milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
12 เมษายน 2566
ภาษาไทย

MultiSig Wallet คืออะไร?

ในปี 2022 ที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาข้อกังวลด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรม Crypto กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองมากที่สุด เนื่องจากมีเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ของแพลตฟอร์มที่มีชื่อรวมไปถึงเกิดการโจมตีและ Scam หลากหลายกรณี ซึ่งช่องโหว่หนึ่งที่อาจทำให้ถูกโจมตีได้ก็คือ Crypto Wallets เนื่องจากหากมีข้อบกพร่องก็ทำให้สินทรัพย์ตกอยู่ในความเสี่ยง โดย MultiSig Wallets อาจเป็นหนึ่งทางแก้ที่สามารถลดข้อกังวลด้านความปลอดภัยของการใช้ Wallet และทำธุรกรรม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งสำหรับผู้ลงทุน Crypto

Article6SEP2_1200X800.jpg

MultiSig Wallet คืออะไร?

Multisig Wallet หรือกระเป๋าเงินที่ต้องใช้หลายลายเซ็น คือ กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ต้องมีการใช้ลายเซ็นหรือผ่านการเห็นชอบจาก 2 คนขึ้นไปในการเข้าถึงกระเป๋าเงินเพื่อทำธุรกรรม หมายความว่ามีความจำเป็นต้องใช้ Private Key มากกว่าหนึ่งเพื่ออนุมัติในการทำธุรกรรม Crypto ซึ่งเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล 

โดย Multisig หมายถึง Multi-Signature ซึ่งเป็นการเซ็นลายเซ็นแบบดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้จำนวน 2 คนขึ้นไปสามารถร่วมกันเซ็นลงนามเอกสารร่วมกันเป็นกลุ่ม และต้องเป็นการรวมกันของลายเซ็นที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งเทคโนโลยี Multi-Signature มีการใช้งานจริงอยู่ในโลกของสกุลเงินดิจิทัล แต่หลักการของเทคโนโลยี Multisig นี้มีมาเป็นระยะเวลานานก่อนที่จะมี Bitcoin เกิดขึ้น 

เทคโนโลยี Multisig ในบริบทของ Cryptocurrencies ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับ Bitcoin ในปี 2012 ซึ่งได้นำไปสู่การสร้างกระเป๋าเงินแบบใช้หลายลายเซ็น (Multisig Wallet) ในหนึ่งปีต่อมา นอกจากนี้ Multisig ถูกนำมาใช้ในบริบทที่หลากหลาย แต่กรณีการใช้งานส่วนใหญ่มักเกี่ยวกับการนำมาแก้ปัญหาด้านความปลอดภัย


ทำไมจึงต้องใช้ Multisig Wallet?

เมื่อมองในด้านความปลอดภัยของนักลงทุน Multisig เป็นวิธีการจัดเก็บเหรียญหรือ Token ด้วยวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเข้าถึงสินทรัพย์เพียงช่องทางเดียวหรือการใช้ Private Key เพียงหนึ่งรหัสเพื่อทำธุรกรรม ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อสินทรัพย์ของนักลงทุน เนื่องจากอาจสูญหายหรือถูกขโมยโดยผู้ไม่หวังดีได้โดยง่าย และเพื่อขจัดปัญหาดังกล่าว การใช้ Private Key ตั้งแต่สองรหัสขึ้นไปและมาจากแหล่งที่มาที่แตกต่างกันเพื่อทำธุรกรรมจึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของสินทรัพย์ 


Multisig Wallet มีหลักการทำงานอย่างไร?

Multisig Wallets เป็น Crypto Wallet ที่ต้องใช้ Private Keys ตั้งแต่สองรหัสขึ้นไปเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ ซึ่งหลักการทำงานสำคัญคือการที่ต้องมีผู้ร่วมคนอื่นๆ ลงลายเซ็นสองคนขึ้นไปก่อนที่ทำการส่งธุรกรรมใดๆ โดยกระบวนการของ Multisig Wallet ทำงานโดยต้องใช้ลายเซ็นให้ครบตามจำนวนที่กำหนด และหากการเซ็นไม่ครบหรือขาดใครคนใดคนหนึ่งไปก็จะไม่สามารถทำธุรกรรมได้ หรือเพื่อให้เห็นภาพอย่างง่ายสามารถเปรียบเทียบได้กับตู้เซฟที่ต้องใช้กุญแจแบบเฉพาะหลายอันที่ต้องใช้ร่วมกันให้ครบจึงจะเปิดตู้เซฟ


Multisig Wallet มีกี่ประเภท?

Multisig Wallets สามารถแบ่งได้หลากหลายประเภท แต่แบ่งได้เป็นสองประเภทหลัก ซึ่งประเภทที่หนึ่งคือต้องให้ทั้งหมดทุกฝ่ายยินยอมหรือลงลายเซ็นเพื่อทำธุรกรรมเท่านั้น โดยที่พบบ่อยจะใช้ต้องใช้สามลายเซ็นเพื่อยืนยันก่อนทำธุรกรรม 

ส่วน Multisig Wallets ประเภทที่สองจะใช้จำนวนเพียงบางส่วนจากทั้งหมดเพื่อร่วมกันดำเนินการธุรกรรม อย่างเช่น ใช้เพียงจำนวน 2 จาก 3 ลายเซ็น หรือใช้ 3 จาก 5 ลายเซ็น 

ส่วนขั้นตอนการลงลายเซ็นในการทำธุรกรรมบนกระเป๋าเงินแบบ MultiSig Wallets มีความแตกต่างจากกระเป๋าเงินแบบดั้งเดิม เนื่องจากความแตกต่างของการออกแบบและการสร้าง โดยกระเป๋าเงินแบบดั้งเดิมเรียกว่า Externally Owned Account (EOA) หรือหมายถึงบัญชีภายนอกและเป็นบัญชีที่ผู้ใช้เป็นผู้สร้างขึ้นและควบคุมด้วย Private Key และโดยทั่วไป EOAs ถือได้ว่าเป็น “User Accounts” หมายความว่าเป็นบัญชีที่สร้างสำหรับสมาชิกที่เป็นสาธารณชนทั่วเพื่อโต้ตอบกับ Blockchain
 

แต่ในทางกลับกัน ‘Multisig Wallets’ เป็นกระเป๋าเงินที่ทำงานด้วย Smart Contract แทนที่การถูกควบคุมโดยผู้ใช้จนถึงส่วนสุดท้าย โดยที่ Multisig Wallets หรือกระเป๋าเงินแบบอัจฉริยะเหล่านี้ควบคุมโดยการใช้ Code รวมถึงบริหารจัดการแบบ On-Chain โดยผู้ที่เป็นเจ้าของ และจากการทำงานด้วยวิธีดังกล่าวจึงทำให้ Multisig Wallets ถูกเรียกได้ว่าเป็น Self-Custody ชนิด “Seedless” หรือการรักษาความปลอดภัยสินทรัพย์ที่ไม่ต้องคำนึงถึงรหัส Seed 


Multisig Wallets เหมาะกับใครบ้าง?

โดยทั่วในกลุ่มนักลงทุนรายย่อยมีการใช้ MultiSignature Wallet เพื่อการเก็บรักษาสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลต่างๆ แต่กลุ่มที่มีการใช้อย่างโดดเด่น คือกลุ่มของแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล (Crypto Exchange) และโบรกเกอร์และ Over the Counter (OTC) รวมถึงกองทุนเพื่อการลงทุนและบริษัท Crypto ต่างๆ ที่มักใช้ MultiSignature เพื่อเก็บรักษาสินทรัพย์ โดยยกตัวอย่างเช่นโบรกเกอร์หรือ Exchanges จะมีการกระจายคีย์สำหรับผู้ดูแลระบบเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการถูกแฮกเกอร์โจมตี เนื่องจากหากแฮกเกอร์โจมตีก็มีความจำเป็นต้องใช้คีย์จำนวนมากเพื่อเข้าถึง 

นอกจากนี้ การใช้ MultiSig ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีคนใดคนหนึ่งในบริษัทสามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ด้วยตัวคนเดียว เนื่องจาก MultiSig ต้องใช้ลายเซ็นจำนวนตามที่กำหนดในการทำธุรกรรม 

ในส่วนกรณีใช้งานแบบเฉพาะอื่นๆ มีการใช้งานทางกฎหมายสำหรับการตั้งค่าบัญชีที่ใช้ร่วมกันระหว่างสมาชิกครอบครัวสำหรับการโอนทรัพย์สินไปยังทายาทและผู้รับผลประโยชน์ หรือการขายทรัพย์สินในกรณีที่สมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต


ข้อน่าสังเกตและความเสี่ยงของ Multisig 

ถึงแม้ว่าการใช้ Multisig สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการถือสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลได้มากขึ้นแต่ก็ยังคงมีข้อน่าสังเกตและความเสี่ยงอยู่เช่นกัน


ยกตัวอย่างเช่น สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin มีการใช้ซอฟต์แวร์ Multisignature Wallet มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น ซึ่งซอฟต์แวร์ Multisig ก็ยังมีความซับซ้อนมากเกินไปสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ค่อยเข้าใจด้านเทคนิค อย่างเช่น การตั้งค่าใช้งานที่ต้องอาศัยความเข้าใจด้านเทคนิคในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ใช้ไม่ต้องการพึ่งพาบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่าทั้ง Blockchain และ MultiSig ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับคนส่วนใหญ่ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย ซึ่งยังไม่มีผู้ดูแลตามกฎหมายของสินทรัพย์ที่ฝากเข้ากระเป๋าเงินประเภทที่ใช้ร่วมกันและมีผู้ถือกุญแจหลายคน

ดังนั้น ถึงแม้ว่า Multisig Wallets จะมีข้อดีและสามารถแก้ปัญหาด้านความปลอดภัยได้มากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ต้องคำนึงและศึกษาให้ดีก่อนใช้งาน

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Accept