The Sandbox กับการรวมตัวกันของศิลปิน ครีเอเตอร์ และแบรนด์ดัง
ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมาโทเคน “SAND” ของ The Sandbox เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 393% เนื่องมาจากความสำเร็จในการระดมทุน 93 ล้านดอลลาร์ และมีพันธมิตรใหม่ๆ ในระบบนิเวศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าตอบแทนที่น่าดึงดูดใจสำหรับชาวครีเอเตอร์

การเล่นเกมบน Blockchain เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2021
ในปี 2021 เราได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบนิเวศเกม Blockchain เนื่องจากเทรนด์ของ Non Fungible Tokens (NFT) และรูปแบบการเล่นเกมแบบ “Play to Earn” ที่ช่วยสร้างโอกาสในการหารายได้ใหม่ๆ ให้กับผู้คนทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็ได้นำผู้ใช้กลุ่มใหม่เข้าสู่โลก Cryptocurrency โดยมีโครงการที่น่าจับตามองเกี่ยวกับการเล่นเกมและการสร้าง Metaverse อย่าง ‘The Sandbox’ ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงบน Blockchain ที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์และซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบของเกมได้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา SAND พุ่งทะยาน
ปัจจัยแรกเนื่องมาจากเครือข่ายของพันธมิตรที่มีชื่อเสียงที่ซื้อที่ดินดิจิทัล หรือที่เรียกว่า “LAND” บน The Sandbox มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ‘Quan’ บริษัทสร้างสติกเกอร์ยอดนิยมของญี่ปุ่น ที่ได้มีการขายที่ดิน (LAND) ไปมากกว่า 300 ที่ดินด้วย โดยการเพิ่มบริษัทชื่อดังเข้ามาในระบบนิเวศสามารถช่วยกระจายการเข้าถึงของชุมชนและดึงดูดผู้ใช้หน้าใหม่เข้าสู่โลกของเกม Blockchain มากขึ้นอีกด้วย
ปัจจัยต่อมาเป็นสิ่งจูงใจสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ เพราะมีผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจที่มอบให้กับนักพัฒนาและศิลปินที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ภายในระบบนิเวศ โดย The Sandbox มีการมอบรายได้ให้กับครีเอเตอร์ 95% จากไอเทมต่างๆ ที่พวกเขาขายได้บนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ 50% ของรายได้จากโทเคน SAND ทั้งหมดจะถูกนำไปลงทุนใน The Sandbox Foundation แสดงให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายในการช่วยเหล่านักสร้างเรื่องของการพัฒนาแบรนด์ของตนเอง และเงินทุนในคลังของ Foundation ที่รวมกันมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ก็ใช้เพื่อมอบเป็นทุนให้กับศิลปิน ผู้เล่นและนักสร้างสรรค์ในแพลตฟอร์มอีกด้วย
และปัจจัยสุดท้าย คือความสำเร็จของการระดมทุน 93 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุน Series B เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2021 ที่นำโดยกองทุน Vision Fund 2 ของ SoftBank โดยมีข้อมูลจากทีมงานเบื้องหลังของ The Sandbox ที่เผยว่าเงินทุนดังกล่าวจะนำไปใช้เพื่อช่วยพัฒนากลยุทธ์การเติบโตของระบบนิเวศ การดำเนินงานต่างๆ และในเรื่องการเข้าถึงของผู้ใช้งาน ซึ่งนับว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนได้อย่างหนึ่งว่าแม้กระทั่งกองทุนที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกยังเชื่อใน “Web3” และ Decentralization ว่าจะสามารถเป็นเทรนด์ใหญ่ต่อไปในอนาคตได้
บทความนี้ไม่ได้เป็นการชี้ชวนหรือแนะนำในการลงทุนใดๆ