AI Roadmap for Thailand: เจาะลึกแผนยุทธศาสตร์นำทางสู่อนาคต AI ไทย

AI กลายเป็นเครื่องมือเปลี่ยนโลก
คุณกสิมะ ได้ยกตัวอย่างการพัฒนาโมเดลภาษาไทย "Typhoon" ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การนำ AI มาใช้ในบริบทไทยอย่างแท้จริง โดย “Typhoon” มีความสามารถในการเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมไทยอย่างแม่นยำ รวมถึงเปิดให้ใช้งานในรูปแบบ Open Source เพื่อส่งเสริมการพัฒนาต่อยอด ช่วยสร้างโอกาสในการประยุกต์ใช้ AI ให้กว้างขวางและเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งแรงที่ผลักดัน AI ไทยสู่เวทีโลก
และทุกท่านต่างเห็นพ้องกันถึงศักยภาพของ AI ว่ามีความสำคัญต่อการปฏิวัติภาคส่วนต่างๆ ทั้งสาธารณสุข เกษตรกรรม การศึกษา และหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมกับเน้นย้ำว่า AI ไม่ใช่แค่เรื่องของวิศวกรรมหรือธุรกิจอีกต่อไป แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลากหลายสาขา อย่างเช่นดร. สันติธาร มองว่า AI เป็นทางรอดในการแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน เนื่องจากสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะส่งผลให้แรงงานลดลงในอนาคตและ AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
แนวทางพัฒนาคนไทยในยุค AI
เพื่อใช้ประโยชน์จาก AI อย่างเต็มที่ ไทยจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ครอบคลุม โดยมี 3 หลักสำคัญ ได้แก่
- เรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning): สร้างความเข้าใจ ลดความกังวลเกี่ยวกับ AI ส่งเสริมมุมมองว่า AI ช่วยเพิ่มศักยภาพ และปลูกฝังความรู้พื้นฐาน AI พร้อมเปิดโอกาสการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้สำหรับทุกคน
- พัฒนาทักษะ AI (AI Literacy):
- พื้นฐาน: ใช้งาน AI คล่องแคล่ว (Proficiency), รู้เท่าทัน AI (Immunity), ใช้ AI ในงานเฉพาะด้าน (Domain Knowledge) และรักษาความเป็นมนุษย์ (Empathy)
- ระดับกลาง: ปรับกระบวนการทำงานให้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ (Redesign Process)
- ระดับสูง: พัฒนา AI ที่ตอบโจทย์บริบทไทยและสร้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ AI
- พื้นฐาน: ใช้งาน AI คล่องแคล่ว (Proficiency), รู้เท่าทัน AI (Immunity), ใช้ AI ในงานเฉพาะด้าน (Domain Knowledge) และรักษาความเป็นมนุษย์ (Empathy)
- การสนับสนุนจากภาครัฐ: ซึ่งคุณกสิมะ เน้นย้ำถึงบทบาทของภาครัฐว่ามีความสำคัญต่อการผลักดันการพัฒนา AI ในประเทศไทย โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการลงทุนวิจัยและพัฒนา AI ที่ตอบโจทย์บริบทไทย พร้อมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น ศูนย์ข้อมูลและระบบคลาวด์ที่ปลอดภัย ควบคู่ไปกับการกำหนดนโยบายที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการลอกเลียนแบบจากต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของไทย รวมถึงออกกฎระเบียบที่สมดุล สนับสนุนนวัตกรรม แต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัย จริยธรรม และความเป็นส่วนตัว
ภาครัฐควรทำอย่างไรกับการพัฒนา AI ?
จากมุมมองของแต่ละท่านสรุปได้ว่าการพัฒนา AI ในประเทศไทยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม AI โดยการมีนโยบายที่ชัดเจนและเจาะจง จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มุมมองของคุณกสิมะ ชี้ว่านโยบายของรัฐควรมุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนา AI มากกว่าการควบคุมหรือตั้งข้อจำกัด และกังวลว่านโยบายปัจจุบันที่อ้างอิงจากต่างประเทศ เช่น ยุโรปหรือแอฟริกา อาจไม่เหมาะสมกับบริบทของไทย รวมถึงควรมีนโยบายที่ส่งเสริมการอบรมและพัฒนาเพื่อให้เกิดการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ในประเทศ
สำหรับมุมมองดร. พัทน์ มุ่งเน้นถึงความท้าทายในการพัฒนา “Fundamental Model” ที่ใช้ทรัพยากรมหาศาล เสนอให้รัฐบาลมีนโยบายเฉพาะด้าน มุ่งเป้าไปที่โอกาสและความท้าทายเฉพาะ ไม่ทำแบบหว่าน และดร. สันติธาร ได้เสนอให้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อกำหนดนโยบาย AI ที่ตอบโจทย์ปัญหาและโอกาสของประเทศ และมอง AI เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่ด้านเทคโนโลยี พร้อมกับส่งเสริมการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย
สิ่งที่ไทยต้องกล้าเปลี่ยนเพื่อให้พร้อมกับ AI
จากมุมมองของทั้งสามท่านเสนอว่าประเทศไทยจำเป็นต้องกล้าเปลี่ยนแปลงในหลายด้านเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยี AI มาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ดังนี้
- เปลี่ยนวิธีคิด จากการเป็นผู้ตาม (Champion Mindset) ไปเป็นผู้ท้าชิง (Challenger Mindset) กล้าคิด กล้าทำ กล้าลองผิดลองถูก และเปิดรับสิ่งใหม่ๆ
- เปลี่ยนนโยบาย โดยภาครัฐควรปรับเปลี่ยนนโยบายให้เอื้อต่อการพัฒนาและนำ AI มาใช้ โดยเน้นการสนับสนุนการลงทุนที่ชาญฉลาด ลดกฎระเบียบที่ยุ่งยาก และส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรม
- เปลี่ยนวิธีการทำงาน ภาครัฐต้องร่วมมือกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ส่วนภาคเอกชนต้องมีความกล้าที่จะลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
- เปลี่ยนทักษะแรงงาน ด้วยการพัฒนาคนไทยให้มีความรู้ความสามารถในการทำงานร่วมกับ AI และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ
รับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาส
แม้ว่า AI จะมีศักยภาพมหาศาล แต่ก็ยังมีความท้าทายสำคัญ เช่น เรื่องจริยธรรม ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และความเสี่ยงต่อการว่างงาน เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับจริยธรรม โดยต้องมั่นใจว่า AI จะถูกพัฒนาและใช้ในทางที่รับผิดชอบ และควรลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับแอปพลิเคชัน AI นอกจากนี้ ควรส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาอุตสาหกรรม และรัฐบาล