milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
15 มิถุนายน 2566
ภาษาไทย

Chat GPT-4 ทำอะไรได้บ้าง และดีกว่าเวอร์ชันก่อนอย่างไร?

ช่วงปลายปี 2022 OpenAI สร้างความแรงกระตุ้นครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรม AI ด้วย ChatGPT ปัญญาประดิษฐ์ ที่มีพื้นฐานมาจากรูปแบบภาษาขนาดใหญ่ สามารถสร้างข้อความ และ ตอบคำถามเพียงแค่พิมพ์คำถามลงไป การพัฒนา ChatGPT ยังคงดำเนินไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ล่าสุด OpenAI ก็ปล่อย GPT- 4 ออกมา

Article1FEB2_1200X800.jpg

ความแตกต่างของ ChatGPT ทั่วไป กับ GPT-4  

ChatGPT และ GPT-4 จะใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกันในการพัฒนาและให้ AI เรียนรู้ที่มีความซับซ้อน โดยการฝึกโมเดล ChatGPT โดดเด่นในการโต้ตอบในรูปแบบของบทสนทนา ซึ่งเป็นรูปแบบที่ช่วยให้ ChatGPT สามารถตอบและติดตามผลของคำถาม เรียนรู้ขอผิดพลาดได้เอง คัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และปฏิเสธคำขอหรือคำถามที่ไม่เหมาะสมได้

ส่วน GPT-4 หรือย่อมาจาก ‘Generative Pretrained Transformer 4’ เป็นความสำเร็จล่าสุดด้วยความพยายามของ OpenAI ในการขยายการเรียนรู้เชิงลึก โดย GPT-4 เป็นโมเดลรูปแบบที่มีขนาดใหญ่และมีความสามารถหลากหลายยิ่งขึ้น (สามารถเข้าใจทั้งรูปภาพและข้อความ) สามารถแสดงประสิทธิภาพระดับมนุษย์ตามเกณฑ์มาตรฐานทางวิชาชีพและทางวิชาการต่างๆ ตัวอย่างเช่น ผ่านการสอบจำลอง Bar Exam ด้วยคะแนนที่ดีขึ้นกว่า GPT-3.5 โดยเป็นการพัฒนาด้วยการใช้บทเรียนจากโปรแกรมการทดสอบจากภายนอกรวมถึงจาก ChatGPT ฝึกฝนซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แม้ว่าจะยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ

หากต้องการเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองสามารถแบ่งออกเป็นในด้านการฝึก (Training) ด้านสมรรถนะ (Performance) ด้านความสามารถ และข้อจำกัดกับความเสี่ยง


การฝึกฝน AI ของ ChatGPT และ GPT-4 

ChatGPT พัฒนามาจากชุดข้อมูลการสนทนา รวมถึงข้อมูลการสาธิตต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น เมื่อมีคำถามหรือปัญหาบางสิ่ง ตัว Chatbot จะตอบสนองตามที่ชุดคำสั่งกำหนด เช่นหากเราป้อนคำสั่ง “วิธีการทำ ต้มยำกุ้ง” ตัว Chatbot ก็จะแสดงผลออกมาเป็นสูตรวิธีการทำต้มยำกุ้ง เป็นต้น

ข้อมูลต่างๆ ที่ป้อนเข้ามาถูกนำมาพัฒนาใน ChatGPT-3.5 ด้วยวิธีที่เรียกว่า Supervised Learning เพื่อสร้างคำตอบหรือผลลัพธ์ให้ออกมาหลายรูปแบบ ตามชุดคำสั่งที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา อธิบายโดยละเอียดคือ วิธีนี้จะสร้าง Policy Model เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการสร้าง Multi Responses เมื่อมีการรับชุดคำสั่งจะมีการประเมินชุดคำสั่งว่าเหตุผลหรือผลลัพธ์ใดดีที่สุดสำหรับการตอบสนองชุดคำสั่งที่กำหนด และจะนำข้อมูลต่างๆ มาประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ออกมา (Reward) และเพื่อให้ AI เกิดการเรียนรู้ มีการนำวิธี

Reinforcement Learning from Human Feedback (RLHF) ซึ่งเป็นวิธีการรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ มาปรับปรุงโมเดลภาษาเพื่อให้ AI เรียนรู้ทำให้ระบบเกิดการจับคู่ของผลลัพธ์ที่ผู้ใช้ต้องการได้ ไม่ใช่แค่การทำนายผลลัพธ์แบบคำต่อคำเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง GPT-3

ส่วน GPT-4 ในตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนมากนัก แต่สิ่งที่ GPT-4 ใช้เป็น Multi Model แบบ Transformer-Style ที่สามารถเรียนรู้ได้จากแหล่งข้อมูลแบบสาธารณะและแหล่งข้อมูลที่รับอนุญาตจากบุคคลที่ 3 และยังใช้เทคนิค RLHF มาเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลลัพธ์ที่แม่นยำขึ้นเช่นการตอบกลับเมื่อมีการป้อนคำสั่งมา ทำให้ผลลัพธ์ไม่หลุดออกนอกขอบเขตของคำถาม  


ด้านสมรรถนะ (Performance) 

OpenAI ได้ปรับปรุงการทำงานของ GPT-4 จากเวอร์ชัน GPT-3.5 เช่นการลดความถี่ การตอบกลับคำตอบที่ไม่ได้อนุญาตให้ตอบ ลดการสร้างเนื้อหาลบๆ ที่อาจเป็นภัยต่อผู้ใช้และยังมีประสิทธิภาพมากกว่า GPT-3.5 โดยมีการนำไปทดลองในการสอบด้านวิชาการและวิชาชีพ GPT-4 ได้คะแนนเกณฑ์ที่ 90 ในการสอบ Uniform Bar ซึ่ง GPT-3.5 ได้คะแนนเกณฑ์ที่ 10 เท่านั้น


ด้านความสามารถ (Capabilities) 

ทั้ง ChatGPT และ GPT-4 จะมีความคล้ายกันแต่จะเน้นในเรื่องการเข้าถึงผู้ใช้และให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่าย แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ GPT-4 สามารถนำทั้งข้อความ และรูปภาพมาใช้ในการป้อนคำสั่งได้และมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจาก ChatGPT ในรุ่นก่อนหน้าที่ต้องใช้การป้อนคำสั่งเป็นข้อความเพียงอย่างเดียว


ข้อจำกัดและความเสี่ยงของ GPT-4 และ ChatGPT 

ข้อจำกัดและความเสี่ยงของ GPT-4 และ ChatGPT นั้นมีความเหมือนกันสามารถแบ่งได้ดังนี้

  1. Hallucination หรือมีแนวโน้มการสร้างสร้างเนื้อหาที่ไม่สมเหตุสมผล 
  2. การสร้างเนื้อหาที่อาจเป็นอันตราย เช่น เนื้อหาที่แสดงถึงความเกลียดชัง
  3. การสร้างข้อมูลในเชิงเสียดสี และลดคุณค่าของตัวบุคคล
  4. การสร้างข้อมูลเสมือนจริงที่ไม่มีในโลกซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่เหมือนกัน แต่การทดลองให้ AI ของ ChatGPT เจอสถานการณ์ที่หลากหลายก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ GPT-4 ได้

ไม่ว่า GPT-4 จะมีความแต่งต่างและมีประสิทธิภาพมากกว่า ChatGPT ในรุ่นก่อนหน้ามากเพียงใด การพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมอาจต้องประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกมาใช้จริง และการพัฒนาโมเดลของ AI หรือการตัดสินใจเลือกโมเดลมาใช้กับ AI จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและต้องคำนึงในด้านศีลธรรมด้วย

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Reject
Accept