milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
business
25 ธันวาคม 2563
ภาษาไทย

ทิศทางการเติบโตของตลาด E-Commerce ไทย

ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคนี้ โดยเฉพาะการจับจ่ายใช้สอยนั้นทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ เริ่มต้นตั้งแต่หาข้อมูล เปรียบเทียบราคา หาแพลตฟอร์มเพื่อสั่งซื้อ ไปจนกระทั่งขั้นตอนรับสินค้าที่มีความรวดเร็วทันใจจนแทบไม่ต้องออกไปร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงนี้นั้นยิ่งผลักดันให้ธุรกิจ E-Commerce เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาก็ยิ่งกระตุ้นให้การใช้จ่ายทางออนไลน์อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ธุรกิจ E-Commerce ยิ่งโตขึ้น โดยในปี 2563 สำหรับภูมิภาคเซาท์อีสต์เอเชีย (SEA) ก็พบว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นและคาดการณ์มูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 1,700,000 ล้านบาท รวมถึงข้อมูลจาก Google-Temasek คาดว่า E-Commerce ใน SEA จะทะลุถึง 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 เลยทีเดียว ส่วนมูลค่าตลาด E-Commerce ของไทยในปี 2563 นั้นคาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 220,000 ล้านบาท หรือเพิ่มจากปี 2562 ถึง 35% 


Future of E Commerce 1200.800-2.png

ภาพรวมและเทรนด์ใหม่ๆของ E-Commerce ไทยในปี 2020


จากการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของ ICT ที่ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งปัจจุบันที่การใช้สมาร์ตโฟนกลายเป็นสิ่งที่หลายๆ คนนั้นขาดไม่ได้ไปแล้ว อีกทั้งการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายที่มีมากขึ้นและใช้ต้นทุนในการเชื่อมต่อลดลง ก็ยิ่งทำให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศทำได้สะดวกขึ้น

จากหลายๆ ปัจจัยข้างต้นและด้วยพฤติกรรมคนไทยที่พบว่ามีการใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตหรือออนไลน์มากที่สุดในโลก โดยกิจกรรมออนไลน์ส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปกับการช้อปปิ้งออนไลน์อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจ E-Commerce ไทยนั้นจะเติบโตขึ้นและยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหล่าผู้ประกอบการ SME ทั้งหน้าใหม่และเก่าต้องตื่นตัวและปรับตัวไปตามเทรนด์ให้ทัน โดยในปี 2020 จะใช้วิธีการเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากขึ้นด้วย 3 ช่องทางหลักๆ ได้แก่  E-Marketplace, Social Commerce และ e-Retail หรือ e-Brand และยังมีข้อสังเกตเทรนด์ E-Commerce ไทยอื่นๆที่น่าสนใจ ดังนี้


  • แบรนด์ต่างๆ ที่เคยเป็น Offline ได้เปลี่ยนมาทำ Online เกือบทั้งหมด ทุกวันนี้แทบไม่มีธุรกิจใดใช้ช่องทางการขายเพียงช่องทางเดียวแล้ว เพราะต่างทราบดีว่าการทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์นั้นไร้ขีดจำกัด ไม่ต้องมีพ่อค้าคนกลาง สามารถสร้างกำไรได้มากขึ้น และยังสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้เพื่อทำการตลอดในอนาคตต่อไปได้อีกด้วย การมี Channels ในการขายที่มากขึ้นและ Omni Channels ที่จะช่วยให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าและให้ประสบการณ์ที่ราบรื่น 

  • มีการใช้ AI ในการพัฒนาสินค้าและบริการ ในปี 2020 AI ได้เข้ามามีบทบาทในส่วนของอุตสาหกรรมบริการมากขึ้น แม้ทั่วโลกจะมีการใช้ AI ในส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตเชิงพาณิชย์ขั้นพื้นฐานแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องต้นทุนและยังมีข้อบกพร่องของ AI ที่ยังทำให้ด้อยกว่าการใช้แรงงานอยู่ หากสามารถพัฒนา AI ให้มีประสิทธิภาพและเก่งกาจขึ้นได้ ในอนาคตก็อาจจะทำให้แรงได้รับผลกระทบหรือยิ่งมีการลดจำนวนของแรงงานลงได้

  • ธุรกิจ E-Commerce ไทยมีการแข่งขันสูงกันขึ้นอย่างชัดเจน เพราะไม่ใช่จะมีแต่ผู้ประกอบการภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน โดยพบว่าสินค้าบนอินเทอร์ส่วนใหญ่นั้นก็นำเข้ามาจากจีนกว่า 80% เลยทีเดียว รวมถึงมีนโยบายการค้าเสรีที่เข้ามาช่วยให้การขนส่งระหว่างประเทศทำได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย ทำให้ผลให้ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมตัวรับมือกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่จะเข้ามามีบทบาทใน E-commerce ไทยมากขึ้นในปีนี้และปีต่อๆไป

  • การเเข่งขันของธุรกิจ Logistic ก็มีการแข่งขันกันสูงขึ้น เนื่องจากมีการเติบโตของการขายปลีกออนไลน์มากขึ้นและผู้ซื้อก็ต้องการการขนส่งที่รวดเร็ว ซึ่งทั้งผู้ประกอบการของไทยและต่างประเทศก็ต่างลงทุนใน E-Logistic เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการก้าวหน้าของธุรกิจของจน โดยการลงทุนใน E-Logistic จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และยังสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวแบบ Real-time ผ่านทางสมาร์ตโฟนได้อีกด้วย

  • ปรับกลยุทธ์โดยเน้นวิธีการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง มีแนวโน้มที่หลายๆ องค์กรจะหันมาพึ่งพาตนเองมากขึ้น มีการทำให้ลูกค้าและผู้ขายสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มโดยตรง หรือที่เรียกว่า “Direct to Customers” ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางหรือสื่อออนไลน์ต่างๆ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

  • ธุรกิจ Fulfillment มีการเติบโตขึ้นจากธุรกิจ E-Commerce ที่ขยายตัวอย่างมาก หลายๆบริษัทหันมาใช้บริการ Fulfillment เพื่อความสะดวกสบายในการจัดเก็บ แพ็ค และจัดส่งสินค้า เพราะเดิมทีเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและเสียเวลา ยกตัวอย่างบริการของ MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการ Fulfillment เพื่อช่วย E-Commerce Enabler หลากหลายรูปแบบ โดยจะช่วยในเรื่องของการจัดเก็บ แพ็ค และจัดส่งสินค้า มีระบบจัดการออเดอร์ที่เชื่อมต่ออัตโนมัติ สามารถอัพเดทสต๊อกได้แบบ Real-time ช่วยให้เหล่าผู้ค้าออนไลน์และธุรกิจ Omni-channels หมดกังวลกับขั้นตอนดังกล่าวและสามารถโฟกัสกับการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของธุรกิจ E-Commerce ที่ขยายตัวขึ้นตามที่กล่าวไปข้างต้น รวมถึงมีผู้ค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังต้องเจอกับอุปสรรคในการแข่งขันกันทั้งในไทยและจากต่างประเทศ ซึ่งทาง SCB 10X ได้ทำการสำรวจและพบว่าผู้ค้าออนไลน์หลายราย มีความสามารถในการขายออนไลน์ สามารถทำคอนเทนต์และปิดการขายได้ดี แต่ก็ยังมีปัญหาในการหาสินค้ามาขาย อย่างเจอการส่งที่ล่าช้า การซื้อที่ไม่สะดวก ถูกโกง และตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าไม่ได้มีเพียงคู่แข่งในไทยแต่ก็มีคู่แข่งจากต่างประเทศด้วย นั่นคือร้านหรือผู้ค้าออนไลน์จากจีนที่มาเปิดร้านบน Marketplace เจ้าดังในบ้านเรามากขึ้นอีกด้วย 



จาก Pain Point ของผู้ค้าออนไลน์สู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขายส่ง “เหมา-เหมา” 


นอกจากการปรับตัวและพัฒนาโมเดลธุรกิจของตนแล้ว การมีตัวช่วยที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งไทยก็ควรจะมีแพลตฟอร์มที่รวมเอาผู้ผลิตและแบรนด์มารวมไว้ที่เดียวกันแบบประเทศเพื่อนบ้านบ้าง เพื่อให้ผู้ค้าออนไลน์สามารถค้นหาสินค้าและสั่งสินค้ามาขายได้แบบไม่ยุ่งยากและอยู่ในราคาขายส่ง อย่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขายส่ง “เหมา-เหมา” จาก SCB 10X แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขายส่ง ที่ทำการเชื่อมต่อผู้ค้าขายออนไลน์เข้ากับผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์ไว้ด้วยกัน พร้อมช่วยทั้งผู้ผลิต แบรนด์ และร้านค้าขายส่งต่างๆในการระบายสต๊อกสินค้า รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มผู้ค้าออนไลน์นับล้าน และยังสามารถใช้แพลตฟอร์มได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งทางเหมา-เหมา มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทย โดยเฉพาะรายย่อยให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนของธุรกิจในยุคใหม่นี้ได้ และช่วยในการปรับตัวให้ทันกับการแข่งขันที่สูงมากได้ทัน โดยคุณมาโนช พฤฒิสถาพร ผู้ก่อตั้ง “เหมา-เหมา” จาก SCB 10X เล่าถึงแพลตฟอร์มนี้ว่า “เหมา-เหมา” เกิดจากความตั้งใจที่ต้องการช่วยเหลือทั้งฝั่งผู้ผลิตไทยให้เข้าถึงและมีคนขายออนไลน์ที่ขายเก่งมากมาช่วยขายของเพื่อเพิ่มยอดขาย ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คนขายออนไลน์ให้สามารถเข้าถึงผู้ผลิตและแบรนด์ต่างๆในราคาขายส่งได้อย่างง่าย ๆ ในแพลตฟอร์มเดียว ผ่านเว็บไซต์ www.mhao-mhao.com” 



แนวโน้มอนาคตของ E-Commerce ไทย

สรุปโดยรวมแล้ว E-commerce เติบโตอย่างมากและรวดเร็วในปีนี้ ทั้งส่วนของการเติบโตของธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงของโมเดลธุรกิจที่จะต้องเน้นให้ลูกค้ามีความสะดวก ซึ่งทุกวันนี้การซื้อสินค้าออนไลน์ก็เป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมมากแล้วและในอนาคตก็มีโอกาสที่จะง่ายกว่านี้อีก ทั้งการเข้าแพลตฟอร์ม Social Media ที่มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้สามารถพบเห็นและหาข้อมูลสินค้าได้ง่าย ทั้งผ่านการรีวิวหรือการแนะนำจากคนใกล้ตัว ส่วนช่องทางการขายก็มีมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าอนาคตของ E-Commerce ในไทยนั้นน่าจะเติบโตและขยายตัวขึ้นมากอีกแน่นอน

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Accept