milkyway 6
milkyway 7
milkyway 8
Technology
17 มกราคม 2565
ภาษาไทย

Sygnum ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของโลก ที่ล่าสุดได้เปิดให้บริการ Staking บน Ethereum 2.0

DeFi และ Blockchain ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความพยายามเข้าสู่กระแสหลักด้วยหลากหลายองค์ประกอบ และด้วยความที่ถูกมองว่าจะเป็นอนาคตของโลกการเงินทำให้ได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย จนเกิดนวัตกรรมใหม่และนำไปสู่การปรับตัวจากหลายองค์กร ซึ่งบทความนี้ SCB 10X จะนำทุกท่านไปทำความรู้จักธนาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ได้เข้ามาบุกเบิกการให้บริการในพื้นที่ของสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) แบบเต็มตัว

1200x800 Get to Know About sygnum 01.png

ทำความรู้จัก Sygnum


Sygnum คือธนาคารเก่าแก่ที่มีรากฐานมาจากศูนย์กลางทางการเงินชั้นนำของโลกคือสวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ และได้ต่อยอดสู่การเติบโตขึ้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรกที่มีทั้งใบอนุญาตจากการธนาคารของสวิตฯ และใบอนุญาตการจัดการสินทรัพย์ของสิงคโปร์ โดย Sygnum ได้ใช้ขุมพลังของเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ หรือ Distributed Ledger Technology (DLT) ในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่การธนาคารที่มีการกำกับดูแลอย่างเป็นระบบและครบถ้วนบริบูรณ์

กลุ่มลูกค้าของ Sygnum มีความเชื่อมั่นในคุณค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลว่าจะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่และพลิกโฉมอุตสาหกรรมการเงินไปจากเดิมได้ ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ต้องการความปลอดภัยจากธนาคารที่มีการกำกับดูแล และต้องการนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี รวมถึงความคล่องตัวของผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก โดยทาง Sygnum มีการให้อำนาจแก่นักลงทุนสถาบันและเอกชนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม รวมถึงบริษัท ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นๆ ในการเข้ามาลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเกิดขึ้นใหม่นี้ 


ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้เกิดขึ้นใหม่นี้ ทาง Sygnum ได้ให้ความจำกัดความว่าเป็น ‘การเงินแห่งอนาคต’ ที่ปัจจุบันมีหลายฝ่ายต่างจับตามอง โดย Sygnum มีทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทำงานเพื่อมุ่งสู่การเงินอนาคตนี้ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อดีของเทคโนโลยี Distributed Ledger ในการให้บริการลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่



Solutions ที่น่าสนใจของ Sygnum 


ผลงานในการให้บริการด้านการธนาคารที่มีการควบคุมของ Sygnum ทำให้โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถสร้างผลตอบแทนได้ มีความสะดวก และเชื่อถือได้ โดยยกตัวอย่างลูกค้าของ Sygum ที่ใช้สกุลเงินอย่างเช่น USD, CHF, SGD หรือ EUR ฝากไว้เพื่อซื้อ และเทรด หรือถือสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลาย เช่น Bitcoin หรือ Ethereum และ Tokens อื่นๆ รวมไว้อยู่ในบัญชีเดียวได้อย่างปลอดภัย 


โซลูชันที่เป็นแกนหลักและเป็นจุดเด่นการให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของ Sygnum คือเรื่อง ‘Custody’ หรือการดูแลความปลอดภัยในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทาง Sygnum ให้บริการด้านความปลอดภัยในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้ระดับในระดับสถาบัน (Institutional-Grade) ที่ผู้ใช้สามารถไว้วางใจได้อย่างเต็มที่ โดยโซลูชัน Custody ที่ถูกกำกับดูแลของ Sygnum ได้รับการพัฒนาร่วมกับบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ของทาง Sygnum กับ Swisscom อย่าง ‘Custodigit’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านการธนาคาร และได้ออกแบบมาเพื่อการรักษาความปลอดภัยระดับสถาบัน ที่ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าสามารถลงทุนในระบบเศรษฐกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้ด้วยความไว้วางใจ 


เทคโนโลยีสำหรับการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Custody ของ Sygnum มีการสร้างขึ้นด้วยวิธีการรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้น ตั้งแต่ส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ตลอดจนกระบวนการและการกำกับดูแลต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับกุญแจสำหรับเข้ารหัสหรือ Private Keys ของผู้ใช้ โดยมีเกณฑ์ในการปฏิบัติงานและระดับความเชื่อมั่นตามมาตรฐาน ISAE 3000 (International Standard on Assurance Engagements 3000) หรือมาตรฐานงานที่ให้ความเชื่อมันระหว่างประเทศ รหัส 3000 เรื่องงานให้ความเชื่อมั่นนอกเหนือการตรวจสอบหรือการสอบทานข้อมูลทางการเงินในอดีต 


นอกจากนี้ ยังมีโซลูชันด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ของ Sygnum ที่ให้บริการ ได้แก่


  • Brokerage ให้เทรดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นตลอดเวลา
  • Tokenization เพิ่มโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุน และเพิ่มทุนอย่างมีประสิทธิภาพให้กับผู้ออกสินทรัพย์ หรือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทั้งผู้ออกสินทรัพย์และนักลงทุน ผ่าน Tokenization ใหม่และที่มีอยู่
  • Lending เสริมสภาพคล่องสินทรัพย์ด้วยสินเชื่อลอมบาร์ด หรือ Lombard Loans
  • Asset Management มีผลิตภัณฑ์การลงทุนด้านการจัดการสินทรัพย์ ที่ออกแบบมาสำหรับขั้นตอนการพัฒนาของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นปัจจุบัน
  • B2B Banking Services เพิ่มบริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการควบคุมให้กับภาคธุรกิจต่างๆ 


Sygnum ธนาคารแห่งแรกของโลกที่ให้บริการ Staking บน Ethereum 2.0


ความโดดเด่นในการเข้ามาในโลก DeFi และการรุกขยายการให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลายของ Sygnum ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อล่าสุดในวันที่ 6 ก.ค 2564 ได้ประกาศว่าเป็นธนาคารแห่งแรกที่เปิดให้บริการ Staking บน Ethereum 2.0 ที่ยังให้ความสะดวกและปลอดภัยในระดับสถาบันตามแบบฉบับของแพลตฟอร์ม Sygnum พร้อมทั้งยังให้ผลตอบแทนสูงถึง 7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี


ด้วยในฐานะที่  Sygnum  ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกและริเริ่มในการนำผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายรูปแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่เข้ามาสู่พื้นที่ที่มีการควบคุมกำกับดูแล โดย Sygnum จึงได้มีการขยายอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดอย่าง ‘Staking’ เพิ่มเข้ามา ซึ่งการให้บริการ Staking ในแพลตฟอร์มของ Sygnum ได้ออกแบบการใช้งานออกมาอย่างเรียบง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ รวมถึง Ethereum ที่เป็น Blockchain Protocol ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองและเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตแบบก้าวกระโดดของผลิตภัณฑ์หรือแอปพลิเคชันที่ให้บริการทางการเงินแบบกระจายศูนย์ หรือ Decentralised Finance (DeFi) มากมายในปัจจุบัน ซึ่ง Staking ก็เป็นตัวเลือกที่กระตุ้นความสนใจแก่เหล่านักลงทุนใน Ethereum แบบระยะยาว รวมถึงนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ 

สำหรับ Ethereum 2.0 จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและความปลอดภัย รวมถึงการวางตำแหน่งของเครือข่ายที่ดีขึ้นเพื่อรองรับสำหรับการเติบโตในอนาคต โดย Staking เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานระยะแรกของการอัปเดต ETH 2.0 นี้ ซึ่งได้มีการใช้งานจริงไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2563 ที่ผ่านมา กับการเปิดตัวการอัปเกรด ‘Beacon Chain’ โดยการอัปเกรดแบบเต็มรูปแบบคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกมากกว่าหนึ่งปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ดี สำหรับการอัปเกรด Block Chain ใหม่นั้นก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความเสถียรและมี Ethereum มูลค่ามากกว่า 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ถูก Stake ไปแล้ว

นับว่าเป็นอีกกรณีศึกษาของการให้บริการทางเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) และการใช้เทคโนโลยี Distributed Ledger มาปรับใช้ในส่วนของพื้นที่ที่มีความน่าเชื่อถือ ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย และมีการกำกับดูแลในระดับสถาบัน ซึ่งน่าสนใจว่าในอนาคตของธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งนี้หรือองค์กรอื่นๆ จะมีการนำข้อดีของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พลิกโลกการเงินอย่าง DeFi และ Blockchain มาขยายบริการด้านอื่นๆ ให้เราได้ศึกษากันอีกหรือไม่ อย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไป

Use and Management of Cookies

We use cookies and other similar technologies on our website to enhance your browsing experience. For more information, please visit our Cookies Notice.

Accept