NFT Lending: ช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องและนำผู้คนเข้าสู่ตลาด NFT

การสร้างรายได้จาก NFT จำเป็นต้องขายงานที่เราสะสมเท่านั้นหรือ? สำหรับพื้นที่ NFT มี NFT Lending หรือการกู้ยืม NFT ที่ให้ผู้คนสามารถปล่อยกู้ NFT เพื่อค้ำประกันสำหรับกู้ยืม Crypto ซึ่งเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องต่ำในตลาดและเพิ่มทางเลือกให้เจ้าของ NFT สามารถสร้างรายได้โดยไม่ต้องเสีย NFT ของตนอย่างถาวร 

NFT Lending คืออะไร?

NFT Lending เป็นการกู้ยืมโดยใช้ NFT ค้ำประกัน ผ่านแพลตฟอร์ม NFT Lending ที่มีนักลงทุนหรือผู้ให้กู้ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน เป็นแนวคิดที่ช่วยเพิ่มทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือ NFT นอกเหนือจากการขาย เนื่องจากเมื่อผู้ถือ NFT ต้องขายชิ้นงานก็ต้องขายออกทั้งหมดถาวร ซึ่งบางคนไม่ต้องการจะขายออกไปถาวร 

นอกจากนี้ ตลาด NFT ยังมีตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ หากต้องการขายก็ต้องใช้เวลานานมากกว่าจะมีคนซื้อ และด้วยเหตุนี้การให้ยืม NFT หรือ NFT Lending จึงกลายเป็นอีกภาคส่วนล่าสุดที่เกิดขึ้นมาช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องต่ำใน NFT และในขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นให้ผู้คนลงทุนในตลาด NFT มากขึ้นโดยการลดต้นทุนในการเข้ามาลงทุน

NFT Lending ทำงานอย่างไร?

แพลตฟอร์ม NFT Lending ช่วยให้นักลงทุน NFT สามารถยืมเงินสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสามารถกำหนดเงื่อนไขและอัตราในการให้ยืมได้โดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม โดยทั่วไปในฐานะผู้กู้จะสามารถค้ำประกันเงินกู้ได้สูงสุด 50% ของมูลค่า NFT ด้วยอัตราระหว่าง 20-80% จากมูลค่าของสินทรัพย์ ซึ่งโปรโตคอลสำหรับการให้กู้ยืม NFT มีความตรงไปตรงมา โปร่งใส และรวดเร็วกว่าแพลตฟอร์มการให้ยืมในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีตัวกลางในการประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิต และไม่ต้องมีการยืนยันตัวตนที่ใช้เวลานาน

และด้วยลักษณะของการเป็น DeFi App ที่ใช้ประโยชน์จาก Smart Contract ทำให้ผู้ใช้มีสิทธิ์ควบคุมสินทรัพย์ได้อย่างอิสระ และโดยทั่วไปหลักประกันจะถูกล็อกไว้ใน Smart Contract ซึ่งเป็นการทำงานอัตโนมัติ ผู้ให้กู้สามารถเลือกตั้งค่ามูลค่าของหลักประกันโดยการประเมินธุรกรรมที่ผ่านมาของ NFT และราคาพื้นฐานของคอลเลกชันที่คล้ายกัน หลังจากที่ผู้ให้กู้และผู้ยืมยอมรับเงื่อนไข ผู้ยืมจะโอน NFT จากกระเป๋าเงินของพวกเขาไปยังระบบเอสโครว์ (Escrow) หรือระบบการค้ำประกันการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และจากนั้นโปรโตคอลจะจัดการกับขั้นตอนที่เหลือ แต่หากผู้กู้ไม่ชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยภายในระยะเวลาที่กำหนดก็จะส่งผลให้ NFT ถูกริบได้

ประเภทของ NFT Lending 

• Peer-to-Peer NFT Lending: 

NFT Lending รูปแบบ Peer-to-peer มีความคล้ายคลึงกันกับการกู้ Crypto ทั่วไป ซึ่งธุรกรรมจะเกิดขึ้นโดยตรงระหว่างสองฝ่าย อย่างเช่น ผู้กู้ยืมนำ NFT ไปฝากค้ำประกันบนแพลตฟอร์ม NFT Lending พร้อมรับข้อเสนอเงินกู้ ซึ่งผู้กู้จะได้รับเหรียญที่กำหนดทันที และ NFT ก็จะถูกโอนไปที่ Vault ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด และเมื่อชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยตามที่กำหนดก็จะได้รับ NFT กลับคืน ส่วนผู้ให้กู้ก็จะได้รับดอกเบี้ยตอบแทน

• Peer-to-Protocol NFT Lending: 

การให้ยืม NFT แบบ Peer-to-Protocol คล้ายกับโปรโตคอลการให้ยืม DeFi ที่การยืมสินทรัพย์จะยืมได้โดยตรงจากผู้ให้กู้ ซึ่ง แพลตฟอร์ม Peer-to-Protocol ต้องการผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers: LPs) ฝากโทเคนลงใน Pools และผู้กู้สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้โดยโอน NFT ของตนไปยัง Valuts หรือห้องนิรภัยที่มีอยู่

• Non-Fungible Debt Positions: 

ยกตัวอย่าง MakerDAO ที่ได้สร้างระบบการกู้ยืมแบบสถานะหนี้ที่มีหลักประกัน (Collateralized Debt Position: CDP) เพื่อเสนอกู้ยืม Crypto โดยให้ผู้กู้วาง ETH ค้ำประกันเพื่อรับ DAI สำหรับกู้ยืม ส่วนในการกู้ยืมแบบ “Non-Fungible Debt Positions” ผู้กู้จะล็อกสินทรัพย์ NFT ของตนเพื่อให้ได้ Stablecoin เช่นเดียวกันกับระบบของ MarkerDAO ที่ยกตัวอย่างในข้างต้น

• การปล่อยเช่า NFTs:

และประเภทสุดท้ายคือ NFT Rentals หรือการปล่อยเช่า NFT โดยมี “reNFT” เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม เป็นตลาดแบบ Permissionless สำหรับผู้ให้เช่าและผู้เช่าที่มีศักยภาพโดยมีข้อกำหนดและเงื่อนไขการเช่าที่แตกต่างกันไป

 โปรโตคอลสำหรับการเช่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเช่า NFT รูปแบบ Peer-to-Peer แทนที่การล็อก NFT เป็นหลักประกันไว้ในห้องนิรภัยดิจิทัลหรือ Vault โดยสินทรัพย์จะโอนจากกระเป๋าเงินหนึ่งไปยังอีกกระเป๋าหนึ่งในช่วงระยะเวลาของการเช่า และในฐานะผู้เช่า NFT ก็จะได้รับสิทธิพิเศษแบบ Token-Gated ในการเข้าถึงต่างๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์ Discord หรือรางวัลพิเศษสำหรับผู้ถือ NFT 

ถึงแม้ว่าโปรโตคอลจะให้เจ้าของ NFT สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้แต่อาจไม่ใช่แรงจูงใจสำคัญ ซึ่งอันที่จริงพวกเขายอมจ่ายเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการเข้าถึงและเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ อย่างเช่นในกรณีหนึ่งของการเช่า CryptoPunk ซึ่งผู้เช่ามองเห็นว่าพวกเขาจะได้รับความสนใจมากและเกิดการมีส่วนร่วมที่พุ่งสูงขึ้น และได้สร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขาในพื้นที่ ณ ช่วงเวลานั้น