบตรงไปตรงมา เพราะมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น เช่น Marketplace และผู้ซื้อหรือผู้ขาย และต้องมีการประสานงานกันของผู้ซื้อและผู้ขายว่าใครจ่ายให้กับใครเป็นจำนวนเท่าใด ซึ่งไม่ง่ายเหมือนการออกใบสั่งซื้อและรอการชำระเงิน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลและเรื่องภาษี ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าจะมีการปรับปรุงเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไรในอนาคต