จับตา! AI ผสาน Web3/Blockchain เทรนด์มาแรงแห่งปี 2025 ที่ต้องรู้

แรงบันดาลใจในการค้นหา “Unified Theory”
แนวคิดเกี่ยวกับ "ทฤษฎีรวม" (Grand Unified Theory) เป็นสิ่งที่มนุษย์แสวงหาในแทบทุกศาสตร์ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือในฟิสิกส์ ซึ่งมีความพยายามรวม แรงพื้นฐานทั้ง 4 (แรงโน้มถ่วง แม่เหล็กไฟฟ้า แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน และแรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม) เข้าไว้ในทฤษฎีเดียวที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งหมด
ในทำนองเดียวกัน ทฤษฎีรวมสำหรับเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงสังคม อาจกำลังก่อตัวขึ้นผ่านการบูรณาการระหว่าง AI และ Blockchain ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับการกล่าวถึงในงาน “SmartCon 2024 โดย ศาสตราจารย์ Yonggang Wen จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง (NTU) ประเทศสิงคโปร์ ในหัวข้อ "When AI Meets Web3 (Blockchain)"
AI ตั้งแต่การสร้าง Transformer และ Large Language Models (LLMs) เช่น GPT และมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ตามมามากมาย ก็ได้เปลี่ยนชีวิตมนุษย์อย่างมากในปัจจุบัน และ Blockchain นับตั้งแต่ปี 2008-2009 ก็เป็นเทคโนโลยีที่ได้ปฏิวัติวงการการเงินใหม่และสร้างความเปลี่ยนแปลงวงการดิจิทัลอย่างกว้างขวาง
เมื่อนำ AI และ Blockchain มาผสานรวมกัน อาจเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง Web3 ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์และระบบกระจายศูนย์ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการ ปรับปรุงความปลอดภัย ลดการพึ่งพาตัวกลาง และสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากขึ้น แนวคิด "Unified Theory" ในบริบทของ AI และ Blockchain จึงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นำไปสู่โลกที่เชื่อมโยงอัจฉริยะและกระจายอำนาจได้อย่างสมบูรณ์
ความคล้ายคลึงระหว่าง AI และ Blockchain
ด้านการคำนวณ Verifiable Computing: ทั้ง AI และ Blockchain ใช้การคำนวณที่สามารถตรวจสอบได้ (Verifiable Computing) ได้แก่
AI (Transformer) สามารถทำนาย "Token" ถัดไป (เช่น คำในประโยค)
Blockchain (Proof of Work) สามารถทำนาย "Block" ถัดไป โดยใช้ฟังก์ชันแฮช (Hash Function)
ด้านการใช้พลังงาน: ทั้ง AI และ Blockchain ต่างใช้พลังงานมหาศาล
AI: ใช้พลังงานประมาณ 2-5 วัตต์ต่อ Token
Blockchain (BTC/ETH): ใช้พลังงานมากเช่นกัน แต่หากปรับหน่วยให้เทียบเท่ากันก็จะใกล้เคียงกับ AI
เจาะมุมมองแนวคิด Unified Theory กับการคำนวณ Verifiable Computing
Verifiable Computing สามารถเป็นทฤษฎีรวมสำหรับ AI และ Blockchain โดยใน AI การทำนาย Token ถัดไปใน LLMs สามารถนำไปใช้เป็น Proof of Useful Work หรือหลักในการยืนยันธุรกรรมใน Blockchain แทนการ Hash แบบไร้จุดหมายได้ ซึ่งบริษัทหลายแห่งเริ่มพัฒนาทิศทางนี้แล้ว ส่วน Blockchain สามารถสร้างประโยชน์ให้ AI โดยสามารถสร้างฮาร์ดแวร์เฉพาะทางสำหรับการทำนาย Token ใน AI เช่นเดียวกับที่ ASIC ใช้สำหรับการขุด Crypto รวมถึงสามารถนำไปช่วยสร้างโมเดลธุรกิจใหม่สำหรับผู้ผลิตชิปและผู้ให้บริการ AI
ปัญหาในโลกดิจิทัลปัจจุบัน
- ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีค่าเสมือนทองคำ ซึ่งผู้ใช้ต้องการประสบการณ์ออนไลน์ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็กังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล โดยแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ในปัจจุบันมักรวบรวมและใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังขาดอำนาจในการควบคุมข้อมูลของตนเอง และเสี่ยงต่อการถูกละเมิดข้อมูลจากการโจมตีทางไซเบอร์หรือการจัดการที่ไม่โปร่งใส
- ทุกวันนี้ เราคาดหวังประสบการณ์ดิจิทัลที่ตอบโจทย์ส่วนตัว ตั้งแต่คำแนะนำสินค้าไปจนถึงเครื่องมือทางการเงินอัจฉริยะ แต่ในขณะเดียวกัน ความสะดวกสบายเหล่านี้มาพร้อมกับความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว แพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์เป็นผู้ควบคุมข้อมูลของเรา ทำกำไรจากมัน และทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลและการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต
AI ผสาน Web3 จะเป็นทางออกได้จริงหรือ?
AI และ Web3 กำลังกลายเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาสำคัญของโลกดิจิทัล ผ่านแนวคิด "AI แบบกระจายศูนย์" (Decentralized AI) ซึ่งเป็นการผสานระหว่าง ความสามารถในการวิเคราะห์และตัดสินใจอย่างชาญฉลาดของ AI กับ โครงสร้างกระจายศูนย์ของ Web3 ช่วยลดการพึ่งพาตัวกลางและมอบอำนาจการควบคุมข้อมูลให้กับผู้ใช้ แนวคิดนี้กำลังพลิกโฉมโลกดิจิทัล ตัวอย่างเช่น AI ผู้ช่วยอัจฉริยะด้านการเงิน ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและจัดการพอร์ตการลงทุนได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ Web3 และเทคโนโลยี Blockchain ทำหน้าที่รับประกันความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลโดยไม่ต้องพึ่งพาสถาบันกลาง
ดังนั้น การผสานรวม AI และ Web3 เข้าด้วยกันนับเป็นทางออกที่ทรงพลัง หรือพูดง่ายๆ ว่า AI ช่วยเพิ่มความฉลาดให้กับ Web3 โดยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งนำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว คาดการณ์แนวโน้ม และตัดสินใจแบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน Web3 ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความโปร่งใส และการกระจายศูนย์ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้อย่างแท้จริง
AI ผสานกับ Web3 เปิดช่องทางสร้างการรับรู้แบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในโลก Web3 การใช้ AI ร่วมกับ Web3 เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลัง โดย AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้บน Blockchain เช่น ประวัติการทำธุรกรรม พฤติกรรมการใช้งาน และความสนใจ เพื่อให้ระบุกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ และปรับแต่งเนื้อหาทางการตลาดให้ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึง Web3 ยังเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถสร้างแคมเปญการตลาดแบบ Interactive เช่น การใช้ NFT ในการสร้างประสบการณ์พิเศษ หรือการให้รางวัลแก่ลูกค้าผ่านโทเคน ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้
AI ผสานกับ Web3 ช่วยเร่งการพัฒนาโปรเจกต์ Web3
AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาด แต่ยังช่วยเร่งกระบวนการพัฒนาโปรเจกต์ Web3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทีมขนาดเล็ก ที่ AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล ออกแบบ และพัฒนา Smart Contract ไปจนถึงการทดสอบระบบ และปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ ซึ่งช่วยลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนา และทำให้ทีมสามารถโฟกัสกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยไม่ต้องคำนึงถึงขนาดทีม
มูลค่าตลาด AI Tokens ใน Web3 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
การเติบโตของตลาด AI tokens ใน Web3 สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ มูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 22 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2023 เป็น 55 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2024 ตามข้อมูลของ CoinMarketCap แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนและการนำ AI ไปใช้ใน Web3 ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอนาคตที่น่าจับตามอง
การระดมทุนของสตาร์ทอัพ AI กระจายศูนย์เพิ่มขึ้น
สตาร์ทอัพ AI กระจายศูนย์ กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากและเติบโตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ในปี 2024 เพียงปีเดียว สตาร์ทอัพเหล่านี้ระดมทุนได้ 436 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าในปี 2023 เกือบ 200% และมากกว่ายอดรวมของสามปีที่ผ่านมา ตามรายงานของข้อมูล PitchBook ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ AI ในการปฏิวัติโลก Web3 และยังทำให้เกิดการสร้างโซลูชันที่เป็นนวัตกรรม เช่น แพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบกระจายศูนย์ ตลาดข้อมูลแบบกระจายศูนย์ และระบบการเงินแบบไร้ตัวกลางที่ขับเคลื่อนด้วย AI
กรณีการใช้งาน AI กระจายศูนย์บน Web3
AI กระจายศูนย์ กำลังถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายด้าน ตั้งแต่ระดับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เช่น การจัดการเครือข่าย การรักษาความปลอดภัย และการประมวลผลข้อมูล
โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Level) เช่น:
Smart Contracts อัจฉริยะ - ใช้ AI ช่วยเสริมให้ Smart Contracts สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและดำเนินการอัตโนมัติได้อย่างแม่นยำ ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกรรม
ความปลอดภัยของ Web3 - ใช้ AI วิเคราะห์ภัยคุกคามทางไซเบอร์และตรวจจับช่องโหว่ได้อย่างทันท่วงที มีระบบอย่าง Zero-Knowledge Machine Learning (ZKML) ที่ช่วยให้สามารถใช้ข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลนั้น
ไปจนถึงระดับแอปพลิเคชัน เช่น การสร้าง Decentralized Autonomous Organizations (DAOs) ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
ระดับแอปพลิเคชัน (Application Level) เช่น:
การเงินกระจายศูนย์ (DeFi) - มี AI ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านเครดิต ทำให้การปล่อยสินเชื่อมีความเท่าเทียมมากขึ้น ขณะมีระบบตรวจจับการฉ้อโกงช่วยป้องกันความเสียหายในระบบการเงินดิจิทัล
องค์กรอิสระแบบกระจายศูนย์ (DAO) - AI ช่วยรวบรวมความคิดเห็นของสมาชิก DAO และปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
NFT และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ - สามารถใช้ AI สร้างเนื้อหาดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใคร พร้อมทั้งประเมินราคาตลาดของ NFT ได้แม่นยำขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา GameFi และ Metaverse ที่สมจริง อย่างการใช้ AI สร้าง NPC ที่ตอบโต้กับผู้เล่นได้อย่างสมจริง และช่วยให้โลกเสมือนจริงสามารถปรับแต่งได้ตามพฤติกรรมของผู้ใช้
บริษัทที่โดดเด่นใน AI ผสาน Web3
มีบริษัทมากมายที่กำลังบุกเบิกการพัฒนา AI ผสาน Web3 เช่น Ocean Protocol ที่สร้างตลาดข้อมูลแบบกระจายศูนย์ หรือ SingularityNET ที่พัฒนาแพลตฟอร์ม AI แบบกระจายศูนย์ และ Fetch.ai (มูลค่าประมาณ 216 ล้านดอลลาร์ ) ที่สร้างระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์สำหรับ AI agents และอีกมากมาย เช่น:
- CertiK (มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์): ให้บริการตรวจสอบความปลอดภัยของ Blockchain โดยใช้ AI
- The Graph (มูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์): พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับดัชนีและการค้นหาข้อมูลบน Blockchain
- Render Network (มูลค่า 1.7 พันล้านดอลลอร์): ใช้ AI เรนเดอร์กราฟิกแบบกระจายศูนย์
- Filecoin (มูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์): ใช้ AI ปรับปรุงการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์
- Worldcoin (มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์): ใช้ AI สำหรับยืนยันตัวตนแบบปลอดภัย
ความท้าทายและแนวทางแก้ไขเพื่อการผสานรวมที่ทรงพลัง
แม้ว่าการผสาน AI และ Web3 จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องปรับปรุง เช่น:
- ปัญหาด้านการปรับขยาย (Scalability) - เนื่องจากการประมวลผล AI ต้องใช้ทรัพยากรมาก ขณะที่ Blockchain ก็มีข้อจำกัดด้านความเร็วหรือปัญหาคอขวดที่ต้องติดตามเพื่อปรับปรุง แต่ก็โซลูชันอย่าง Layer-2 เช่น Optimistic Rollups และ ZK-Rollups ที่กำลังเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
- การเชื่อมต่อระหว่าง Blockchain (Interoperability) - Web3 ยังคงมีปัญหาการทำงานข้ามเครือข่าย แต่ก็นวัตกรรม เช่น Polkadot, Cosmos และ IBC Protocol ที่ช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายต่างๆ ให้ทำงานร่วมกันได้ราบรื่นขึ้น
- การฝึก AI แบบกระจายศูนย์ - เนื่องจาก AI มักต้องพึ่งพาศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งขัดกับหลักการกระจายศูนย์ของ Web3 ดังนั้นมีทางออกหนึ่งที่น่าสนใจ คือ “Distributed AI Processing” และการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการฝึกโมเดล
คาดปี 2025 เกิดเทรนด์ AI เข้ามาช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการหลอกลวงบน Web3
ในปี 2025 เราคาดว่าจะเห็น AI มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและประเมินความน่าเชื่อถือของโปรเจกต์ Web3 เนื่องด้วย AI สามารถวิเคราะห์ Smart Contract ตรวจจับความผิดปกติ และระบุสัญญาณของการหลอกลวงได้ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และลดความเสี่ยงในการถูกหลอกลวงในระบบนิเวศ Web3
Web3 adoption เกิดขึ้นช้า แต่ AI มาแรง
แม้ว่าการยอมรับ Web3 จะยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ AI กำลังได้รับแรงผลักดันอย่างมากทั่วโลก และมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในการเข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนา Web3 ในอนาคต ซึ่ง AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหา และเพิ่มขีดความสามารถของ Web3 ในหลายๆ ด้าน รวมถึงอาจช่วยเร่งการยอมรับ Web3 ในวงกว้างได้อีกด้วย
สรุป
การผสานรวม AI กับ Web3 เป็นอีกการปฏิวัติครั้งสำคัญของโลกดิจิทัล โดย AI มีบทบาทช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ Web3 ในการสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรม ในขณะที่ธรรมชาติของ Web3 จะช่วยให้ AI มีความปลอดภัย โปร่งใส และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการผสมผสานระหว่าง AI กับ Web3 มีศักยภาพนำไปสู่การสร้างโลกดิจิทัลที่น่าตื่นเต้น เท่าเทียม และยั่งยืนยิ่งขึ้นได้หากถูกพัฒนาได้อย่างถูกต้อง
-------------------------------
Sources:
https://www.forbes.com/councils/forbesbusinesscouncil/2025/01/15/five-web3-trends-to-watch-in-2025-ai-dephttps://www.techtarget.com/searchcio/tip/Top-Web-30-trends-and-predictionsins-rwas-and-beyond/
https://www.techtarget.com/searchcio/tip/Top-Web-30-trends-and-predictions
https://angelhack.com/blog/ai-web3/
https://www.binance.com/en/square/post/18701555266569
https://medium.com/thecapital/top-5-key-trends-in-web3-for-2025-ae1ee0d1bb10