สถานการณ์ของอุตสาหกรรม Metaverse และการพัฒนาประสบการณ์การใช้งาน

ครั้งนี้ SCB 10X ได้นำประเด็นที่น่าสนใจโดย คุณจรินทร ฐิตะดิลก - Founder / Project Lead ที่ GuildFi ได้มาพูดคุยแชร์ประสบการณ์และข้อคิดในวัน Orientation กับผู้เข้าแข่งขัน Hackathon ในงาน “SCB 10X Metathon 2022: Get Ready to the New World” โดยได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของอุตสาหกรรม Metaverse และ Blockchain 

สถานการณ์อุตสาหกรรม Metaverse และประสบการณ์การใช้งาน 

คุณจรินทร ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดคริปโตที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงครั้งใหญ่ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นเพียงกับตลาดคริปโตเพียงเท่านั้นแต่รวมไปถึงตลาดหุ้นอื่นๆ หรือไปจนถึงเหรียญที่เป็นโปรเจกต์ Metaverse ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามกลับมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีต่อการวางแผนสร้างสิ่งใหม่ๆ เพราะเมื่อตัดปัจจัยที่เกี่ยวกับเรื่องของราคาหรือช่วงเวลาของตลาดขาขึ้นออกไป ผู้พัฒนาจะได้มุ่งเน้นอยู่กับการสร้างได้เต็มที่ หรือหมายถึงว่าช่วงที่ตลาดกำลังเลวร้ายกลับเป็นช่วงเวลาที่ดีต่อการสร้าง และยังเป็นช่วงเวลาที่ดีในการค้นหาโปรเจกต์ต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างเช่นงาน Metaverse Hackathon ที่ทาง SCB 10X ได้จัดขึ้นนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เกิดการรวมตัวสร้างทีมที่ดีและเกิดไอเดียใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรม ไม่ใช่เพียงมุ่งเน้นไปที่เพียงด้านการซื้อขาย LAND ใน Metaverse เท่านั้น

ปัจจุบัน Metaverse ในอุตสาหกรรม Blockchain สามารถสร้างอะไรได้มากมาย และไม่จำเป็นต้องมีทีมขนาดใหญ่มากเพื่อการเริ่มต้น เพราะสามารถใช้เครื่องมือที่รองรองกับแพลตฟอร์ม Metaverse นั้นๆ ช่วยสร้างได้ แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะได้เห็นโปรเจกต์ดีๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น The Sandbox และ Roblox หรือ Decentraland ที่ต่างก็ใช้เงินทุนมหาศาลและมีความทะเยอทะยานในการพัฒนากันเป็นอย่างมาก 

นอกจากนี้ สามารถมีการผสมผสานหรือบูรณาการ Metaverse ร่วมกับเทคโนโลยี Blockchain เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานได้ เนื่องจากอะไรก็ตามที่ Blockchain ทำได้เราก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ Metaverse ได้เช่นกัน สามารถใช้ข้อดีของ Blockchain อย่างเช่น ‘Immutability’ หรือกลไกฐานข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแทรกแซงได้ และ ‘Interoperability’ หรืออิสระในการพัฒนา Blockchain เพื่อเชื่อมต่อกับ Chain อื่นๆ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ Metaverse ในการโอนย้ายสินทรัพย์ระหว่าง Metaverse ถึงแม้เราจะยังไม่ค่อยได้เห็น Metaverse ที่ใช้คอนเซปต์นี้มากนักในปัจจุบันเพราะโปรเจกต์ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นสร้าง Metaverse ของตนเองและมีผู้เล่นอยู่ในจักรวาลของตนเท่านั้น

และปัจจุบันในเกม Metaverse ยังมีผู้ใช้งานไม่มากนักเพราะยังเป็นช่วงของการเริ่มต้นและพัฒนา โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ามาใน Metaverse มักเป็นผู้ใช้ที่คุ้นเคยหรืออยู่ในโลกคริปโตมาก่อน และผู้ใช้ใหม่ที่แพลตฟอร์มต่างๆ ได้ดึงดูดเข้ามา ซึ่งจุดนี้ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ควรพิจารณาสำหรับการสร้างโปรเจกต์ต่างๆ เพื่อให้สามารถพัฒนาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้งาน และการสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือคุณค่าที่แท้จริงของ Metaverse ให้ตรงตามความต้องการกับของผู้ใช้งาน

ข้อสังเกตหนึ่งของเกม Metaverse ในปัจจุบัน ผู้เล่นที่เข้ามาไม่ได้ต้องการเข้ามาร่วมสนุกกับเกมอย่างแท้จริงอาจเนื่องมาจากเหตุผลต่างๆ อย่างเช่น ประสบการณ์การเล่นเกมที่ยังไม่ดีมากพอเมื่อเปรียบเทียบกับเกมแบบดั้งเดิม และ Metaverse ที่ทำงานบน Blockchain ผู้คนก็ย่อมนึกถึงเรื่องของการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นอันดับแรก เกิดกระแสนิยมอย่างคอนเซปต์ Play to Earn หรือ Play and Earn 

และสำหรับผู้ที่สร้างโปรเจกต์บน Metaverse ที่อาจคำนึงถึงเพียงเรื่องของค่าตอบแทนที่จะให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งที่จริงไม่ใช่มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้น โดยควรกลับไปมองถึงเรื่องค่านิยมหลักสำหรับพิจารณาเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ อย่างเช่นเรื่องของ Product Market Fit และปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข หรือควรคำนึงถึงกรณีที่หากเราตัดเรื่องของค่าตอบแทนออกไป ผู้เล่นเหล่านี้จะยังคงต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราต่อไปหรือไม่

ส่วนคอนเซปต์ Play to Earn ที่มีมาตั้งแต่ในยุคของเกมแบบดั้งเดิม อย่างเช่นในเกมออนไลน์ชื่อดังมากมายที่ผู้เล่นสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนไอเทมระหว่างกันภายในเกม หรือใน Metaverse ก็สามารถซื้อขายไอเทมกันผ่าน AR หรือ VR ได้ แต่เมื่อมี Blockchain เข้ามาเกี่ยวข้องผู้คนมักจะนำเรื่องของมูลค่าทางการเงินนำหน้าก่อนเรื่องอื่นๆ และต่างเข้ามาใช้งานเพียงเพื่อต้องการแบ่งมูลค่าหรือรับผลตอบแทนจากแพลตฟอร์มที่ในความเป็นจริงยังไม่สามารถทำได้ทันทีตั้งแต่ในวันแรก ดังนั้นการสร้างอะไรก็ตามบน Blockchain ควรคำนึงถึง Product Market Fit ซึ่ง Product Market Fit ในโลกคริปโตเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน สิ่งที่นำเสนอต่อนักลงทุนหรือผู้ใช้ที่ต่างมองหาสิ่งใหม่และมีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างเช่นมองหาเกมที่มีคุณภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นและหาทีมเพื่อร่วมกันสร้างเกมระดับ AAA 

การแข่งขัน Hackathon เพื่อต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก

ในมุมมองของคุณจรินทร มองว่าอุตสาหกรรม Blockchain จะสามารถโตต่อไปได้เป็นอย่างดี และยังคงเป็นพื้นที่ที่เป็นกระแสและได้รับความสนใจมาจากผู้ลงทุน ดังนั้น สำหรับนักพัฒนาที่เข้าร่วมแข่งขัน Hackathon ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องการให้ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันยังคงสร้างและพัฒนาในสิ่งที่กำลังทำต่อไป และหากผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีองค์ประกอบที่ดีพอก็จะสามารถเปิดโอกาสต่างๆ เข้ามา อย่างเช่นการระดมทุนจากผู้ลงทุนที่ให้ความสนใจตามมาได้

คุณจรินทรต้องการผลักดันให้ทุกคนที่ร่วมแข่งขันไม่ลืมสิ่งที่ได้จากการเข้าร่วม เพราะจะมีไอเดียใหม่ๆ ที่ดีมากมายเกิดขึ้นจากทั้งคนในทีมหรือทีมอื่นๆ ที่เข้าร่วม ซึ่งในช่วงเวลาที่แข่งเป็นช่วงของตลาดขาลงที่อาจเรียกได้ว่าเหมาะสมกับการสร้างและพัฒนาสิ่งใหม่ขึ้นอย่างที่ได้กล่าวในข้างต้น จึงแนะนำให้ทุกคนพยายามสร้างกันต่อไป และสมมติว่าในอนาคตเมื่อถึงช่วงของตลาดขาขึ้นและผลิตภัณฑ์ของเราสามารถไปอยู่จุดนั้นได้ก็อาจพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นโปรเจกต์ระดับโลกต่อไป หรืออย่างคอนเซปต์และโปรเจกต์ของ SCB 10X และ GuildFi ที่ได้ทำมากมายโดยเริ่มต้นจากปัญหาไปสู่ทางแก้ไขจนเป็นเกิดเป็นไอเดียใหม่สู่การพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆ

นอกจากนี้ เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรม Blockchain/DeFi Gaming ยังเป็นช่วงของการเริ่มต้นและผู้คนต่างกำลังทดลองเล่น รวมถึงคาดว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถเติบโตต่อไปได้อีกไกลและอาจได้เห็นเกมที่มีคุณภาพออกมาให้เล่นกันอีกมากมาย แต่ก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาสำหรับการพัฒนาต่อไปในอีกหลายๆ ด้าน