milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
14 สิงหาคม 2567
ภาษาไทย

เจาะลึกวิสัยทัศน์ของ “Fireblocks” ถึงอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลและ Crypto Custody

ประเด็นของ “Crypto Custody” กับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล ครั้งนี้ได้นำสรุปประเด็นสำคัญจากงาน REDeFiNE TOMORROW 2024 โดยมี Michael Shaulov, CEO & Co-founder ของ Fireblocks และ Chris Ahn, Partner ของ HaunVentures มาพูดคุยในหัวข้อ “Charting the course: Fireblocks’ Vision for the Future of Digital Assets and Crypto Custody” เพื่อแบ่งปันความรู้เชิงลึกด้านการลงทุนและเทคโนโลยี 


Redefine1Sep_1200x800.jpg


“Fireblocks”  แพลตฟอร์มระดับโลกที่ให้บริการด้าน Crypto Custody

 

  • Michael Shaulov ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Fireblocks บริษัทที่ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Custody) รวมถึงการโอนสินทรัพย์และบริการที่เกี่ยวข้อง 

  • Shaulov เปิดเผยถึงจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ Fireblocks กว่า 1,800 ราย และมีการโอนเงินมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ทำให้แผนต่อไปของ Fireblocks คือการมุ่งเน้นที่จะขยายประสิทธิภาพและพื้นที่การให้บริการ เพื่อรองรับต่อความต้องการของลูกค้า เช่น เครื่องมือการชำระเงิน และ Tokenization Engines

 

ขยายความต้องการของนักลงทุนผ่านการชำระเงินด้วย Stablecoin

 

  • Shaulov ยกตัวอย่างกรณีศึกษาของการใช้แพลตฟอร์ม Fireblocks ในการโอนเหรียญ USDT และ USDC ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบ Stablecoin ไปยังพื้นที่ที่มีบริการรองรับการโอนอย่างจำกัด โดยมักเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศทวีปยุโรป แอฟริกา สหรัฐอเมริกา LATAM และ APAC  

  • Shaulov มองว่าการสร้าง Token กำลังมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันมี Stablecoin หมุนเวียนอยู่ประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ จึงต้องการมอบบริการที่ตอบโจทย์นักลงทุนที่อยากใช้งานผ่านเครื่องมือที่สร้างด้วย Token เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Funds) และตราสารหนี้ (Fixed income)

  • การอนุมัติ Bitcoin ETF จากก.ล.ต.สหรัฐฯ ส่งผลดีต่อการลงทุนใน Bitcoin และช่วยให้นักลงทุนที่คุ้นชินกับการลงทุนในตลาดรูปแบบเดิม สามารถเข้าถึงการลงทุนใน Bitcoin ง่ายมากขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดทางความรู้ 

 

กรณีศึกษาของบริษัทจัดการการลงทุนระดับโลก ที่มีต่อ  Bitcoin ETF 

 

  • Shaulov เล่าต่อว่า บริษัทจัดการการลงทุนระดับโลก BlackRock ลงทุนใน Bitcoin ETFs และมองเห็นโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล จึงจับมือร่วมกับ Securitize บริษัทด้านการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็น เพื่อเปิดตัวกองทุนรวมตลาดเงินตัวแรกที่มีชื่อว่า “BlackRock USD Institutional Digital Liquidity Fund” ภายหลังที่ Bitcoin ETFs ประสบความสำเร็จ

  • Fireblocks มองเห็นการเติบโตในการใช้ Stablecoin สำหรับการชำระเงินข้ามประเทศ เนื่องจากตลอด 2 ปีที่่ผ่านมา มีผู้ให้บริการการโอนเงินที่ใช้ Stablecoin บนแพลตฟอร์มของพวกเขา เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการ Cut-off ในตลาดคริปโตหลัก
  • ปัจจัยหลักที่ทำให้การชำระเงินด้วย Stablecoin ได้รับความนิยม เกิดจากการที่มีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น ทำให้คู่ค้า (Traditional counterparties) มีความมั่นใจ อีกทั้งหน่วยงานกำกับดูแล (Prominent regulators) ได้อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมนี้ ภายใต้ License ที่แตกต่างกัน จึงช่วยขับเคลื่อนเครือข่ายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

  • อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนด้านกฎระเบียบ (Regulatory clarity) ในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นอุปสรรคในการนำไปปรับใช้กับสินทรัพย์ดิจิทัลระดับสถาบันทางการเงิน จึงอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางธนาคาร ระหว่างผู้ออกเหรียญ Stablecoin (Stablecoin Issue) และ On-ramps/ Off-ramps

 

พัฒนา Web3 Fireblocks เพื่อขยายความต้องการในการชำระเงิน

 

  • ปัจจุบัน Fireblocks ยังคงลงทุนร่วมกับผู้ให้บริการด้านการชำระเงินรายใหญ่  ไม่ว่าจะเป็น การจัดการด้านโอนเงินข้ามพรมแดน (Cross-border transfer orchestration) การจัดการเงินสด (Treasury Managemen) และบริการเชิงพาณิชย์ เพื่อให้บริการผ่านเครื่องมือการชำระเงินของ Fireblocks

  • สำหรับ Web3 Space ทาง Fireblocks รู้สึกตื่นเต้นถึงการใช้ NFTs และเศรษฐกิจโทเค็น (Token economies) เพื่อพัฒนาโครงการด้าน Innovative loyalty initiatives อีกทั้งได้ร่วมมือกับ Flipkart ในโครงการ Loyalty Program ที่เข้าถึงผู้ใช้งาน 3.2 ล้านคน และสร้างยอดขาย (GMV) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ในการพัฒนาเทคโนโลยี Web3 นั้น อย่างเช่นพยายามในการพัฒนา Social Network รูปแบบใหม่ๆ คือกระตุ้นให้ผู้ใช้งานให้ความสำคัญต่อค่าลิขสิทธิ์ของ Content Creator รวมถึงการใช้ตั๋วสำหรับคอนเสิร์ต สายการบิน และอื่นๆ 

  • ผู้สร้าง Web3 กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากเทคโนโลยี สู่การพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ โดยมีการนำแนวคิด Web3 in the back, Web2 in the front มาปรับใช้ เพื่อให้ผู้ใช้งาน Web3 ได้รับประสบการณ์และประโยชน์ที่ดีที่สุด 

 

สรุป 

 

เมื่อมองแนวทางในอนาคต จะเห็นได้ว่า Shaulov ยังจับตามองว่าเทคโนโลยี Blockchain สามารถแก้ปัญหาด้านเครดิตส่วนตัว (Private Credit Space) รวมถึงสามารถมอบข้อเสนอใหม่ ๆ ที่ช่วยแบ่งแยกระหว่างสินทรัพย์ทางการเงิน และประสบการณ์ของผู้ใช้งาน Web3 ได้อย่างไร? ถือเป็นเทรนด์ด้านการลงทุนในเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับอนาคต

 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fireblocks  โปรดดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ Fireblocks 


หรือรับชมคลิปวิดีโอบน Youtube : https://youtu.be/rR2dIDKts5U?si=yS2nucPCeJhcK5cw

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept