“Story Protocol” กับแนวคิดที่ปฏิวัติการจัดการกับทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain
งาน REDeFiNE TOMORROW 2024 ในช่วงของ SY Lee, CEO & Co-founder ของ Story Protocol ร่วมพูดคุยกับ Ryan Kim, Co-founder & Partner ของ Hashed แบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property: IP) บน Web 3 และการนำ IP เข้าสู่โลก Blockchain เปิดทางให้นักสร้างได้ผลตอบแทนและอิสระมากขึ้น พบกับสรุปประเด็นสำคัญในบทความนี้
Story Protocol กับภารกิจพลิกโฉม IP
- Lee ชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดโครงสร้างพื้นฐานของระบบ IP แบบเดิมที่มีความยุ่งยากในการสร้างเครือข่ายและไม่สามารถแบ่งผลประโยชน์ให้กับผู้สร้างได้อย่างเป็นธรรมในยุค AI
- Story Protocol จึงมุ่งหวังแก้ไขปัญหานี้ด้วยการทำให้ IP สามารถโปรแกรมได้ (Programmable) โดยสร้าง API สำหรับการนำ IP มาต่อยอด (Remix) จัดการลิขสิทธิ์ และแบ่งปันผลประโยชน์ เปลี่ยน IP ให้กลายเป็น “IP Legos”
Story Protocol เน้นความสร้างสรรค์และให้ความสำคัญกับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา
- โปรโตคอลนี้เน้นการสร้างสรรค์ร่วมกัน (Collaborative Creation) โดยให้ผู้สร้างและแฟน ๆ ร่วมกันสร้างมูลค่า ตัวอย่างเช่น แอป “Sekai” ที่ให้ผู้ใช้สร้างอนิเมะของตัวเองจาก IP Legos ของผู้สร้างหลายคน และอีกตัวอย่างคือ แอป “Magma” ที่เป็น Figma สำหรับนักวาดภาพประกอบเกม โดยมีศิลปินกว่า 2 ล้านคนที่ผลิตภาพวาด 10 ล้านภาพต่อปี ซึ่งตัวละครเหล่านี้จะกลายเป็น IP Legos ที่สามารถนำไปใช้ในเว็บตูน การ์ตูน หรือเกมได้อย่างอิสระ
- Blockchain ของ Story Protocol ทำหน้าที่เป็น “IP Legoland” ที่รวบรวมภาพ ศิลปะ และตัวละครไว้ให้ผู้ใช้สามารถนำมาผสมผสานกันได้ โดยมี API ในตัวสำหรับการออกใบอนุญาตและการแบ่งปันค่าลิขสิทธิ์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคนกลาง
แนวทางการจัดการทรัพย์สินทางปัญญาของ Story Protocol
- มีแนวทาง 3 ประการ ได้แก่
- การให้ลิขสิทธิ์โดยสมัครใจ: ผู้ใช้งานทำการขออนุญาตใช้เนื้อหาอย่างถูกต้อง
- การดำเนินคดีนอก Blockchain: สำหรับกรณีละเมิดลิขสิทธิ์
- การใช้ระบบพิสูจน์ความผิดพลาดบน Blockchain ซึ่งใช้ระบบ Proof-of-Stake
- การให้ลิขสิทธิ์โดยสมัครใจ: ผู้ใช้งานทำการขออนุญาตใช้เนื้อหาอย่างถูกต้อง
- Story Protocol ยังนำเสนอแนวคิด “Proof of creativity” โดยผู้ใช้จะต้อง Stake โทเค็น IP เพื่อยืนยันความถูกต้องของ IP และปฏิบัติตามกฎของสัญญาอัจฉริยะ
- Story Protocol กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการผสานรวม AI โดยสร้างเลเยอร์ IP ที่สามารถโปรแกรมได้เพื่อแก้ไขปัญหาของระบบ IP แบบเดิมในการสร้างเครือข่าย IP และการแบ่งผลประโยชน์ให้กับผู้สร้างในยุค AI โดยกำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม Web3 Hugging Face สำหรับการฝึกและปรับแต่งโมเดล AI แบบเปิดกว้าง โดยแต่ละองค์ประกอบ (ข้อมูลสำหรับฝึก, โมเดล AI, โมเดลที่ปรับแต่งแล้วอย่างละเอียด และผลลัพธ์) จะเป็น IP Lego ที่มีระบบการจัดการลิขสิทธิ์และแบ่งปันผลประโยชน์ในตัว
- แนวทางนี้ช่วยให้สามารถนำโมเดลต่างๆ มาผสมผสานกันเพื่อสร้างโมเดลตัวละคร AI ใหม่ โดยรักษาที่มาและเครดิตของผลงานตลอดกระบวนการ ซึ่งผลลัพธ์จะปฏิบัติตามกฎการจัดการลิขสิทธิ์และแบ่งปันผลประโยชน์ของโมเดล AI
เป้าหมายและแผนในอนาคตของ Story Protocol
- Story Protocol มีเป้าหมายเป็นเลเยอร์ที่สร้างรายได้จาก IP สำหรับโมเดลและชุดข้อมูล (Fine-tuning datasets) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อเข้ารหัสและเพื่อให้มีอุปทานจำกัด, สามารถตรวจสอบที่มา เครดิต และการแบ่งปันผลประโยชน์ได้
- ในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า Story Protocol วางแผนเปิดตัว Testnet ร่วมกับพันธมิตร และตามด้วยการเปิดตัว Mainnet โดยเน้นการสนับสนุน IP และผู้สร้างใน Ecosystem ผ่านแอปพลิเคชันที่น่าสนใจ เป้าหมายคือการสร้างบล็อกพื้นฐานและเวอร์ชันแรกของ “IP Legoland” พร้อมเน้นการนำ IP ที่สร้างโดยแอปเข้าสู่ระบบแบบ Bottom-up
- เป้าหมายสูงสุด คือการพัฒนาระบบนิเวศน์ IP แบบครบวงจร หรือ "IP Legoland เวอร์ชันแรก" โดยเน้นการนำ IP จากแอปพลิเคชันต่างๆ เข้าสู่ระบบเป็นหลัก
รับชมทั้งหมดที่ Youtube: https://youtu.be/3xAyUqBuSRo?si=PNNW0TD_YY_eXxnP