Crypto Wallet 2025: จากกระเป๋าเงินดิจิทัลสู่โครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจใหม่
Crypto Wallet เปรียบเสมือนตู้นิรภัยสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของตลาด เมื่อการชำระเงินดิจิทัลกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน เราจึงได้เห็นนวัตกรรมในการออกแบบ Crypto Wallet ที่หลากหลาย เช่น การผสานรวมกับ DeFi และ CBDC, การยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์, การทำงานร่วมกันข้ามแพลตฟอร์ม และการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเค็น ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้กำลังกำหนดอนาคตของการพัฒนา Crypto Wallet พร้อมสร้างโอกาสใหม่ๆ มากมายสำหรับผู้ใช้งาน
Key Takeaways:
- ปี 2025 การใช้งาน Bitcoin และ Ethereum ผ่าน Crypto Wallet เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผนวกกับการเติบโตของ Stablecoin และ NFT
- แนวโน้มของ “Programmable Money” เริ่มมีการใช้งานจริงในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย
- ผู้ให้บริการ Digital Wallet ระดับโลกกำลังยกระดับบริการจากแค่เครื่องมือเก็บเหรียญไปสู่ระบบที่ “Programmable” และเชื่อมกับโลกธุรกิจ
- ตัวอย่าง Crypto Wallet ที่น่าจับตา เช่น Rubie Wallet (ไทย), Fireblocks (โครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร), MetaMask Institutional (ที่เหมาะกับองค์กร), Trust / Coinbase wallet / Binance wallet (ใช้งานในวงกว้าง)
- ทิศทางของ Wallet ปีนี้คือการย้ายจาก “Store of Value” ไปสู่ “Tool for Digital Utility”
แนวโน้ม Crypto Wallet ในปี 2025
การเปลี่ยนแปลงของจำนวน Crypto wallet ในปีนี้ เหรียญหลักอย่าง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) มีจำนวน Wallet เพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่เหรียญอื่นๆ มีการเปลี่ยนแปลงที่ต่างกันไป (Credit: CryptoNewsLand) ดังนี้
- Bitcoin มีจำนวน Wallet เพิ่มขึ้น 102,000 Wallet ชี้ให้ห็นว่ายังมีความสนใจใน Bitcoin จำนวนมาก
- Ethereum มีจำนวน Wallet เพิ่มขึ้นมากกว่า Bitcoin คือ 645,000 Wallet ซึ่งอาจจะเป็นเพราะคนหันมาใช้แอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) และ Smart Contract บน Ethereum มากขึ้น
- XRP และ Dogecoin ก็มีจำนวน Wallet เพิ่มขึ้นเช่น โดย XRP เพิ่มขึ้น 58,000 Wallet และ Dogecoin เพิ่มขึ้น 29,000 Wallet
- Cardano มีจำนวน Wallet เพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือ 2,800 Wallet
- แต่ Chainlink กลับมีจำนวนWalletลดลง 3,300 Wallet ซึ่งอาจมาจากความสนใจที่ของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปตามสภาพตลาด
Crypto Wallet ไม่ได้มีไว้แค่เก็บเหรียญอีกต่อไป
โลกของคริปโตในปี 2025 ขยับเข้าใกล้ชีวิตจริงมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบทบาทของ Crypto Wallet ที่ไม่ได้มีไว้แค่ “เก็บเหรียญ” อีกต่อไป แต่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้เงินดิจิทัลอย่างแท้จริงในชีวิตประจำวัน
- Crypto Wallet เคยถูกมองว่าเป็นแค่ “ที่เก็บเหรียญ” สำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการคริปโตเท่านั้น แต่ในปี 2025 ภาพนี้เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยข้อมูลจาก CryptoNewsLand ชี้ว่า Wallet คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุดในระบบนิเวศคริปโต โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจาก
- การใช้งาน Stablecoin อย่างแพร่หลาย
- การเติบโตของ NFTs และเศรษฐกิจแบบ Creator Economy
- ความต้องการใช้เงินดิจิทัลใน ชีวิตประจำวัน
- เทคโนโลยี Wallet ไม่ได้หยุดอยู่แค่การรับ-ส่งเหรียญอีกต่อไป แต่เริ่มมีความสามารถใหม่ เช่น การตั้งเงื่อนไขการโอน (Programmable transfer) ระบบควบคุมสิทธิ์ในองค์กร (Permissioned wallet) และการใช้งานแบบ Multi-signature ที่ปลอดภัยเหมาะกับระดับธนาคาร
- ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือการใช้งาน Stablecoin อย่าง USDC หรือโทเคนดิจิทัลสกุลบาท (THB digital token) ในการโอนเงิน ชำระค่าสินค้า และเชื่อมต่อกับบริการทางการเงินต่างๆ บนโลก Web3 โดยสิ่งที่กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างมีนัยสำคัญ คือการเกิดขึ้นของ “Programmable Stablecoin” ซึ่งเป็นเงินดิจิทัลที่สามารถตั้งเงื่อนไขการใช้งานล่วงหน้าได้ เช่น จำกัดผู้รับหรือระยะเวลาการใช้ ซึ่งกำลังช่วยขยายขอบเขตการใช้งานของ Crypto Wallet ให้ก้าวไกลและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
แนวโน้มการใช้ Programmable Money กำลังขยายตัวในหลายประเทศ โดยมีการทดลองใช้ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระเงิน ลดต้นทุน และเพิ่มความโปร่งใสในการใช้งาน ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทดลองใช้อย่างจริงจัง
ประเทศไทยเริ่มทดลองใช้ Programmable Payment
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ดำเนินโครงการทดลองใช้ "Programmable Payment" ภายใต้กรอบ Enhanced Regulatory Sandbox โดยร่วมมือกับหลายองค์กร เช่น SCB 10X, Bitkub และ TrueMoney เพื่อทดสอบบริการต่างๆ เช่น:
- Tourist Wallet: Walletเงินดิจิทัลสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใช้จ่ายผ่าน QR Code กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยร้านค้าจะได้รับเงินเป็นเงินบาทเข้าบัญชีตามปกติ
- Escrow Payment: ระบบชำระเงินแบบมีเงื่อนไข เช่น การจ้างงาน Freelance หรือการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยใช้ Smart contract เพื่อโอนเงินเมื่อเงื่อนไขถูกต้อง
- Asset Tokenization: การใช้เงินดิจิทัลในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น NFT, Investment Token และ Utility Token
นอกจากนี้ มีประเทศอื่นๆ ที่ผลักดัน Programmable Payment เช่น
- จีน มีการทดลองใช้ e-CNY อย่างกว้างขวาง โดยจีนเป็นประเทศที่มีการทดลองใช้เงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (e-CNY) ในหลายเมืองและหลายสถานการณ์ เช่น การชำระเงินในร้านค้า การจ่ายค่าโดยสาร และการแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนในบางพื้นที่ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและทดสอบระบบ (ที่มา: Reuters)
- สิงคโปร์ มีการทดลองใช้ “Purpose-Bound Money (PBM)” โดยธนาคาร DBS ของสิงคโปร์ร่วมกับ Open Government Products (OGP) โดย "Purpose-Bound Money" เป็นเงินดิจิทัลที่สามารถกำหนดวัตถุประสงค์การใช้งานได้ เช่น แจกคูปองดิจิทัลให้ประชาชนใช้ในร้านค้าที่กำหนด โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain และ Smart contract เพื่อควบคุมการใช้งานและเพิ่มความโปร่งใส (ที่มา: DBS Bank)
ตัวอย่าง Crypto Wallet ที่ขับเคลื่อนโลกสินทรัพย์ดิจิทัล
- Rubie Wallet:
- พัฒนาโดย SCB 10X ร่วมกับผู้ร่วมพัฒนาอีกหลายราย และได้รับการสนับสนุนจาก SCB ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในวงการคริปโตไทย เป็นอีกจุดเริ่มต้นสำคัญของการใช้งาน Stablecoin ในชีวิตจริงของไทย
- เป็นการแปลง Stablecoin สกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาทแบบเรียลไทม์ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้รับการควบคุมตามกฎและข้อบังคับที่กำหนด
- Rubie Wallet ใช้โครงสร้างพื้นฐาน Wallet-as-a-Service ของ Fireblocks บน Base Blockchain โดยรองรับ Programmable Stablecoin ซึ่งกำหนดเงื่อนไขการใช้งานได้ เช่น การใช้ในพื้นที่จำกัดหรือช่วงเวลาที่กำหนด
- Rubie Wallet ได้มีทดลองใช้ในกลุ่มของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วมงาน Devcon ในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2024 ซึ่งอยู่ภายใต้ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของไทย (Thai SEC)
- Fireblocks Wallet-as-a-Service:
- แพลตฟอร์มสำหรับองค์กรในการสร้าง Wallet ระดับสถาบัน โดดเด่นด้วยระบบควบคุมความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งเหมาะสำหรับธนาคารและสตาร์ทอัพด้านการเงิน (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fireblocks Wallet-as-a-Service)
- MetaMask Institutional:
- พัฒนาต่อยอดจากWallet DeFi ยอดนิยม สู่เวอร์ชันที่ตอบโจทย์องค์กร โดยรองรับการกำกับดูแลภายในองค์กร ส่งเสริมความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- Crypto Wallet อย่าง Trust Wallet / Coinbase Wallet / Binance / Gemini / Ledger ต่างมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการใช้งานคริปโตในวงกว้าง:
- เป็นWalletเงินดิจิทัลสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ในวงการคริปโตรู้จักกันดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้คริปโตเข้าสู่การใช้งานในวงกว้าง (Mass adoption) ด้วยการใช้งานที่ง่าย ปลอดภัย และรองรับหลากหลายเครือข่าย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงและใช้งานคริปโตได้สะดวกยิ่งขึ้น
- Trust Wallet ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วโลกด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่าย รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายประเภทและปลอดภัยสูง
- Coinbase Wallet มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่นด้วยการสนับสนุนหลายเครือข่าย Blockchain และการรวมเข้ากับแอปพลิเคชัน DeFi ต่างๆ TechStory
- Binance Wallet เป็นWalletเงินแบบไม่ต้องใช้คีย์ (Keyless) ที่ใช้เทคโนโลยี Multi-Party Computation (MPC) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย โดยไม่ต้องจำ Seed phrase (Binance)
- Gemini Wallet: มีระบบความปลอดภัยระดับสูง รวมถึงการรับรองความปลอดภัยจากอุตสาหกรรม และการประกันภัยสำหรับ Hot wallet (Gemini)
- Ledger Wallet: เป็นWalletเงินฮาร์ดแวร์ที่มีความปลอดภัยสูง รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 5,500 รายการ และมีการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เช่น Bluetooth และ NFC ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์ของตนได้อย่างสะดวกและปลอดภัย (Ledger)
Walletเงินเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการลดอุปสรรคในการเข้าถึงคริปโตเคอร์เรนซี และส่งเสริมการใช้งานในวงกว้าง ด้วยความพยายามสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการนำคริปโตเข้าสู่กระแสหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล
Crypto Wallet จะกลายเป็น “Super App” ทางการเงินในอนาคตได้หรือไม่?
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Crypto Wallet อาจพัฒนาไปสู่การเป็นหัวใจสำคัญของการเงินดิจิทัลอย่างแท้จริงได้ ไม่ใช่แค่ใช้สำหรับเก็บสินทรัพย์คริปโตเท่านั้น แต่อาจใช้เป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดการใช้งานหลากหลาย ตัวอย่างเช่น:
- รับเงินเดือนผ่าน Stablecoin
- ใช้ร่วมกับบริการธนาคารและ Web3 ได้ในแอปเดียว
- รองรับสินทรัพย์ใหม่ๆ เช่น Carbon Credit, Digital Bond และ Loyalty Token
- ถูกควบคุมภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจนขึ้น (เช่น Sandbox และ Licensing)
- พัฒนาเป็นเครื่องมือสำคัญที่น่าสนใจสำหรับภาคธนาคาร เช่น SCB 10X ที่ได้เปิดตัว Rubie Wallet เพื่อรองรับ Programmable stablecoin ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถาบันการเงินดั้งเดิมก็เริ่มปรับตัวเข้าสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลและมองเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีนี้มาพัฒนาบริการทางการเงินรูปแบบใหม่
แต่คำถามสำคัญคือ ใครจะคว้าโอกาสนี้ไปก่อน ระหว่างธนาคารดั้งเดิมที่กำลังเร่งปรับตัว หรือผู้เล่นสาย Web3 ที่เกิดมาเพื่อโลกคริปโตอยู่ก่อน?
อะไรคือสัญญาณที่ควรจับตา?
- มองให้ลึกกว่าแค่เหรียญ โดยในยุคที่ Crypto Wallet กำลังเปลี่ยนบทบาทอย่างรวดเร็ว นักลงทุนและผู้ใช้งานควรมองให้ลึกกว่าแค่ราคาของเหรียญ อาจตั้งคำถามว่าใครกำลังสร้าง Wallet และเป็นรูปแบบใด หรือใช้เทคโนโลยีแบบใด? และตอบโจทย์ผู้ใช้งานกลุ่มไหน? เนื่องจากโครงสร้างและเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดในระยะยาว ซึ่งช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าจะใช้งานหรือสนับสนุนแพลตฟอร์มใด
- Stablecoin Infrastructure อาจกลายเป็นรากฐานของเศรษฐกิจใหม่ และใครที่สามารถออกแบบและควบคุมระบบWallet Stablecoin ได้ก่อน จะเหมือนเป็น "เจ้าของถนน" ในโลกการเงินยุคดิจิทัล ไม่ต่างจากที่ธนาคารถือระบบชำระเงินในโลกเดิม
- ความปลอดภัยและการกำกับดูแลคือหัวใจสำคัญ เมื่อโลกการเงินเต็มไปด้วยความเสี่ยง ผู้ให้บริการที่มีระบบความปลอดภัยสูง และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ได้ดี จะสร้างความเชื่อมั่นได้มากกว่า โดยเฉพาะกับกลุ่มองค์กรและนักลงทุนสถาบัน
- อย่ามองข้าม "Walletไทย" อย่างกรณีของ Rubie Wallet จาก SCB 10X เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญว่าประเทศไทยก็ลงสนามแข่งขันแล้ว ด้วยการพัฒนา Wallet ที่รองรับ Programmable money บนเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Fireblocks และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างถูกต้อง
สรุป
ปี 2025 อาจเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญของวงการ Crypto Wallet ที่กำลังกลายเป็นมากกว่าเครื่องมือของนักเทรด แต่เป็นส่วนหนึ่งของโลกการเงินใหม่ที่ใช้จ่ายได้จริง สะสมมูลค่าได้ และตั้งเงื่อนไขทางธุรกิจได้ตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ทั้งภาคเอกชนและรัฐกำลังร่วมกันปูทางอย่างชัดเจน
-------------------------------------
Sources:
- Cryptonewsland: Crypto wallet trends in 2025
- Cointelegraph: Rubie Wallet launch
- Fireblocks: SCB 10X launches programmable stablecoin with Fireblocks custodial wallet infrastructure
- Fireblocks Wallet-as-a-Service
- MetaMask Institutional
- BOT: Programmable Payment
- Circle: Programmable Money