milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
30 สิงหาคม 2565
ภาษาไทย

Metaverse กับความสามารถในการทำงานร่วมกันข้ามแพลตฟอร์ม (Cross-Platform)

ช่วงที่ผ่านมากระแสของ Metaverse ที่ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องได้สร้างโอกาสและประสบการณ์ใหม่ๆ มากมายทั้งด้านนวัตกรรมไปจนถึงด้านอาชีพ แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญหลายท่านมักพูดถึงและได้คาดการณ์ไว้ นั่นคือเรื่องความเป็นไปได้ที่ Metaverse แต่ละแพลตฟอร์มจะสามารถเชื่อมต่อหรือทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้นในอนาคต หรือพูดง่ายๆ คือการทำงานข้ามแพลตฟอร์ม ซึ่งจะนำมาสู่โอกาสดีๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย และที่น่าสนใจคืออุตสาหกรรมเกมที่เรียกได้ว่ามีความเชื่อมโยงกับ Metaverse มากที่สุดก็เริ่มเห็นความสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันการเล่นเกมข้ามแพลตฟอร์มในขณะนี้แม้จะยังมีความท้าทายอยู่ก็ตาม และ SCB 10X ก็ได้เห็นถึงสัญญาณที่น่าสนใจในประเด็นนี้จึงมานำเสนออีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับการทำงานข้ามแพลตฟอร์มของ Metaverse ในบทความนี้ 


Article2_Crossplatform_800.jpg

การเติบโตของ Metaverse สู่โอกาสทางธุรกิจและกระบวนการทำงานข้ามแพลตฟอร์ม


อย่างที่ทราบกันว่าปัจจุบัน Metaverse ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งจากข้อมูลของ Deloitte คาดว่าจะครอบคลุมช่วงปี พ.ศ. 2564-2573 และระยะที่เติบโตเต็มที่คาดว่าเริ่มตั้งแต่ปี 2031 เป็นต้นไป โดยที่ในระหว่างนั้น Metaverse จากอุตสาหกรรมที่หลากหลายจะค่อยๆ มีการแบ่งปันข้อมูลและพัฒนามาตรฐานที่เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นและมีการรวมตัวกันได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าในช่วงของขั้นตอนนี้จะมีการเชื่อมโยงกันทางระบบนิเวศแบบข้ามอุตสาหกรรม (Cross-Industry) และข้ามแพลตฟอร์ม (Cross-Platform) และเรื่องมาตรฐานข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ระบบการชำระเงิน และการรับรองความถูกต้องของข้อมูลประจำตัวหรือการยืนยันตัวตนจะมีความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาและการบูรณาการเกี่ยวกับการใช้งาน Metaverse ข้ามแพลตฟอร์ม


ส่วนในแง่มุมมองทางธุรกิจ เนื่องจาก Metaverse สามารถทำในสิ่งที่ไร้ข้อจำกัดที่มีอยู่ในโลกความจริง จึงได้ทำลายเส้นแบ่งระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ และแสดงถึงโอกาสต่างๆ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเกือบทุกอุตสาหกรรมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประเภทฮาร์ดไลน์ ไปจนถึงบริการด้านต่างๆ เช่น ด้านการดูแลสุขภาพและด้านการศึกษา เป็นต้น แต่คาดว่าอย่างน้อยที่สุด Metaverse จำเป็นจะต้องใช้ระบบการประมวลผลแบบ “Edge Computing” และต้องอาศัยการเชื่อมต่อที่เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนกับชิปประมวลผล เซิร์ฟเวอร์ และฮาร์ดแวร์สำหรับเครือข่ายที่เป็นรุ่นต่อไปในอนาคต



ความสามารถการทำงานร่วมกันได้ระหว่างแพลตฟอร์ม Metaverse มีลักษณะอย่างไร?


เพื่อให้เข้าใจความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) ของ Metaverse เราสามารถยกตัวอย่างการใช้งานได้จากเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งในโลก Blockchain มีทั้งรูปแบบที่สามารถทำงานร่วมกันและไม่สามารถทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาให้เกิด Use Case ที่เป็นนวัตกรรมและเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกัน


ความสามารถในการทำงานร่วมกันช่วยให้ระบบนิเวศของ Blockchain สามารถโต้ตอบ แชร์ข้อมูล และใช้คุณสมบัติและบริการต่างๆ ร่วมกันได้ ในทำนองเดียวกันกับโปรเจกต์ Metaverse ที่คุณสมบัติของการทำงานร่วมกันสามารถทำการโต้ตอบหรือสื่อสารกับโปรเจกต์ Metaverse อื่นๆ ที่แตกต่างกัน รวมถึงสามารถใช้ประโยชน์ของบริการและคุณสมบัติของแต่ละโปรเจกต์ ไปจนถึงสามารถเชื่อมต่อกันระหว่างแต่ละสังคม การเทรด และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายแบบ Cross-Chain หรือข้ามโปรเจกต์ 


ดังนั้น ความสามารถในการทำงานร่วมกันในโลก Metaverse จึงมีความคล้ายกันกับใน Blockchain อย่างเช่น ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจัดการกับกระเป๋าเงินหลายกระเป๋า แต่สามารถใช้เพียงหนึ่งกระเป๋าเงินสำหรับเก็บเงินและทำธุรกรรมข้ามโปรเจกต์ Metaverse 


อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ Metaverse สามารถทำงานร่วมกันได้ ผู้ที่สร้างก็ต้องเลือกสร้างบนระบบนิเวศ Interoperable Blockchain หรือหมายถึงระบบนิเวศ Blockchain ประเภทที่รองรับการทำงานร่วมกันได้


นอกจากนี้ ความสามารถในการทำงานร่วมกันของ Metaverse ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ได้แก่

  • ส่วน ‘อินเทอร์เน็ต’ ที่เป็นพื้นฐานเริ่มต้นเพื่อรองรับการเชื่อมต่อของ Metaverse
  • ส่วน ‘โครงสร้างพื้นฐาน’ ที่สนับสนุนองค์ประกอบต่างๆ ของฮาร์ดแวร์เพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้งาน รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้สร้างส่วนโครงสร้างพื้นฐานนี้ เช่น Blockchain สำหรับการสร้างระบบนิเวศที่ใช้ร่วมกัน และ Big Data หรือ IoT เป็นต้น 
  • ส่วน ‘คอนเทนต์’ ประกอบด้วยแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์สมจริงสำหรับโปรเจกต์ Metaverse ต่างๆ 
  • ส่วน ‘True Metaverse’ จะเกิดขึ้นเมื่อส่วนอื่นๆ ดังกล่าวได้พัฒนาและสร้างโลกเสมือนไปพร้อมๆ กัน


เหตุใดการทำงานร่วมกันระหว่าง Metaverse ที่หลากหลายจึงมีความสำคัญ


ความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่าง Metaverse เป็นสิ่งสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างโปรเจกต์ Metaverse ต่างๆ โดยผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์แบบครบวงจรในการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมและวัฒนธรรมที่หลากหลายใน Metaverse เฉกเช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นบนโลกความจริง


ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่มี Metaverse ที่สามารถสร้างระบบให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ความสามารถในการทำงานร่วมกันจะช่วยผลักดันให้ Metaverse พัฒนาไปได้เช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับอินเทอร์เน็ตที่ใช้กันในปัจจุบันนี้ และหากเราดูที่โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตจะเห็นได้ว่ามีการสร้างองค์ประกอบที่คอยช่วยเครือข่ายหลักและเครือข่ายย่อยต่างๆ สามารถสื่อสารไปมาระหว่างกันได้อย่างราบรื่น


นอกจากนี้ แม้แต่ผู้นำอย่าง Zuckerberg ที่กำลังพยายามสร้างแพลตฟอร์ม Metaverse และได้ใช้เงินลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างและเพื่อพยายามดึงดูดนักสร้างและนักพัฒนา เขาก็ยังเคยได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความสามารถในการทำงานร่วมกันและการสร้างมาตรฐานแบบเปิดของ Metaverse ว่ามีความจำเป็นต้องสร้างไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางที่สามารถช่วยลดอุปสรรคสำหรับการทำงานร่วมกันระหว่าง Metaverse หลากหลายแพลตฟอร์ม


ทั้งนี้ ในอนาคตจะเกิดความสมบูรณ์และมีการนำมาใช้ระบบความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่าง Metaverse อย่างที่ผู้นำและกูรูหลายท่านได้คาดการณ์กันไว้หรือไม่? ก็คงต้องติดตามกันต่อไป

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept