อัปเดตอนาคตของนวัตกรรมตรวจสอบธุรกรรมแบบกระจายศูนย์ (DVT) ไปกับ ‘SSV.Netwok’
SSV.Network กับนวัตกรรม DVT (Distributed Validator Technology)
Alon ได้แนะนำถึงวิธีที่ DVT หรือวิธีการตรวจสอบความถูกต้องแบบกระจายศูนย์ของ SSV.Network ที่เป็นการช่วยแยก Validator หรือผู้ตรวจสอบความถูกต้องของ Ethereum ที่ปกติมีเพียงหนึ่งเซิร์ฟเวอร์หลักให้สามารถออกมาดำเนินการอย่างอิสระได้หลายตัว โดยอาศัยโปรโตคอลฉันทามติ QBFT และการลงนามร่วมกันแบบ Threshold Signatures สำหรับลงนามตรวจสอบ Block จึงส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานเกิดการกระจายศูนย์ ปลอดภัยกับผู้ใช้ Staking และมีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้นเนื่องจากทำงานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเมื่อรวมกันเป็นเครือข่ายก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้แอปพลิเคชันต่างๆ ยังสามารถเข้ามาสร้างเพื่อต่อยอดการใช้งานได้
จุดเด่นของ SSV.Network คือความพร้อมในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะกับการปรับขยายและเป็นมิตรกับนักพัฒนา ด้วยการมุ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐานการ Staking แบบกระจายศูนย์และสร้างแรงส่งให้ตลาดของ DVT มีการเคลื่อนไหวและมีชีวิตชีวา
DVT กำลังจะเข้ามาแทนที่บริการ Staking อื่นๆ หรือไม่ และความท้าทายในการพัฒนาก่อนเปิดตัว Mainnet ของ SSV.Network
Alon แสดงความเห็นถึง DVT ไม่ได้มาแทนที่บริการ Staking ต่างๆ ที่มีอยู่ก่อนอย่างเช่น Lido หรือ Rocket Pool แต่เป็นส่วนเสริมจากบริการเหล่านี้ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นและใช้งานง่ายขึ้น ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ต่างมีความจำเป็นต้องการระบบการตรวจสอบธุรกรรม ดังนั้น SSV.Network จึงช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มที่สามารถปรับขนาดได้และเป็นไปอย่างโปร่งใส
DVT ของ SSV.Network เป็นกระบวนการพัฒนาที่เป็นไปอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความสามารถในการปรับขนาดและมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ด้วยเวลากว่าสองปีที่ SSV.Network ได้เปิดเครือข่ายทดสอบแบบสาธารณะหรือ Testnet ต้องรับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลายและอาศัยเวลาเพื่อให้มั่นใจได้ถึงความสมบูรณ์ของเทคโนโลยี และที่สำคัญคือการมุ่งเน้นสร้างชุมชนนักพัฒนาที่ต้องการเริ่มต้นสร้างบนเทคโนโลยีใหม่พร้อมไปกับการสร้างระบบนิเวศ
การสนับสนุนนักพัฒนาของ SSV.Network
SSV.Network ได้ให้การช่วยเหลือและกองทุนสำหรับระบบนิเวศเพื่อสนับสนุนโครงการที่มีแนวคิดที่น่าสนใจและสร้างบน DVT ซึ่งเป็นการสนับสนุนการเติบโตของชุมชน โดยจะได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการส่วนกลางและชุมชน SSV.Network ก่อน นอกจากนี้ยังมี VC ที่ร่วมลงทุนซึ่งช่วยให้นักพัฒนามั่นใจได้ในระยะยาว โดยนักพัฒนาที่สนใจสร้างบนแพลตฟอร์มสามารถเข้าชมรายละเอียดต่างๆ ได้ทางเว็บไซต์และสามารถเชื่อมต่อกับชุมชนผ่านทาง Discord
แนวโน้มในอนาคตเมื่อ SSV.Network เปิดใช้ Mainnet
Alon เห็นศักยภาพในการขยายไปยัง Blockchain อื่นๆ และการปรับขยายภายในอุตสาหกรรมการสร้าง Block ของ Ethereum ในอนาคตที่เป็นการรวมเข้าขององค์ประกอบสำคัญอื่นๆ เช่น MEV (Maximum Extractable Value) และ โซลูชัน Layer-2 ต่างๆ ที่มุ่งเน้นการเชื่อมโยงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามเขายังคงให้ความสำคัญกับการปรับปรุงอย่างละเอียดในปัจจุบัน รวมถึงการปรับให้เหมาะสมกับ Protocol และนักพัฒนา รวมถึงหัวใจสำคัญคือการเปลี่ยนการ Stake ที่ควบคุมโดยหน่วยง่ายเป็นการควบคุมการ Stake แบบกระจายศูนย์หรือไม่มีผู้ควบคุม
Alon ให้ความเห็นว่า DVT สามารถแก้ปัญหาได้หลายด้านในกระบวนการตรวจสอบ ทั้งส่วนของ Sequencers, Builders, Bridges และ Oracles ซึ่งหากเข้าใจความสามารถของโปรโตคอล SSV.Network ที่ช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าวได้ร่วมตัดสินใจก่อนลงนามตรวจสอบ หรือหมายถึงในหนึ่งลายเซ็นแต่มีเบื้องหลังจำนวนมากร่วมกันตัดสินใจดำเนินการ ดังนั้นทุกภาคส่วนใน
กระบวนการต่างได้ประโยชน์จากโปรโตคอลที่เป็นลักษณะการกระจายศูนย์นี้ รวมถึงช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและโอกาสในการกระจายศูนย์ให้เพิ่มไปยังพื้นที่อื่นๆ
นอกจากนี้ Alon ได้มุ่งเน้นในเรื่องการทำงานร่วมกันของ SSV.Network แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ทุกคนสามารถเป็นตัวกลางหรือผู้ให้บริการ Node ได้ โดยสร้าง Pool ที่เป็นพื้นฐานของผู้ให้บริการที่สามารถเสนอบริการของตนแก่นักพัฒนาได้ ดังนั้นการร่วมมือนี้สามารถสร้างโอกาสให้กับผู้บริการที่มีอยู่และธุรกิจขนาดเล็กได้เข้าร่วมในระบบ ขณะเดียวกันนักพัฒนาก็ได้รับประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพจากผู้ให้บริการ
สุดท้าย Alon แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรือนวัตกรรมที่อาจเกิดขึ้นกับ Ethereum รวมถึงนวัตกรรม Staking, DeFi และการเทรดที่กำลังจะมาถึงในอนาคต ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพร้อมสนับสนุนผู้ที่มีแนวคิดใหม่ๆ และสนใจในธุรกิจ Staking โดยเปิดโอกาสให้เข้ามาร่วมงานกับ SSV.Network
รับชมทั้งหมดที่ https://youtu.be/4KadmL1rmqA