อัปเดตสถานการณ์ DeFi Lending ในช่วง Crypto Winter

DeFi Lending หรือการกู้ยืมผ่านระบบ Decentralized Finance เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกของการให้บริการด้านการเงินที่หลายคนจับตามอง วันนี้ SCB 10X มีมุมมองจาก Robert Leshner, Founder & CEO, Compound ผู้นำ DeFi Lending ระดับโลกพร้อมกับคุณมุขยา พานิช (ใต้) , CEO & Chief Venture and Investment Officer, SCB 10X มาร่วมแชร์หลากประเด็นและความเคลื่อนไหวจากภาวะตลาดขาลงหรือ Crypto Winter ในขณะนี้ จากงาน REDeFiNE TOMORROW 2022

ภาวะวิกฤติทางการเงินส่งผลอย่างไรบ้าง?

Robert Leshner ให้ความคิดเห็นว่าวิกฤตินี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับผู้ให้กู้ เคยมีวิกฤติที่คล้ายกัน โดยที่ผู้ให้กู้ไม่สามารถรับมือกับความเสี่ยงที่คาดการณ์ได้ยาก และเขาคิดว่าวิกฤติที่เกิดใน Crypto ขณะนี้มีความคล้ายกันกับที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้า ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่และรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับ DeFi และโปรโตคอล หรือผู้ที่เข้ามาใน DeFi เป็นครั้งแรก เนื่องจากทำให้เห็นการทำงานที่โปร่งใสและแตกต่างกับระบบอื่น อย่างเช่น การจัดเก็บข้อมูลแบบ Shared Public Ledgers และเป็นระบบที่สามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ หากมองในระยะยาวเขาคิดว่าวิกฤติที่เกิดขึ้นนี้จะกลายเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการเรียนรู้ DeFi 

การค้ำประกันแบบ Over/Under-Collateralization รูปแบบใดเหมาะสมกับ DeFi 

DeFi ผู้คนมักจะถามถึงการวางหลักประกันไว้เกินมูลค่า (Over-Collateralization) และให้ความเห็นถึงความไม่มีประสิทธิภาพของการใช้เงินทุน และนำไปสู่ Under-Collateralization ไปจนถึงไม่มีการค้ำประกัน สถานการณ์นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อการมีหลักประกันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

Robert Leshner ให้ความเห็นว่าผู้คนจะเห็นข้อดีของ Over-Collateralization คือทำให้สามารถตัดสินใจด้านสินเชื่อได้ทันทีโดยไม่ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่น และง่ายมากด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบน Blockchain ส่วน Under-Collateralization ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมากเพื่อตัดสินใจ ซึ่งเขาคิดว่าในขณะนี้ DeFi เหมาะกับ Over-Collateralization มากที่สุด

ใน CeFi มีเรื่องที่สามารถปรับปรุงแก้ไขอย่างไรบ้าง

Robert Leshner ให้ความคิดเห็นว่ามีสองโอกาสในแก้ไข วิธีที่หนึ่ง คือให้หน่วยงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ CeFi เรียนรู้จาก DeFi และต่อสู้ในเชิงลึกเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการเผยแพร่ข้อมูลทางการเงินของพวกเขามากขึ้น

วิธีที่สอง คือยอมรับบุคคลที่สามหรือหน่วยงาน อย่างเช่นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือเข้ามาช่วยตรวจสอบและรับรองเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในความโปร่งใสให้กับธุรกิจ

Compound มีวิธีจัดการความเสี่ยงอย่างไร 

Compound มีพารามิเตอร์ของโปรโตคอลเป็นตัวกำหนดจำนวนเงินที่ผู้ใช้สามารถยืมได้โดยใช้หลักประกันเป็น Crypto และพารามิเตอร์เหล่านี้ส่งผลและอิทธิพลต่อความเสี่ยงของโปรโตคอล โดยการดำเนินงานของ Compound มีผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลจัดการพารามิเตอร์คำนวณความเสี่ยงโดยเฉพาะ

วิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นทำให้เกิดแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล?

ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดจากผู้ให้บริการที่ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า อย่างเช่นหยุดให้ถอนเงิน หน่วยงานกำกับดูแลจึงเน้นไปที่วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง โดย Robert คาดหวังว่าจะมีกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแลมากขึ้นในเรื่องเกี่ยวกับความโปร่งของธุรกิจ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ควรมีการสื่อสารกับผู้ใช้อย่างโปร่งใสมากขึ้น

Compound Treasury แพลตฟอร์มเชื่อมลูกค้าสถาบันกับ DeFi และผลกระทบช่วงตลาดขาลง

Compound Treasury แพลตฟอร์มสำหรับลูกค้าสถาบัน ที่ช่วยให้เข้าถึงและสร้างรายได้จาก DeFi โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความซับซ้อนของ Crypto หรือแพลตฟอร์ม DeFi ไม่จำเป็นต้องจัดการ Private Key หรือเกี่ยวข้องกับ Smart Contract ส่วนในช่วงตลาดขาลงหรือช่วงของ Crypto Winter ทาง Compound Treasury ตื่นเต้นกับตลาดครั้งนี้แต่ก็มีความกังวลอยู่เช่นกัน เนื่องจากเห็นความล้มเหลวของ CeFi หลายกรณี และปัญหาหนึ่งที่น่าสังเกตคือเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้ใช้ใหม่ที่เข้ามาในตลาด Crypto ที่จะแยกแยะ CeFi กับ DeFi อย่างเช่นเมื่อพวกเขาเห็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความเสียหายมักตีความโดยรวมว่าเป็น Crypto ซึ่งแท้จริงระบบการทำงานของธุรกิจมีความแตกต่างกัน

ด้านความโปร่งใส Compound Treasury ให้อัตราดอกเบี้ยคงที่และมีคลังเงินทุนสำหรับลูกค้า รวมถึงได้รับการจัดอันดับโดย S&P Global หน่วยงานจัดอันดับและวิเคราะห์ธุรกิจที่คอยตรวจสอบและเฝ้าระวังเพื่อรับรองความมั่นคงและความโปร่งใสของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขาให้ความเห็นว่าผลิตภัณฑ์ CeFi จำนวนมากกำลังให้ความสนใจในการให้หน่วยงานตรวจสอบและวิเคราะห์ธุรกิจเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ

อะไรจะเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ในตลาดกระทิงครั้งต่อไป

Robert Leshner ให้ความเห็นสำหรับตลาดกระทิงถัดไปอาจเกิดจากสองปัจจัย โดยปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นที่หนึ่ง คือการปรับปรุงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีใน DeFi อย่างเช่นเป็นโอกาสที่ดีของการนำเทคโนโลยี Zero Knowledge Proof มาใช้กับแอปพลิเคชัน DeFi ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยเพิ่มมาตรฐานความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไปพร้อมกับการรักษาความโปร่งใสให้กับระบบนิเวศ

ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งที่สอง เป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Crypto ทั่วโลกหรือมีความสากลมากขึ้นโดยธรรมชาติ และเมื่ออัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยในประเทศต่างๆ เริ่มลดลง และหากเศรษฐกิจมหภาคดีขึ้นในอีก 1-2 ปีข้างหน้า องค์ประกอบเหล่านี้สามารถเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญให้ไปสู่ตลาดกระทิงครั้งต่อไป

สิ่งที่น่าติดตามใน Web 3.0 

Robert ตื่นเต้นกับเทรนด์ของความบันเทิงและสังคมใน Web 3.0 เนื่องจากในอดีตตลาด Web 3.0 ยังค่อนข้างเล็กและยังไม่มีผู้สนใจมาก ซึ่งหากมีคนเข้ามาจำนวนมากเป็นเรื่องน่ายินดี และเขาคิดว่า Web 3.0 ที่เกี่ยวกับความบันเทิงและชุมชนเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คนเข้ามามากขึ้น โดยโปรเจกต์และทีมที่กำลังพัฒนาและสำรวจองค์ประกอบทางสังคมมีส่วนอย่างมากที่ช่วยผลักดันให้ตลาด Web 3.0 เดินไปข้างหน้า โดยพวกเขาจะเริ่มต้นจากตลาดขนาดเล็กมากและมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้ที่เข้ามาตั้งแต่แรกเริ่มและรวมกันเป็นหนึ่งจากนั้นจึงขยายให้ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ 

รับชมย้อนหลังได้ทาง Youtube: https://youtu.be/sIDiDXKZbcA