milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
22 พฤศจิกายน 2565
ภาษาไทย

‘Decentralized Identity’ กับอิสระและความเป็นเจ้าของในข้อมูลของผู้ใช้ที่มากขึ้น

อีกประเด็นที่น่าสนใจเมื่อเข้าสู่ยุค Web 3.0 คือเรื่องการยืนยันตัวตน (Identity) ที่ผู้ใช้คาดหวังถึงความมีอิสระและความเป็นเจ้าของในข้อมูลของตนเองมากขึ้น ซึ่งครั้งนี้ SCB 10X ได้นำส่วนหนึ่งกับการพูดคุยกันในเรื่องราวของ ‘Decentralized Identity’ โดย Wayne Chang (Co-Founder and CEO - Spruce Systems) และ Kasima Tharnpipitchai (Entrepreneur In Residence - SCB 10X) จากงาน “REDeFiNE TOMORROW 2022” 

arti3_1200X800.jpg


เป้าหมายและความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Spruce Systems


Spruce Systems
กำลังพัฒนา “Sign-in With Ethereum” หรือการลงชื่อเข้าใช้ด้วย Ethereum ที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้ใช้บัญชี Ethereum ของตนเพื่อเข้าถึงบริการบนเว็บแทนการใช้บัญชีของบริษัทขนาดใหญ่อื่นๆ 

เริ่มจากมีเป้าหมายที่ต้องการแทนที่วิธีลงชื่อเข้าใช้แบบเก่าที่ต้องผ่านแพลตฟอร์มตัวกลาง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้ยังถูกควบคุมโดยแพลตฟอร์มเหล่านี้ โดยผู้ใช้ควรได้รับความเป็นส่วนตัวและสามารถใช้ดุลยพินิจในการควบคุมข้อมูลของตนเองอย่างอิสระ นอกจากนี้ได้เห็นเห็นความน่าสนใจของระบบนิเวศ ‘Web 3.0’ และ Dapps ที่เกิดการนำมาใช้ในวงกว้างซึ่งเหมาะสมกับรูปแบบวิธีลงชื่อเข้าใช้ในแบบที่ Spruce Systems กำลังพยายามพัฒนาเช่นกัน

การเข้ามาเกี่ยวข้องกับงานด้าน Identity ของ Wayne Chang กับแนวคิดที่ต้องการช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้งาน


จากประสบการณ์ทำงานกับเกี่ยวกับ Consensus ซึ่งต้องมีการประเมินผลเกี่ยวกับเครือข่าย Decentralzed มากมาย พบว่าต้องมีการนำตัวกลางออกไปและทำให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงทำให้ผู้ที่เข้าร่วมเครือข่ายได้รับผลตอบแทนโดยไม่ต้องมีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ในทางกลับกันแนวคิดดังกล่าวก็อาจทำให้ผู้ใช้ไม่กล้าใช้บริการ เนื่องจากไม่ทราบประวัติของผู้ให้บริการ ดังนั้นจึงต้องมีการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่เราจะทำธุรกิจด้วยเพื่อความมั่นใจที่มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม ที่หากมีความน่าเชื่อถือน้อยค่าใช้จ่ายก็จะสูงและธุรกรรมทั้งหมดก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหากสามารถนำขั้นตอนตรวจสอบและรองรับความถูกต้องของข้อมูลเพิ่มเข้าไปก็จะช่วยความน่าเชื่อถือให้กับบริการต่างๆ ที่ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือ ส่วนในกรณีที่ต้องการนำธุรกิจต่างๆ มาสู่ Decentralized จะต้องมีการทำให้ข้อมูลมาสู่โลก Decentralized ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ความน่าเชื่อถือเพิ่มไปสู่อีกระดับเพื่อให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจมากขึ้น 

ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับระบบ Identity ในปัจจุบัน


เป้าหมายสำคัญของการใช้โมเดล Identity คือทำให้ผู้ใช้มีความอิสระในการตัดสินใจกับข้อมูลของตนมากขึ้น โดยก่อนหน้า Cryptocurrency จะคล้ายกับเป็นการมอบหมายข้อมูลของเราให้กับบริการต่างๆ เป็นผู้จัดการ แต่ในปัจจุบันมี Public Private Key หรือการเข้ารหัสที่ช่วยให้ผู้ใช้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจใช้ข้อมูลของตน อย่างเช่นการลงลายเซ็นใน Statements หรือมอบหมายให้ผู้อื่นเข้าถึงและเพิกถอนสิทธิ์ในข้อมูล ซึ่งเป็นจุดเด่นของแนวคิดที่ทำให้ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะการนำไปใช้ใน Crypto และ Web 3.0 ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีความพร้อมที่สุดสำหรับการเข้ารหัส Public Private Key เนื่องจากมีผู้กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการทดลองสิ่งใหม่ๆ และต้องการความเป็นเจ้าของในข้อมูลมากขึ้น

รวมถึงเห็นได้ว่าแนวคิด Self-Sovereign Identity หรือ Decentralized Identity และระบบนิเวศ Web 3.0 ค่อนข้างมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมากและสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี


เกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจของ Self-Sovereign Identity

Self-Sovereign Identity เป็นแนวคิดที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณสิบปีก่อน มีการประชุมและรวมตัวครั้งสำคัญเกิดขึ้นกันมากมายเพื่อร่วมกันค้นคว้าหามาตรฐานที่ดีสำหรับ Identity Ecosystem และมีประเด็นที่น่าสนใจของ Christopher Allen (Blockchain Commons) ที่กล่าวถึงเกี่ยวกับกฎหมายและหลักการของ Self-Sovereign Identity ไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่ง Wayne Chang แนะนำไปให้เรียนรู้เพิ่มเติม

เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เราก็ต้องมีการนำข้อมูลประจำตัวของเรามาสู่โลกดิจิทัล อย่างเช่นข้อมูลหนังสือเดินทาง ใบขับขี่ หรือประวัติทางการเงิน และ Statements ธนาคาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เริ่มเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเราจะทำอย่างไรให้ข้อมูลเหล่านี้ยังคงมีความเป็นส่วนตัวและความน่าเชื่อถือเอาไว้ได้ในแบบเดียวกันกับแบบเดิมหรือเอกสารและเครื่องมืออื่นๆ?

ถึงแม้ว่าการมีตัวกลางอย่างบริษัทยักษ์ใหญ่จะสามารถเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง แต่หากวันหนึ่งบริษัทเหล่านี้เกิดต้องมีกลไกรักษาสมดุลและอาจต้องเพิกถอนผู้ใช้ก็เท่ากับสิทธิ์การใช้บริการก็หยุดลงได้ในทุกเมื่อ ยกตัวอย่างเช่นการใช้อีเมลเพื่อเข้าถึงบริการต่างๆ จึงนำมาซึ่งการใช้งาน Decntralized Identifiers ที่ได้รับการยอมรับจาก W3C (World Wide Web Consortium) ให้เป็นมาตรฐานสากลในปัจจุบัน

โดยสรุปได้ว่า Self-Sovereign Identity คือแนวคิดที่เราได้เป็นเจ้าของข้อมูลตัวตนอย่างสมบูรณ์ในโลกดิจิทัล มีอิสระทำอะไรก็ได้กับข้อมูลของตนเองและผู้อื่นต้องขออนุญาตจากเจ้าของข้อมูลเสมอหากจะนำข้อมูลไปใช้


ความเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนตลาดที่ทำให้เกิดการนำมาใช้ในวงกว้างของ Decentralized Identity


Wayne Chang ให้ความเห็นส่วนหนึ่งว่า การนำมาใช้ในวงกว้างของ Decentralized Identity ขึ้นอยู่กับระบบนิเวศและเห็นการใช้งานเกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้ว่าทำให้กลุ่มของเทคโนโลยีต่างๆ ได้พบกับมาตรฐานใหม่และดีพอที่จะนำไปทดลองใช้งานจริง และพบการใช้งานเกิดขึ้นหลายกรณี แต่ที่ทาง Spruce ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือการใช้งานบน Web 3.0 ซึ่งมีกรณีการใช้งานจริงที่เกิดขึ้นมากมาย และคิดว่าการผสมผสานกันของข้อมูล Blockchain กับเอกสารรับรองที่ตรวจสอบได้ (Verifiable Credential) จะเป็นวิธีการที่ถูกต้องจากการวิเคราะห์ในหลายประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวคิด Web5 ที่ถูกพูดถึงในช่วงที่ผ่านมา


แนวคิด Web 5.0 ที่ได้ถูกประกาศออกมาและมุ่งเป้าไปที่การสร้าง Decentralized Web หรือเว็บกระจายอำนาจที่ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลและตัวตน (Identity) ได้สูงสุดไปอีกระดับ ในประเด็นนี้ Wayne Chang ได้ให้คำแนะนำให้ทดลองเข้าร่วมกลุ่มใน Decentralized Identity Foundation ซึ่งระบบนิเวศนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นและคิดว่าจะมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นให้ได้เห็นกันในอนาคตอันใกล้


อย่าพลาดข้อมูลสุด Exclusive !
รับชมย้อนหลังได้ทาง Youtube:
https://youtu.be/pARtPe9Qvbo

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept