รู้จัก Cross-Chain Solution เทคโนโลยีเชื่อมประสาน Blockchain 2 ระบบ เข้าด้วยกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาบริการยุค Digital Economy คือการสร้าง Ecosystem ของบริการให้ครอบคลุมกับโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่แนวคิดทางการเงินอย่าง Decentralized Finance ที่มีกระบวนวิธีการที่แข็งแรงอยู่แล้วก็จำเป็นต้องมีการต่อยอดจนเกิดเป็น Ecosystem ที่สมบูรณ์เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ DeFi จึงมีการพัฒนาการเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในกลไกการเชื่อมโยงที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดเวลานี้หนีไม่พ้น Cross-Chain Solution ซึ่งเป็นวิธีการเชื่อมโยง Blockchain 2 ระบบเข้าด้วยกันซึ่งถูกต่อยอดเป็นบริการทางการเงินรูปแบบต่างๆ อันช่วยให้ DeFi ถูกนำไปใช้งานจริงมากขึ้น และเพื่อให้เข้าใจความสำคัญของ Cross-Chain Solution ในครั้งนี้ SCB 10X จึงขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับนวัตกรรมนี้กัน
รู้จัก Cross-Chain นวัตกรรมเชื่อมประสาน Blockchain ทุกเครือข่ายเข้าด้วยกัน
เรารู้ดีว่า Blockchain เป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่มีลักษณะเป็นสายต่อเนื่องกันโดยมีเทคโนโลยีการเข้ารหัสและการแบ่งข้อมูลเป็นกล่องสนับสนุนการทำงานให้เกิดความรวดเร็วและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโครงสร้างของ Blockchain ทุกระบบจะเหมือนกัน แต่ด้วยรายละเอียดการแบ่งกล่องและการเข้ารหัส ทำให้ Blockchain แต่ละเครือข่ายไม่สามารถบันทึกข้อมูลข้ามกันได้โดยตรง กล่าวโดยง่ายก็คือ ผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานแลกเปลี่ยนข้อมูลที่บรรจุใน Bitcoin ไปยัง Etheruem ได้โดยตรง ทั้งที่โดยหลักการแล้ว การแลกเปลี่ยนมูลค่าข้ามสินทรัพย์ควรจะทำได้และได้ประโยชน์จากคุณสมบัติของ Blockchain
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาวิธีการที่เรียกว่า Cross-Chain Solution ขึ้น โดยเป็นการทำให้ Blockchain 2 ระบบเครือข่ายที่แยกจากกันสามารถทำงานร่วมกันได้ เมื่อ Blockchain 2 ระบบทำงานร่วมกันได้จึงเกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและมูลค่าสินทรัพย์ระหว่างกันได้ โดยปัจจุบัน Cross-Chain แบ่งประเภทตามเทคโนโลยีที่ใช้ได้ 2 ลักษณะ ได้แก่
- Isomorphic Cross-chains หมายถึง Cross-Chain ที่ทุกองค์ประกอบระหว่าง 2 เครือข่ายทำงานอย่างสอดคล้องกันโดยไม่มีการเพิ่มเทคโนโลยีและวิธีการอื่นเข้าไป ปฏิสัมพันธ์ของทั้ง 2 เครือข่ายจะมีขั้นตอนที่ง่ายไม่ซับซ้อน และไม่จำเป็นต้องมีเครือข่ายที่ 3 ช่วยให้บริการระหว่างทั้ง 2 เครือข่าย
- Heterogeneous Cross-Chains หมายถึง Cross-Chain ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมในบางส่วนประกอบ เช่น การใช้ Proof-of-Work Algorithm ใน Concensus เพิ่มเติม เป็นต้น มักใช้กับ Blockchain 2 ระบบที่มีโครงสร้างการทำงานต่างกัน และด้วยความซับซ้อน Cross-Chain ประเภทนี้จึงมักมีเครือข่ายที่ 3 ช่วยแปลงและส่งต่อข้อมูลระหว่าง 2 เครือข่าย
Cross-Chain กับการยกระดับ Decentralized Finance สู่การใช้ที่แพร่หลายในโลกจริง
การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง Blockchain เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพของ Blockchain รวมถึงการใช้งานด้านอื่นๆ ที่ต่อยอดจากเทคโนโลยีนี้ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Decentralized Finance ระบบการเงินซึ่งยกหน้าที่ของตัวกลางไปให้กับระบบที่น่าเชื่อถืออย่าง Blockchain
ทุกวันนี้ ในโลกของ Decentralized Finance ต้องอาศัย Digital Assets เป็นตัวขับเคลื่อนการใช้งานและบริการทางการเงินรูปแบบต่างๆ Digital Assets แต่ละชนิดล้วนใช้ Blockchain เป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน ซึ่งหาก Digital Assets แต่ละประเภทไม่สามารถเชื่อมโยงมูลค่าและบริการกันได้ Ecosystem ของ DeFi ก็จะไม่สมบูรณ์และไม่สามารถเข้ามาแทนที่ Traditional Finance ได้
ทั้งนี้ Cross-Chain Solution จะช่วยให้ DeFi กลายเป็น Ecosystem ของ Digital Assets และ Financial Service รูปแบบใหม่ผ่านการใช้งาน ดังนี้
- การทำธุรกรรมข้ามสกุล Cryptocurrency Cross-Chain ช่วยให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมข้ามสกุลเหรียญซึ่งเป็นประโยชน์มากทั้งในระดับการใช้งานทั่วไปจนถึงระดับธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น เดิมทีเราไม่สามารถซื้อสินค้าที่กำหนดราคาด้วย Bitcoin โดยใช้ Ethereum ได้ทันที เราต้อง Trade ETH เป็น BTC ในตลาด แล้วจึงนำ BTC มาจ่ายได้ แต่หากมีระบบ Cross-Chain ที่เชื่อมระหว่าง BTC กับ ETH ผู้ซื้อก็ไม่จำเป็นต้องแลกเหรียญในตลาดและสามารถจ่าย ETH เข้าสู่กระเป๋าเงิน BTC ของผู้รับได้ทันที
- เพิ่ม Liquidity ระหว่าง Digital Assets เมื่อธุรกรรมสามารถเกิดขึ้นได้ระหว่าง Digital Assets 2 ประเภทโดยไม่จำเป็นต้องรอการ Trade ในตลาดก่อน เป็นการลดขั้นตอนการทำธุรกรรมลงจึงทำให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้น ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบริการจากภายนอกเพื่อเชื่อมประสาน Digital Assets ทั้ง 2 เข้าด้วยกัน เป็นการทำให้ Decentralized Finance ยังคงความเป็นบริการแบบกระจายศูนย์ต่อไปได้
- การเชื่อมไปยัง Real-World Asset ไม่เพียงแต่ระหว่าง Digital Assets และ Cryptocurrency เพียงอย่างเดียว แต่ Cross-Chain ยังช่วยให้ Blockchain สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ Digital Information อื่นๆ ที่มีอยู่ปัจจุบัน เช่น สกุลเงิน ราคาหุ้น และสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งคุณสมบัตินี้ช่วยให้ DeFi ทำงานเปรียบเสมือนสถาบันการเงินได้
ตัวอย่าง Cross-Chain Solution Project ในปัจจุบัน
เมื่อพอเข้าใจ Function ของ Cross-chain แล้ว เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจึงขอยกตัวอย่าง Cross-Chain Solution Project ที่ให้บริการจริงมานำเสนอกัน ดังนี้
- Ripple ถือเป็น Project ด้าน Cross-chain Solution ลำดับแรกๆ ของโลก โดยนำ Cross-Chain มาใช้กับการทำธุรกรรมข้ามสกุลเงินทั้ง Fiat Money และ Cryptocurrency โดยให้บริการได้ทั้งรายย่อยและสถาบันการเงิน ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นการช่วยให้สถาบันการเงินให้บริการโอนเงินข้ามพรมแดนบน Blockchain ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าได้
- Cosmos เป็น Project ด้าน Cross-Chain ที่มาแรงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดย Cosmos มีเป้าหมายเป็น “Internet of Blockchain” ด้วยกรสร้างเครือข่าย Cosmos Network รองรับการแลกเปลี่ยนธุรกรรมของ Blockchain Network หลากหลายเครือข่าย
- Band Protocol นักพัฒนา DeFi Service Ecosystem ชาวไทย ซึ่งให้บริการ Cross-Chain Oracle Platform ช่วยให้นักพัฒนา Blockchian นำข้อมูลสินทรัพย์บนโลกจริงไปเชื่อมต่อกับ Decentralized Application นักพัฒนาจึงสามารถนำ Blockchain มาต่อยอดบริการกับข้อมูลที่มีอยู่จริงเพื่อนำเสนอบริการอื่นๆ แก่ผู้ใช้ได้
- Alpha Finance Lab อีกหนึ่งนักพัฒนาชาวไทยที่นำเสนอบริการด้าน Cross-Chain Solution ซึ่งนำนวัตกรรมมาทำเป็น Decentralized Financial Product เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด โดยปัจจุบันให้บริการบน Binance Smart Chain และ Ethereum
อนาคตของ DeFi และ Cross-Chain Solution
แม้ว่าเราจะเข้าใจและเห็นตัวอย่างศักยภาพของ Cross-Chain Solution กันแล้ว แต่เรายังไม่อาจพูดได้ว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นกลไกหนึ่งเดียวในการผลักดัน DeFi ให้เป็นที่แพร่หลาย เนื่องจาก Cross-Chain เป็นเทคโนโลยีที่ยังต้องการการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมถึงต้องการกรณี Use Case ทั้งในด้าน Finance และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมาก แต่ทั้งนี้ หากพูดถึงแค่ใน Decentralized Finance เราก็ต้องถือว่า Cross-Chain เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มีศักยภาพจริงในการผลักดัน DeFi ให้ก้าวสู่การนำไปใช้อีกขั้นหนึ่งได้
Cross-Chain Solution ทำให้เราเห็นถึงก้าวสำคัญของ Blockchain และ DeFi ผ่านแนวคิดง่ายๆ อย่างการเชื่อมต่อระหว่างกันให้มากที่สุด ซึ่งการเชื่อมต่อช่วยทั้งด้านการใช้งานที่สมบูรณ์อันนำไปสู่การใช้งานที่มากขึ้น ทั้งนี้ Cross-Chain Solution รวมถึงนวัตกรรมจาก DeFi ยังเป็นของใหม่ที่มีเรื่องราวหน้าถ่ายทอดอีกมาก ซึ่งในโอกาสหน้า SCB 10X จะหยิบมานำเสนอทุกท่านกันอย่างแน่นอน