milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
24 กุมภาพันธ์ 2566
ภาษาไทย

Web 3.0 สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับ ‘Creator Economy’

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนว่าโลกดิจิทัลเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมากและแทบจะไร้ขอบเขต และเป็นยุคที่อินเทอร์เน็ตเดินหน้าเติบโตต่อเนื่องและรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นด้วยการมาของ ‘Web 3.0’ ที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับ ‘Creator Economy’ หรือโลกของนักสร้างคอนเทนต์ โดยส่งผลดีต่อศิลปิน นักสร้างสรรค์และผู้ที่เกี่ยวข้อง บทความนี้ SCB 10X จะพาไปเจาะลึกเรื่องราวของ Web 3.0 ว่าเกิดผลดีและมีเรื่องใดที่น่าสนใจ สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างไรใน Creator Economy 

Arti42_800.jpg


ทำไมศิลปิน คนมีชื่อเสียงและนักสร้างคอนเทนต์ถึงต่างต้องหันมาให้ความสำคัญกับ Web 3.0?


จากที่ทราบกันดีว่าด้วยการระบาดของ COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เทคโนโลยี Blockchain, Crypto, NFTS และ Metaverse รวมถึง Web 3.0 ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและเป็นเทรนด์ที่ถูกให้ความสนใจในทุกวันนี้ และด้วยยุคใหม่ของอินเทอร์เน็ตที่ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์จะถูกยกระดับให้สูงขึ้นและเป็นประโยชน์กับผู้สร้างคอนเทนต์มากขึ้น


เนื่องจาก Web 3.0 ได้เข้ามาสร้างประโยชน์ให้กับเจ้าของคอนเทนต์ได้รับสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในผลงานและสิทธิ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ตนสร้างได้โดยตรง ซึ่งจะมีผลกับการสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มชื่อดังต่างๆ และในขณะที่ Web 3.0 กำลังถูกดำเนินการอยู่เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น AI, Machine Learning, AR/VR, Smart Contracts, Blockchain, และ Cryptocurrencies ก็มีส่วนกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ครั้งนี้ 


และอย่างที่ทราบกันดีถึงเรื่อง Decentralized หรือการกระจายศูนย์ที่มีเพิ่มมากขึ้น และ Marketplace ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงเรื่องของผลตอบแทนที่มีให้กับผู้สร้างคอนเทนต์ที่เหมาะสม โดย Web 3.0 ได้สร้างวิถีใหม่ของการสร้างคอนเทนต์รูปแบบดิจิทัล ที่ผู้สร้างคอนเทนต์จะได้รับผลตอบแทนจากผลงานและได้รับสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง ดังนั้นทุกคนในพื้นที่ ‘Creator Economy’ ไม่ว่าจะเป็น Influencers ที่มีชื่อเสียงไปจนถึงนักสร้างคอนเทนต์ดิจิทัลหรือนักธุรกิจต่างๆ จึงคาดหวังกับการมาของ Web 3.0 



จุดเด่นและจุดเริ่มต้นของ Web 3.0 สร้างความแตกต่างจากอินเทอร์เน็ตยุคก่อนหน้าอย่างไร?


Web 3.0 อินเทอร์เน็ตรุ่นที่สามหรือที่เรียกว่า Semantic Web เป็นวิวัฒนาการจาก Web 1.0 และ 2.0 โดยประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลายร่วมกับเทคโนโลยีสำคัญ เช่น Blockchain, Cryptocurrencies, NFT, VR, AR, และ AI ผนวกกับแนวคิดใหม่ๆ ที่กำลังเติบโตไปพร้อมกันอย่างเช่น “Decentralized” (การกระจายศูนย์) และ “Ubiquity” (สามารถเข้าเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา) หรือ “Connectivity” การเชื่อมต่อที่มีความก้าวหน้าและแตกต่างจากอินเทอร์เน็ตในยุคเก่าที่เป็นโครงสร้างระบบรวมศูนย์


Web 3.0 ใช้โมเดลอินเทอร์เน็ตแบบกระจายศูนย์ ซึ่งข้อมูลถูกเก็บไว้ในเครือข่าย P2P หลายเครือข่าย แทนที่จะเป็นฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ ซึ่งอินเทอร์เน็ตยุค Web 3.0 ที่มีการกระจายศูนย์จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับการเชื่อมต่อสำหรับการส่งข้อมูลถึงกัน และ Web 3.0 จะใช้การเขียน Smart Contracts ซึ่งทำงานอยู่บนเครือข่าย Blockchain เพื่อกำหนดเงื่อนไขรายละเอียดของแอปพลิเคชันต่างๆ 



Web 3.0 สามารถสร้างประโยชน์และโอกาสให้กับ Content Creators ได้อย่างไรบ้าง?


เทคโนโลยีที่เป็นส่วนประกอบใน Web 3.0 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการคอนเทนต์ครั้งใหญ่ เพิ่มแนวทางใหม่ๆ ให้กับการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ไปจนถึงเอื้อประโยชน์และสร้างความชัดเจนเรื่องของความเป็นเจ้าของในสิ่งที่นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้สร้าง รวมถึงมีหลากหลายวิธีเพื่อการสร้างคอนเทนต์จากการมาของ Web 3.0 โดยมีตัวอย่างของประเด็นที่น่าสนใจดังนี้:



ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ถูกยกระดับและโอกาสสร้างรายได้ที่หลากหลาย


เนื่องจากเทคโนโลยีต่างๆ ใน Web 3.0 สามารถสร้างประสบการณ์ใช้งานในแบบที่เราไม่เคยพบมาก่อน อย่างเช่นเรื่องของประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX: User Experience) ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะดึงดูผู้ใช้ให้เข้าถึงเนื้อหาบนแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งมีความพยายามในการพัฒนาและปรับปรุงในเรื่องนี้มากขึ้นและนำมาสู่การแข่งขันของยักษ์ใหญ่ในโลก Social Media 


นอกจากนี้ แพลตฟอร์มบน Web 3.0 เป็นไปในรูปแบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ หมายความว่าผู้ใช้จะได้มีส่วนร่วมและสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงรูปแบบสามมิติอย่างเต็มที่ อย่างเช่นใน ‘Metaverse’ ที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของ Web 3.0 ไม่ใช่เพียงแค่สร้างประสบการณ์ที่ดีและแปลกใหม่เท่านั้นแต่ยังสามารถดึงดูดผู้ใช้ให้เข้าถึงคอนเทนต์ได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลดีไปถึงนักสร้างสรรค์และแพลตฟอร์ม Metaverse ต่างๆ ให้เติบโตขึ้น นอกเหนือจากที่ผู้ใช้จะใช้ Avartar และใช้งาน Metaverse แพลตฟอร์มเพื่อเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์ ผู้ใช้งานยังสามารถสร้างประโยชน์จากโลกเสมือน Metaverse นี้ได้อีกหลายวิธี


โดยปัจจุบันมี Metaverse ใหม่ๆ ออกมาจำนวนมากและแต่ละแพลตฟอร์มต้องการนักสร้างสรรค์เข้ามาเพื่อเพิ่มคอนเทนต์ที่เสมือนเป็นคลังสินทรัพย์บนแพลตฟอร์มให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสที่ดีของทั้งแพลตฟอร์มและผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น:

  • ไอเดียของสินทรัพย์ดิจิทัล NFTs สำหรับใช้เพื่อเข้าสู่ชุมชนแบบปิดใน Metaverse อาจเป็นไอเทมแฟชั่นต่างๆ สำหรับใช้ตกแต่งตัวละครใน Metaverse
  • สามารถสร้างเกมบน Metaverse ที่มีอยู่ เช่น The Sandbox และ Roblox เพื่อต่อยอดสร้างรายได้ ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างเกมด้วยตนเองได้ง่าย
  • สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมก็มีเกมที่สามารถสร้างรายได้กับคอนเซปต์เกม ‘Play To Earn’ ใน Metaverse ตัวอย่างเช่น เกม Axie Infinity ที่ได้รับความนิยมสูง

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมหลายประเภทตั้งแต่แฟชั่นไปจนถึงการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ กำลังขยายไปยัง Metaverse เปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์ได้มีช่องทางนำเสนองานบนประสบการณ์ที่สมจริง เช่น จัดนิทรรศการ NFT แสดงผลงานและจัดงานปาร์ตี้ในโอกาสพิเศษต่างๆ เป็นตัน 



สร้างความเป็นเจ้าคอนเทนต์อย่างชัดเจนและเหมาะสมมากขึ้น

 

Web 3.0 ประกอบด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่ได้ช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการเป็นเจ้าของคอนเทนต์ มีการใช้ Smart Contracts ในการติดตามทุกการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างคอนเทนต์และผู้บริโภคนับตั้งแต่ที่คอนเทนต์ได้ถูกสร้างขึ้น และข้อมูลต่างๆ ถูกบันทึกใน Blockchain (Interaction Log) ซึ่งความเป็นเจ้าของคอนเทนต์ก็จะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนเพื่อลดการละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้บุคคลอื่นไม่สามารถทำซ้ำหรือแชร์เนื้อหาของเจ้าของเนื้อหาที่แท้จริงได้ 


ความเป็นเจ้าคอนเทนต์ที่ชัดเจนด้วยการใช้ประโยชน์จาก Smart Contracts ช่วยอำนวยความสะดวกในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้มีความโปร่งใสและตรงเวลาที่กำหนด โดยทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างคอนเทนต์ก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างเหมาะสมตามบทบาทของตนโดยปราศจากการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับคอนเทนต์มีความโปร่งใสและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม



ยกระดับการสร้างคอนเทนต์ไปสู่อีกขั้น


เทคโนโลยีต่างๆ ใน Web 3.0 ช่วยให้ขั้นตอนการสร้างคอนเทนต์มีความสะดวกคล่องตัวมากขึ้น ทำให้กระบวนการนี้สนุกและมีค่าใช้จ่ายน้อยลง อย่างการสร้างสรรค์บน Metaverse ที่ได้รับความนิยมและกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และ Web 3.0 ยังสร้างหนทางใหม่สำหรับการพัฒนาเนื้อหาด้วยการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการสร้างแบบเชิงลึกด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อย่างเช่น AI และ Machine Learning ที่ช่วยสร้างประสบการณ์การเข้าถึงเนื้อหาแบบเฉพาะบุคคลได้สะดวกและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี


ที่สำคัญยังมีเรื่องของ ‘Decentralization’ บน Web 3.0 คอนเซปต์สำคัญที่ทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์ได้รับประโยชน์และสิทธิ์ต่างๆ จากการสร้างสรรค์ของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถควบคุมบทบาทหน้าที่ของตนได้อย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีใน Web 3.0 ทำให้ยักษ์ใหญ่โลก Social Media ไม่สามารถควบคุมการสร้างรายได้จากการสร้างคอนเทนต์และการรับชมคอนเทนต์ของผู้ใช้งาน อย่างเช่น เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ที่ทำให้แพลตฟอร์มสามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างอิสระแทนที่ระบบประมวลผลข้อมูลแบบรวมศูนย์ ซึ่งผู้สร้างคอนเทนต์จะกลายเป็นเจ้าของเนื้อหาได้จริงและได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และด้วย Web 3.0 เป็นระบบ Decentralized หรือมีการกระจายศูนย์อย่างสมบูรณ์ทำให้ผู้ใช้จะได้รับความเป็นส่วนตัวและมีความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้นพร้อมกับความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่มีความเสี่ยงจากการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้แสวงหาผลประโยชน์

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Accept